ทหารรุกคืบคุมหลายพื้นที่ สไนเปอร์ยิงต้านม็อบ คืบใกล้ราชดำริ แดงเริ่มถอย แต่ยังไม่เลิกเผาเมือง

เวลา 08.19 น. รถหุ้มเกราะสามารถเคลื่อนตัวไปตามถนนราชดำริได้แล้ว ตามด้วยรถบรรทุกน้ำ เนื่องจากหวั่นว่า การ์ด นปช.จะใช้น้ำมันราดสกัดไว้อีก เนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มเสื้อแดง ได้จุดไฟเผายางข้างตึก สก. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จนควันดำมืดทึบ รถบรรทุกน้ำจึงฉีดน้ำดับเพลิงเร่งด่วน ส่วนกำลังพลเดินเท้า ยังต้องชะลออยู่ เนื่องจากการ์ด นปช.ยิงปะทะตลอดเวลา โดยมีรถทหารประกาศไปพร้อมกันตลอดเส้นทางที่เคลื่ีอนเข้าถ.ราชดำริ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ การปฏิบัติการดังกล่าว ทำตามคำสั่งของ ศอฉ. เนื่องจากการชุมนุมได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนร่วม

เมื่อเวลา 8.10 น. กองกำลังหทารได้เปิดฉากรุกพื้นที่เข้าไปบริเวณแยกสารสิน โดยใช้รถหุ้นเกราะหลายคันนำหน้า และกลุ่มคนเสื้อแดงจุดไฟเผาแนวยางรถยนต์ที่กองไว้

ขณะที่ทหารและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พยายามดับเพลิงกองยางรถยนต์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจุดขึ้น ซึ่งบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยกลุ่มควัน ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ถอยร่นออกไปบังเกอร์อีกชั้นด้านใน

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ทหารก็สามารถทลายรั้วยางรถยนต์ที่กองสุมไว้ได้ส่วนหนึ่ง และนำระเบิดมาวางหลบไว้ ค่อยๆ คืบเข้าไปในพื้นที่ โดยกองกำลังทหารสนับสนุนหลบอยู่ตามจุดต่างๆ ทหารได้ใช้รถหุ้มเกราะดันรั้วยางรถยนต์ที่กองกันเป็นแนว เป็นแถวหลายชั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทหารได้ส่งกำลังเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในสวนสาธารณะสวนลุมพินี ซึ่งมีกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแฝงตัว และเคยลอบยิงเจ้าหน้าที่ กับประชาชนมาก่อนหน้าแล้ว

เมื่อเวลา 07.50  น. ที่แยกศาลาแดง  ได้เริ่มการปะทะกันแล้ว เมื่อกองกำลังทหาร ได้เคลื่อนรถหุ้มเกราะ เข้าประชิดแนวรั้วยางกลุ่ม นปช. ก็พบว่ามีระเบิดทิ้งไว้ตามแนวรั้วยาง ซึ่งมีหลาวไม้ไผ่ปกอยู่ด้วย และการ์ด นปช. ได้ยิงตอบโต้ ทำให้ทหารอยู่ประจำการอยู่บนสกายวอล์ค รถไฟฟ้าบีทีเอส ต้องยิงสไนเปอร์ต้านไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปฏิบัติการเคลียร์ระเบิดเข้าไปเก็บกู่ได้ โดยมีการยิงปะทะกันถี่มากขึ้น เป็นผลให้ผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติภารกิจต้องหลบกันพัลวัน ขณะเดียวกันก็มีพระสงฆ์ซึ่งมีวัด เช่น วัดหัวลำโพง ออกบิณฑบาตร ก็ต้องหลบกระสุน รีบหลบออกจากพื้นที่ด่วน

ด้านแกนนำ นปช.มีท่าทีเคร่งเครียด ยังยืนยันจะอยู่ในพื้นที่ชุมนุม แม้กองกำลังทหารจะปิดล้อมก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง จึงไปรวมตัวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และไม่อนุญาตให้ออกไปสังเกตการณ์หลังเวที นปช.อีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประตูทุกด้าน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า หากเกิดการปะทะ จะเปิดประตูให้ผู้ชุมนุมเข้ามาหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ต้องพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง

เมื่อเวลา07.45 น.  ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เตรียมขนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่โรงพยาบาล ไปทางถนนอังรีดูนัง หลังเกิดควันไฟพวยพุ่งจากการเผายางระยนต์ของกลุ่มนปช. ลอยพัดเข้าไปยังพื้นที่ของรพ.เป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะควันไฟที่ลุกไหม้อยู่ไม่ไกลจากทางตึกสก. ซึ่งเกรงว่า จะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลอยู่ อย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่พบว่า เกิดเพลิงไหม้ไปยังพื้นที่ของดรงพยาบาลแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 07:39 น.  เจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน คลองเตย แจ้งว่า มีกลุ่มชายชุดดำพยายามเผาโดยทุบกระจก และใช้น้ำมันเทเข้าไป ประชาชนได้เข้าไปห้าม แม้มีผู้สื่อข่าวสังเกตการณ์อยู่ และยกกล้องขึ้นบันทึกภาพ ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. เข้ามาสกัดไม่ให้ถ่ายภาพ และให้หลีกออกไปจากพื้นที่


เมื่อเวลา 07:31  น. ที่แยกศาลาแดง ทหารประกาศเตือนไม่ให้ใช้ปืนยิงผู้ชุมนุมจนกว่าจะมีการตอบโต้ออกจากผู้ชุมนุม ขณะที่กลุ่ม นปช.ถอยร่นเข้าราชประสงค์ 

เมื่อเวลา 07:30 น. เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมเพลิง บริเวณ หน้าสำนักงาน ป.ป.ส.สามเหลี่ยมดินแดงไม่ให้ไฟลุกลามได้แล้ว

เมื่อ07.10 น.  แก๊สน้ำตาลูกแรก ถูกยิงเข้าไปในที่แยกศาลาแดง

เมื่อเวลา 07.00 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แกนนำ นปช. ทราบการเคลื่อนกำลังพลอย่างชัดเจนของกองกำลังทหาร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นเวทีแจ้งแก่ผู้ชุมนุมให้อยู่ในความสงบ ตั้ังรับสถานการณ์ในการเข้าสลายการชุมนุม โดยการ์ด นปช.ได้นำผ้าปิดจมูกหลังจากถุงพลาสติกใส แจกจ่ายแก่ผู้อยู่ในพื้นที่ เพื่อใช้ป้องกันแก๊สน้ำตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเวที นพ.เหวง โตจิราการ ก็ได้สวมใส่เสื้อกันกระสุน พร้อมกับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายแพทย์เหวง โตจิราการ ยังคงอยู่ด้านหลังเวที พร้อมกับได้ให้สื่อมวลชนออกนอกพื้นที่ไปมให้หมดด้วย



เมื่อเวลา 06.00 น. -07.00 น. ที่บริเวณถ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี  กลุ่มผู้ชุมนุมนปช.ได้นำยางรถยนต์ประมาณ 100-200 เส้น มาวางขวางหน้าปิดถนน ส่งผลให้สี่แยกแคราย ทั้งขาเข้าและขาออก รถติดยาวเหยียด เจ้าหน้าที่ตำรสวจพยายามเจรจาขอให้เปิดเส้นทาง


เมื่อเวลา 06.50 น.  ภายในกลุ่มผู้ชุมนุมราชประสงค์ มีการปล่อยโคม และใช้บั้งไฟ กับประทัดยักษ์ยิงเพื่อสกัดกั้นการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่โดยเฮลิคอปเตอร์ ส่วนภายในโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้ก็ปิดทุกประตู ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้า

