เด็กรามฯ แฉ นปช.เอา สนนท.-นศ.บังหน้า หวังโมเดลพฤษภาทมิฬ












กลุ่มประชาคมรามคำแหง ร่วมองค์การ นศ. ออกแถลงการณ์คัดค้านใช้พื้นที่สถาบัน จัดกิจกรรมการเมืองที่สุ่มเสี่ยง สร้างความเดือดร้อน ด้านเด็กรามฯในเหตุการณ์ชี้ อย่าเอา สนนท.-นศ.มาบังหน้า แล้วอ้างเป็นคนส่วนใหญ่ มอง นปช. หวังสร้างสถานการณ์ให้เหมือนพฤษภา 35
       
       จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อคืน 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่ม-องค์กรนักศึกษาของรั้วพ่อขุน ออกมาแถลงการณ์คัดค้านการชุมนุมก่อให้เกิดความขัดแย้งแก่ชุมชนชาวรามคำแหง“พาน” พานสุวรรณ ณ แก้ว นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หนึ่งในกลุ่มประชาคมมหาวิทยาลัยรามคำแหง เผยถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เวลาประมาณ 19.00 น. กลุ่ม สสนท. ได้จัดงานรำลึก พฤษภาคมทมิฬ บริเวณหน้าหอนาฬิกา มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทางกลุ่มประชาคมฯ จึงได้เตรียมการเฝ้าดูสถานการณ์ตลอด เพราะได้ข่าวว่า อาจจะมีการตั้งเวทีปราศรัยภายในมหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมเสวนาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้คล้ายคลึงกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 35 ที่มีการมาชุมนุมต่อต้านทหารที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง











       “หลังจากที่กลุ่ม สสนท. ยุติการเสวนาได้ไม่นาน ก็ได้มีกลุ่ม นปช. พร้อมกับแกนนำซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่น่าจะเป็นที่รู้จักของหลายคน พร้อมด้วยรถ 6 ล้อ 1 คัน มาจัดแจงตั้งเวทีปราศัย ณ จุดเดิมตรงนั้น พวกเราในกลุ่มประมาณ 100 กว่าคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่า รู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วย กับเหตุการณ์ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมสถานการณ์อยู่ประมาณ 50 – 60 คน
       
       
ขณะนั้นพวกเราไม่แน่ใจว่ากลุ่มนั้นพูดอะไรบ้าง เพราะใช้โทรโข่งในการปราศรัย แต่ก็พอทราบข่าวว่า กลุ่ม นปช.มีแผนใช้พื้นที่หน้ารามฯ ตั้งเป็นฐานการชุมนุมแห่งใหม่ ด้วยความที่พวกเราเป็นลูกพ่อขุน รักในสถาบัน ไม่อยากให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ยิ่งตอนนี้มีทั้งน้องใหม่ที่กำลังจะมาเข้าเรียนและศิษย์ปัจจุบันที่กำลังสอบช่วงภาคฤดูร้อนได้รับผลกระทบไปด้วย พวกเราจึงตัดสินใจยื่นข้อเสนอผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปยังกลุ่ม นปช. ดังกล่าว รื้อเวที ย้ายออกไปจากบริเวณสถาบันการศึกษาออกไปให้เร็วที่สุด”
พานกล่าว













ภาพประกอบข่าว
       พาน เล่าต่อว่า จากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณ1ชั่วโมง เหมือนจะเคลียร์พื้นที่ได้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมีรถ 6 ล้อ ปราศรัยเพิ่มขี้นมาอีก 1 คัน พร้อมกับกลุ่ม นปช.ประมาณ 500- 600 คน ตามมาสมทบ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านละแวกฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย เริ่มแสดงความไม่พอใจด้วยเช่นกัน
       
