ม็อบแดงไม่รับมติร่วมนปช.-ส.ว.เจรจารบ.

(18พ.ค.)  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้แถลงท่าทีเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า หลังรับข้อเสนอให้ประธานวุฒิสภาเป็นคนกลางในการเจรจากับรัฐบาล พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา พร้อมคณะ จะมาหารือกับ นปช.ที่เวทีราชประสงค์


ส่วนกรณที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอให้ นปช.ยุติการชุมนุม แล้วจะไปเจรจาให้รัฐบาลถอนกำลังทหาร

ไม่เช่นนั้นจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลนั้น ถือเป็นไมตรีจากนายบรรหาร หากจะร่วมเป็นตัวกลางเจรจากับนายกรัฐมนตรี เหมือนกับคณะของ ส.ว.ซึ่งทาง นปช.เองไม่ขัดข้อง แต่การจะให้ยุติการชุมนุม ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกรงว่า ประชาชนจะไม่ปลอดภัย จากที่ยังไม่มีการถอนทหารออกจากพื้นที่


ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ได้ตอบโต้ที่ถูกแกนนำรัฐบาล และ ศอฉ.ระบุว่า เป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายว่า เป็นเรื่องที่เหลวไหล

เพราะไม่เคยรับรู้ หรือสั่งการใดๆ จึงจะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กล่าวหาทั้งหมด พร้อมตำหนิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่ได้กล่าวหาในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยกับการแจกสิ่งของช่วยเหลือผู้ชุมนุมของสภากาชาดไทย รวมทั้งการเปิดเขตอภัยทานของวัดปทุมวนาราม เพราะเกรงว่า จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุม ให้ปักหลักอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้ เรื่องนี้เห็นว่าไม่สมควร และทำให้กระทบต่อบรรยากาศการสร้างมิตรภาพ


ต่อมาเมื่อเวลา 20.15 น.คณะส.ว.นำโดยพล.เลิศรัตน์  พล.ต.ยุทธา ไทยภัคดี ส.ว.สรรหา นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี และนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ แถลงข่าวผลการหารือร่วมกับแกนนำนปช.โดยใช้เวลาในการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง


จากนั้น พล.อ.เลิศรัตน์ แถลงว่า แกนนำ นปช.และคณะ ส.ว.มีมติตรงกันว่าแกนนำ นปช.พร้อมที่จะให้มีการหยุดยิงและเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ตามรอบพื้นที่ราชประสงค์ทั้งบ่อนไก่ ศาลาแดง ลุมพินี อนุสาวรีย์ชัย ดินแดง และ ราชปรารภ และขอให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการเจรจาหยุดการใช้ความรุนแรงตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป หลังจากนี้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อไม่ให้ใช้ความรุนแรงในทุกกรณีกับผู้ชุมนุม


“ช่วง 5 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่มาตรการที่เหมาะสมจนนำไปสู่การใช้อาวุธกันโดยไม่เจตนา ไม่มีใครที่อยากจะฆ่าใคร ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นในสิ่งนี้ เพราะเชื่อว่าคนไทยต้องไม่ฆ่าคนไทยด้วยกัน ” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว


พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่สำคัญ คือ  ต้องหาความเห็นร่วมกันให้ได้และยุติการใช้อาวุธต้องมีการคุยกันเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างคนเสื้อแดงและรัฐบาล

โดยที่ผ่านมามีการเจรจาทั้งทางเปิดและทางลับตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.เป็นเวลากว่า 10 ครั้ง มีการเห็นชอบร่วมกันในหลายๆเรื่องรวมถึงการยุติการชุมนุม การยุติการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งที่ประชุมแกนนำ นปช.กับคณะ ส.ว.มีความเห็นร่วมกันโดยแกนนำผู้ชุมนุมพร้อมกับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากไม่ต้องการเห็นผู้ชุมนุมสูญเสียเพิ่มเติมอีก เป็นความจริงใจเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างสันติและเชื่อว่ารัฐบาลจะตอบท่าทีของ นปช.ในครั้งนี้


พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อไปนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะนำความเห็นนี้ไปแจ้งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 พ.ค.เพื่อยุติความขัดแย้งให้เร็วที่สุด โดยจะเป็นการเจรจา 3 ฝ่ายได้แก่ ตัวแทนของรัฐบาล แกนนำ นปช.และประธานวุฒิสภา ซึ่งจะทำหน้าที่คนกลางในการเจรจา


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.กล่าวว่า เราเห็นความสำคัญในเรื่องการสูญเสียของผู้ชุมนุม การดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะ

เป็นเรื่องของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องยุติในเรื่องของการสูญเสีย ซึ่งการกระทำที่ผ่านมาต้องมีบุคคลรับผิดชอบต่อกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่การเริ่มชุมนุมถึงปัจจุบัน และการเจรจาครั้งนี้จะไม่มีการนิรโทษกรรม ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญ คือ ต้องการยุติการความสูญเสียและความรุนแรง ส่วนเรื่องคดีความต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนข้อเท็จจริงที่ปรากฎทั้งพยานหลักฐาน สิ่งใดที่เราได้กระทำความผิดก็พร้อมรับผิด เช่นกันกับรัฐบาลก็ต้องรับผิดตามกระบวนการตามกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้เรื่องการเจรจาเป็นความปรารถนาดีของทุกฝ่ายขอให้ผู้ชุมนุมเข้าใจสถานการณ์ด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.เลิศรัตน์ กำลังแถลงข่าวอยู่นั้น ปรากฏว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจกับคำพูดในบางช่วง

โดยเฉพาะการที่ พล.อ.เลิศรัตน์ บอกว่า มีการใช้อาวุธกันโดยไม่เจตนา จนผู้ชุมนุมได้ตะโกนโห่ร้อง พร้อมทั้งมีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และคำพูดของ พล.อ.เลิศรัตน์ ในการประกาศมติของคณะ ส.ว.และแกนนำ นปช.ที่จะกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างเป็นทางการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้แต่ทีมงานของคนเสื้อแดงที่อยู่หลังเวทีบางรายก็เดินเข้ามาตะโกนต่อว่าระหว่างการแถลงข่าว และเรียกร้องให้ พล.อ.เลิศรัตน์ ถอนคำพูดดังกล่าว พร้อมกับมีการเดินมายังที่พักของแกนนำบริเวณหลังเวทีพร้อมกับตะโกนด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงและขอให้ยกเลิกการเจรจา จนทำให้นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. ต้องสั่งให้การ์ดเข้าห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้ามาบริเวณที่แถลงข่าว


จากนั้น แกนนำ นปช. อาทิ
นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ได้ขึ้นเวทีทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมถึงเหตุผลในการเจรจากับรัฐบาล และห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมมีอารมณ์โกรธแค้น กลุ่ม ส.ว. อย่างไรก็ตาม แกนนำ นปช.ได้ให้มอเตอร์ไซค์และกลุ่มการ์ดมารับ ส.ว.ออกจากพื้นที่ชุมนุม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังมีผู้ชุมนุมตะโกนด่าตามหลังเป็นระยะ


ต่อมานายจตุพร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยชี้แจงว่า ขอให้ประชาชนทั้งหมดเข้าใจด้วยว่าการเจรจาครั้งนี้ คือ การเจรจาเพื่อให้หยุดยิง ไม่ใช่เจรจาเพื่อขอยอมแพ้ และเนื้อหาของการเจรจายังไม่ได้เริ่มขึ้น


เราคุยกันในเรื่องขอให้หยุดยิงอย่างเดียวเท่านั้น และตอนนี้ตนได้รับทราบข่าวมาว่า นายอภิสิทธิ์ ได้สั่งให้ทหารกระชับกำลังเข้ามา และจะเข้าสลายการชุมนุมในเวลา 05.00 น. จึงขอให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ประจำด่านทุกด่าน และผู้ชุมนุมที่อยู่ใน กทม.ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นบ่อนไก่ ราชปรารภ รามคำแหง มูลนิธิ 111 เตรียมความพร้อมไว้ หากเกิดเรื่องอะไร ขอให้ตัดสินใจเองได้ทันที เพราะการสื่อสารระหว่างแกนนำกับกลุ่มผู้ชุมนุมทำได้ยาก ถือว่าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถือว่าเป็นชะตากรรมของประเทศก็แล้วกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์