เปิดคู่มือการใช้ชีวิตช่วง เคอร์ฟิว

"เคอร์ฟิว"หมายถึง การห้ามออกจากเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว (curfew) หมายถึง คำสั่งของรัฐบาล ห้ามประชาชนออกจากเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด

เวลา 14.00 น. วัน19 พ.ค.  ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ออกประกาศกฎหมายว่าด้วยการจำกัดสิทธิส่วนบุคคล โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดต่อไปนี้


 1. ห้ามมิให้บุคคลใดในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 19 พ.ค.2553 ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 2553( ประกาศเคอร์ฟิว)


 2. ให้พนักงาน และเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด


 3. ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่กลับเข้าสู่เคหะสถาน และไม่ออกมายังพื้นที่ที่กำหนด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการ ศอฉ.กำหนดพื้นที่ และรายละเอียดเพิ่มเติมตามสมควรแก่เหตุ.


 ฉะนั้น ตั้งแต่ 2 ทุ่มคืนนี้เป็นต้นไป ชีวิตคนกรุงเทพ  ต้องปรับเปลี่ยนเข้าสู่ภาวะเคอร์ฟิว  จนถึง 6 โมงเช้า 

  
ตามความหมายของคำว่า "เคอร์ฟิว" หมายถึง  การห้ามออกจากเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว (curfew) หมายถึง คำสั่งของรัฐบาลให้ประชาชนกลับเคหสถานก่อนเวลาที่กำหนด อีกนัยหนึ่งคือการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด (มักเป็นเวลากลางคืน) ซึ่งเป็นการกำหนดขึ้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หรือให้ความสะดวกต่อการปราบปรามกลุ่มเป้าหมาย

 คำว่า "เคอร์ฟิว" มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า couvre feu แปลว่า ดับไฟ (couvre = ดับ, feu = ไฟ) ซึ่งคำนี้ถูกนำมาใช้ในภาษาอังกฤษโดยสะกดว่า curfew


   คำแนะนำในการใช้ชีวิต ช่วงเคอร์ฟิว  มีดังนี้


   1.  ควรซื้ออาหาร  แห้งและอาหารสดเก็บในตู้เย็นพอควร


   2.   เตรียมไฟฉาย และถ่านไฟฉาย เตรียมไว้ให้พร้อม


   3.    เติมน้ำมันรถยนต์ให้เต็ม


   4.    เตรียมเงินสด ติดตัวพอสมควร ( ไม่ต้องเก็บไว้มากเกินไป)


   5.   ควรเตรียมเสื้อผ้า ยาประจำตัว และอาหารแห้ง เตรียมไว้ในรถยนต์


   6.   ติดบัตรแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ 


   7 . เตรียมโทรศัพท์มือถือ  บันทึกเบอร์โทรที่สำคัญ และชาร์ตแบตเตอรี่ให้พร้อม


    อย่างไรก็ตามหากมีธุระจำเป็นต้องออกจากเคหะสถาน  หรือ กำลังเดินทางไปต่างประเทศ หรือ กลับจากต่างประเทศ  จะต้องเตรียมเอกสารประจำตัว เช่น หนังสือเดินทาง  ตั๋วเครื่องบิน  บัตรประชาชน หรือหนังสืออนุญาต   เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารสำคัญ 


     และในกรณีที่มีธุระไม่จำเป็นเจ้าหน้าที่อาจไม่อนุญาต และเจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการกักไม่ให้เดินทางก็ได้

นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติควรจะบันทึกเบอร์สายด่วน หรือฮอตไลน์ใส่โทรศัพท์มือถือไว้ และโทรศัพท์ควรมีแบตเตอรรี่เต็มหรือมีแบตฯสำรอง

    
รวมสายด่วนสำคัญ เมมใส่มือถือไว้

สายด่วน ศอฉ.Tel. 02-551-1515

โทรฉุกเฉิน 199

ทางด่วน 1543

จราจร 1197

รถเมล์ 184

กทม. 1555

ฉุกเฉิน 1669


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์