       “นอกจาก นศ.รามฯ แล้วยังมีชาวบ้านแถวหน้ามหาวิทยาลัย ทนไม่ไหว และกลัวว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นจึงระดมตัวกัน ขึ้นป้ายขับโห่ไล่กลุ่ม นปช. จนเกิดการปะทะกันเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรง แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในช่วงดึก เมื่อมีเสียงคล้ายปืนดังขึ้น ทำให้ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายตกใจ ต่างหนีกันไปคนละทิศคนละทาง และค่อยๆแยกย้ายสลายตัวกันไปในที่สุด”
       

       ทั้งนี้ พาน ได้ให้ข้อสังเกตส่วนตัวว่า เรื่องที่น่าสังเกตข้อหนึ่ง คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50-60 นายนั้น ไม่ได้มีบทบาทเข้ามาระงับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนยืนเป็นแค่กำแพงเฉยๆ
       
       ผมไม่เข้าใจว่า ตำรวจที่มาเมื่อวานนี้ มาทำอะไร ได้แต่ยืนกันไม่ให้พวกผมกับชาวบ้าน มีเหตุปะทะกับพวก นปช. แค่นั้นหรือไง ผมจึงคิดว่า วิธีการที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ ความร่วมมือระหว่างนศ. ราม สถาบันการศึกษา และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันต่อต้านไม่ให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ตรงนี้ เพราะกลุ่มชาวบ้านนับว่าเกินครึ่ง ต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำ หรือการจะมาชุมนุมยืดเยื้อ ณ บริเวณมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่แอบอ้างว่าเป็นตัวแทน นิสิต นักศึกษาของประเทศ ทั้งๆที่เป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ รวมถึงกลุ่มคนเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มาแอบอ้างเข้ามาร่วมกับนักศึกษา เพราะเกรงว่า นปช. จะใช้พื้นที่ดังกล่าว สร้างสถานการณ์ให้เหมือนพฤษภาทมิฬอีกครั้ง” พานกล่าวทิ้งท้าย













ภาพประกอบข่าว
       จากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 หลังจากที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประกาศเลื่อนสอบ และปิดมหาวิทยาลัย ทางองค์การนักศึกษา สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกลุ่มประชาคมรามคำแหง ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านอย่างเป็นทางการ โดยมีเนื้อหา ดังนี้
       
       แถลงการณ์คัดค้านการทำให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่อันตราย ตอกลิ่มความขัดแย้งทางการเมือง
       
       ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ประชาคมชาวรามคำแหงทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่มีหน้าที่อยู่ในภาคส่วนต่างๆ มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการเข้าไปมีส่วนร่วมคลี่คลายวิกฤตครั้งนี้ โดยความร่วมมือและการประสานข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง
       
       อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า จะมีความพยายามเข้ามาใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในการจัดกิจกรรมเพื่อเชื่อมต่อการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์ ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เกิดพื้นที่อันตรายขยายวงกว้างมากขึ้น ประกอบกับพื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงโดยรอบ รายล้อมไปด้วยสถานศึกษา เป็นย่านที่พักอาสัยของนักศึกษา และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่ค้าขาย และอยู่อาศัยอย่างหนาแน่น ไม่เหมาะต่อการใช้เป็นพื้นที่ชุมนุมที่สุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงในชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน
       
       ข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ รามคำแหงเป็นพี้นที่รวมของคนหลายกลุ่ม หลากหลายความคิดที่ยังสามารถดำรงความคิดต่างไว้ได้ โดยไม่เกิดความขัดแย้ง หรือความรุนแรงใดๆเลย เป็นเวลาเกือบ 40 ปีมาแล้ว
       
       องค์การนักศึกษา สภานักศึกษา และประชาคมรามคำแหง จึงแสดงจุดยืน และมีข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้
       
       1.ประชาคมรามคำแหง ขอคัดค้านการเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อจัดกิจกรรมทางการเมืองที่สุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของกลุ่ม องค์กรทุกกลุ่ม ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองทวีความขัดแย้งอย่างในปัจจุบัน ซึ่งความกังวลดังกล่าวส่งผลให้มหาวิทยาลัยต้องเลื่อนการรับสมัครนักศึกษาใหม่ในวันนี้ออกไป ตลอดจนได้เลื่อนยการสอบที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ออกไปด้วยเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาจำนวนมาก
       
