´มีชัย´ เผยรัฐบาลนัดแถลง 2 พ.ย.

"รัฐฯเตรียมแถลงนโยบาย"


ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ต.ค. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ว่าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมด้วย พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ และ น.ส.พจนีย์ ธนวรานิช ว่าที่รองประธาน สนช. ได้เข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ณ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา โดยมีนางสุวิมล ภูมิสิงหราช เลขาธิการสนช. พร้อมด้วยข้าราชการะดับสูงให้การต้อนรับ โดยนางสุวิมลได้รายงานถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่

การจัดเตรียมสถานที่และห้องทำงานของประธานและรองประธานสนช. นายมีชัยให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลแจ้งว่าจะแถลงนโยบายในวันที่ 2 พ.ย.นี้ เพราะถ้าเป็นวันที่ 27 ต.ค. อาจจะเร็วเกินไป เนื่องจากนายกฯต้องเดินทางไปประชุมที่ประเทศจีน ส่วนกรอบการอภิปรายยังพูดไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความสนใจของสมาชิกในแต่ละด้าน ส่วนการอภิปรายที่อาจ ไม่เข้มข้นเหมือน ส.ส.นั้น คนละธรรมชาติกัน เพราะ สนช.ส่วนใหญ่ที่เข้ามาไม่ใช่นักการเมือง การอภิปรายจึงอาจไม่ดุเด็ดเผ็ดมันหรือดุเดือด เพราะไม่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล มีแต่ฝ่ายเป็นกลาง แต่การตรวจสอบรัฐบาล ก็ต้องดูด้วยว่ารัฐบาลทำอะไรผิดหรือไม่ ถ้าไม่ทำอะไรผิดก็ทำอะไรไม่ได้

"หนักใจแต่สุดท้ายคนจะเข้าใจเอง"


เมื่อถามว่า ภาพลักษณ์ของประธานและรองประธานสนช.มาจากการบล็อกโหวตจะทำความเข้าใจอย่างไร นายมีชัยตอบว่า แล้วแต่จะคิดกันไป ต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมา เวลาผ่านไปสังคมจะเข้าใจเอง ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ นายมีชัยตอบว่า ถ้าบอกว่าไม่หนักใจก็คงไม่ใช่ รับว่าหนักใจแต่เชื่อว่าสุดท้ายคนจะเข้าใจเอง ส่วนที่บอกว่าจะเข้าไปก้าวก่ายหรือครอบงำการร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการเข้าใจผิด

เพราะ สนช.กับสภาร่างรัฐธรรมนูญแยกกันเด็ดขาด โดย เฉพาะเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ สนช.ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย จะรู้ว่าเขายกร่างกันอย่างไรก็พร้อมกับประชาชนทุกคน เพียงแต่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้เท่านั้น จึงไม่มีทางไปโน้มน้าวหรือทำอะไรได้ สำหรับตนทำหน้าที่ได้เพียงเป็นประธานเปิดการประชุมให้สมัชชาแห่งชาติเท่านั้น ดังนั้นถึงใครอยากจะเข้ามาแทรกแซงก็ทำไม่ได้ เมื่อถามถึงกระบวนการตั้งคณะกรรมาธิการ นายมีชัยตอบว่า ถึงเวลาต้องมาคุยกัน หากจำเป็นต้องเพิ่มคณะกรรมาธิการชุดใดก็สามารถทำได้ แต่ที่ต้องทำให้เร็วที่สุดคือการร่างข้อบังคับการประชุม

"มีให้แก้อีกเยอะ ต้องสามัคคีกัน"