เมื่อเวลา 06.45 น. ที่แยกถนนดินแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดไฟเผาสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(...)ด้านหน้าที่อยู่ชั้นล่าง   โดยชาวบ้านบริเวณดังกล่าวและสื่อมวลชน ได้ต่างพยายามไปช่วยกันดับไฟ แต่ถูกกลุ่มผุ้ชุมนุมไล่ทำร้ายไม่ให้เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าไปดับไฟและเก็บภาพการก่อเหตุที่ร้ายแรงดังกล่าวได้  ส่วนชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้กับสำนักงานปปส.ต่างพากันขนของย้ายหนีไฟไหม้ และพยายามช่วยกันดับไฟ โดยที่ยังไม่มีรถดับเพลิงเข้ามายังพื้นที่แต่อย่างใด

เวลาประมาณ 06.00 น. ที่แยกราชประสงค์   ทหารเริ่มแจ้งผู้ชุมนุมออกจากราชประสงค์ และเริ่มฉีดน้ำ พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้า ให้รู้ว่าขณะนี้ทหารได้ประชิดด่านตรงจุดสวนลุมแล้ว

ส่วนที่ บ่อนไก่  แยะพระราม4  พบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำยางรถยนต์มาเผาจนเกิดควันไฟเต็มพื้นที่ โดยควันกลุ่มดังกล่าวได้ลอยล่องขึ้นท้องฟ้าจนเป็นสีดำมืดเต็มไปหมด นอกจากนี้ ยังพบว่า มีชายชุดดำวิ่งจุดไฟตามตึก ทำให้ไฟโหมไหม้ บริเวณใกล้คอนโดบ่อนไก่ด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มวัยรุ่นนับ 30 คน ระดมกันนำยางรถยนต์เก่า มาวางบนถนนพระราม 4 ใกล้ใต้ทางด่วน จุดไฟเผาส่งควันดำลอยบดบัง เริ่มกระจายตัวปกคลุมไปจนถึงเส้นทางด่วนแล้ว ขณะเดียวกัน กระจายการจุดไฟจนไปลามคลินิกรักษาสัตว์ เป็นเหตุให้คนภายในต้องทะยอยนำสัตว์ที่มารับการรักษาออกจากคลินิก

เวลา 06.00 น. ที่สี่แยกศาลาแดง เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังกันนับพันนาย ได้เคลื่อนเข้าใกล้แนวรั้วของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยได้ประกาศเสียงตามสาย ให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ทันที ขณะเดียวกัน ฝั่งการ์ด นปช. ที่รักษาการนิ่งอยู่ อย่างไรก็ตาม มีเสียงปืน พลุ และตะไล ยิงตอบโต้มาจากแนวรั้ว

เวลา 05.00 น. ทางทหาร มีการประกาศแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ชุมนุมโดยด่วนและทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เปิดพื้นที่ถนนอังรีดูนังต์ไว้ ซึ่งทราบว่า เพื่อให้ผู้ประสงค์ที่จะออกจากการชุมนุม ใช้เส้นทางดังกล่าวเดินเท้าออกมา

เวลา 03.30 น. ได้มีรถหุ้มเกราะจำนวน 7 คัน รถบัสทหารกว่า 20 คัน ภายในมีเจ้าหน้าที่ทหารเต็นคันวิ่งผ่านถนนสีลมมุ่งหน้าศาลาแดง เพื่อกระชับวงล้อมเข้าไปยังพื้นที่ชุมนุมราชประสงค์

เวลา 01.35 น. วันที่ 19 พ.ค.  เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ตกที่หน้าร้านอาหารจันทร์เพ็ญ ใกล้ซอยงามดูพลี ใกล้กับบ่อนไก่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดย 2 รายถูกนำส่ง รพ.เลิศสินคือนายสนทญา ไทรชมภู อายุ 27 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขาขวาและนายธวัช ฉวีวัฒน์ อายุ 45 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าแผ่นหลัง ส่วนอีก 2 รายถูกนำส่ง รพ.กล้วยน้ำไท 2 ราย ยังไม่ทราบชื่อ

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 18 พ.ค.  พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 20.00 น.เกิดเหตุระเบิดไม่ทราบชนิดตกที่หน้าสน. 1 ลูกจากนั้นเวลาห่างกันประมาณ 10 นาที ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้ง ห่างจากโรงพัก แต่ไม่ทราบทิศทางที่แน่ชัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้งเช้าวันพรุ่งนี้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์