       2.ประชาคมรามคำแหงจะไม่สนับสนุนทุกความพยายามที่เป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งให้เพิ่มขึ้นในสังคม และขอเรียกร้องกับชาวรามคำแหง อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ให้ร่วมกันแสดงจุดยืนปกป้องมหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่เป็นกลาง มิให้เป็นฐานทางการเมืองใคร หรือกลายเป็นพื้นที่อันตราย เพิ่มไฟขัดแย้งในสังคม
       
       3.ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุด เพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น และเริ่มต้นการเจรจารอบใหม่ คืนความสงบแก่ประเทศชาติ และประชาชน
       
       
ด้วยจิตคารวะ 17/5/53
       
       องค์การนักศึกษา สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกลุ่มประชาคมรามคำแหง











       ล่าสุดทางด้าน รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง(มร.) ได้กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้ตนได้มีการประสานไปยังกลุ่มของผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ให้เว้นพื้นที่บริเวณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของการศึกษา มีโรงพยาบาล มีประชาชนจำนวนมาก และบริเวณถนนนั้นค่อนข้างแคบ หากมีการตั้งเวทีของกลุ่มนปช.จะสร้างความวุ่นวายแก่ผู้คนที่อยู่ในละแวกนี้ ค่อนข้างมาก ซึ่งในส่วนของนปช.เองก็รับฟังความคิดเห็น และเห็นด้วยที่จะไม่ตั้งเวทีบนบริเวณถนนรามคำแหง หรือมหาวิทยาลัย อีกทั้งในส่วนของนักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัย ตนได้ทำการชี้แจ้งไปยังทุกกลุ่มให้หลีกเลี่ยง อย่าเข้าไปมีส่วนร่วมกับการชุมนุม แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักศึกษาเองด้วย เพราะมหาวิทยาลัยไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจว่านักศึกษาจะ เข้าร่วมการชุมนุมหรือไม่
       
       "ผมได้ทำความชี้แจ้งไปยังกลุ่มองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง(อ.ศ .ม.ร.) และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของมหาวิทยาลัย เพื่อทำความเข้าใจในการป้องกันความปลอดภัยที่เกิดขึ้น อีกทั้งได้มีการประกาศปิดมหาวิทยาลัยตามที่รัฐบาลประกาศ ส่วนจะเปิดการเรียนการสอนเมื่อใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ บริเวณมหาวิทยาลัยผมได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเฝ้าระวัง ตรวจตราอยู่ตลอดเวลา จึงมั่นใจได้ว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นบริเวณรามคำแหง แต่อย่างไรก็ตาม ฝากนักศึกษาและพี่น้องประชาชนทุกคนที่อยู่บริเวณมหาวิทยาลัย ไม่คอยจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการชุมนุม ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดการปะทะกัน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต" รศ.คิมกล่าว
       
       ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประกาศเลื่อนการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปี 2553 ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้หยุดราชการในวันที่ 19-21 พฤษภาคม ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยประกาศว่า
       
       1. ปิดทำการในวันที่ 19-21 พฤษภาคม งดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยทุกชนิด
       2. เลื่อนการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552 ระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม เป็นวันที่ 1-10 มิถุนายน 2553
       3. ให้งดการเรียนการสอนของนักศึกษาทุกคณะ และโครงการฯ เฉพาะที่เรียน ในเขตกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 19-21 พฤษภาคม
       4. เปิดการเรียนการสอนภาค 1 ปีการศึกษา 2553 ในวันที่ 11 มิถุนายน
       5. กำหนดการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2553 ในวันที่ 31 พฤษภาคม เป็นไปตามกำหนดการเดิม
       6. การสอบไล่ระดับปริญญาตรี ส่วนภูมิภาค ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552 เป็นไปตามกำหนดการเดิม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์