พล.อ.จรัลกล่าวว่า ขอทำงานให้กับบ้านเมืองให้ดีที่สุด ใครจะมาล็อกให้ทำอะไรคงไม่ได้ สนช.ต้องสร้างความสมานฉันท์ เป็นคนสร้างกระแสแห่งความรัก สมัครสมานสามัคคีกัน ทำประโยชน์ให้กับแผ่นดิน เราทุกคนเหนื่อยยากกันมา ต้องช่วยกันทำให้เกิดประโยชน์สุข กับประชาชน เรื่องที่ต้องแก้ไขมีอีกเยอะ เชื่อว่าสมาชิกทุกคนเป็นอิสระต่อกัน มีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครไปบังคับ และไม่ได้เป็นร่างทรงของใคร ไม่เห็นมีใครสั่งให้ทำอะไร เมื่อถามว่า การตรวจสอบรัฐบาลจะทำได้อย่างเต็มที่หรือไม่ เพราะมาจากการแต่งตั้ง คมช. พล.อ.จรัลกล่าวว่า มีหน้าที่อะไรก็ต้องทำไปตามนั้น การตั้งคำถามก็ระวังคำพูดด้วย เพราะทุกคนล้วนแต่มีเกียรติ อย่าไปดูหมิ่นเขา

นางสุวิมลกล่าวว่า ได้ส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นประธานและรองประธาน สนช.ให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ต.ค. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป คาดว่าเรื่องคงส่งถึงราชเลขาธิการแล้ว ส่วนการประชุมนัดที่ 2 เพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบาย ต้องรอว่ามีการโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไหร่ เดิมว่าจะเป็นวันที่ 27-28 ต.ค. คงไม่ทัน เพราะกระชั้นชิด ต้องให้เวลาสมาชิกอย่างน้อย 3 วัน ส่วนร่างนโยบายรัฐบาลยังไม่มีการส่งมาให้ สนช.

สุเทพ มั่นใจ มีชัย จะทำงานได้ดี


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายมีชัยเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาก สมาชิกส่วนใหญ่ได้มอบหมายความไว้วางใจ จึงมั่นใจว่านายมีชัยจะทำงานได้ดี ส่วนว่าที่รองประธานฯอีก 2 คน ก็เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้ คปค.ได้พยายามทำทุกอย่างให้คนอื่นๆได้มีส่วนร่วม ทั้งที่การยึดอำนาจสามารถใช้ อำนาจได้อย่างเต็มที่ แต่กลับไม่หวงอำนาจหรือหลงตัวเอง ไม่มีคณะปฏิรูปหรือคณะปฏิวัติไหนที่ทำได้อย่างนี้ ทำให้บรรยากาศการแข่งขันดูเหมือนว่าสมาชิกมาจากการเลือกตั้งยังไงอย่างนั้น ส่วน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ไม่ได้ตำแหน่ง ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในบรรยากาศที่ดี ภาพรวมจึงดีไปหมด ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวเรื่องการบล็อกโหวตกันมากจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า พยายามฟังมาจากหลายกระแสแต่ไม่ชัด ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่าจะมีการบล็อกโหวต นายมีชัยโชคไม่ดีมากกว่าที่โดนวิจารณ์มาก แต่ความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ จนคนเต็มใจลงคะแนนให้ท่วมท้น

นายมีชัยต้องอดทนหน่อย และต้องพิสูจน์ว่ามีความจริงใจต่อประเทศชาติ ทำงานให้บรรลุเจตนารมณ์ของประชาชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติควรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ คปค. ด้วยการช่วยดูแลและเป็นเครื่องมือให้เกิดการเลือกตั้งที่ดีให้ได้ นายสุเทพกล่าว

ต่อข้อถามว่า การร่างรัฐธรรมนูญควรจะร่นเวลาในขั้นตอนต่างๆเพื่อให้เสร็จเร็วขึ้นหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นายกฯพูดชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่ต้องการแบกภาระ ส่วน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ก็บอกว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา ดังนั้น เวลา 1 ปี เหมาะสมที่สุด และต้องทำงานอย่างเร่งรีบแข็งขัน มิฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยที่จอมปลอมจะเกิดขึ้นได้

บรรหาร การันตี มีชัย เก่งรอบรู้


นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเลือกนายมีชัยเป็นประธานฯก็ต้องยอมรับ แต่เป็นห่วงว่าสภานิติ บัญญัติที่ได้รับการแต่งตั้งน่าจะมีความเรียบร้อย มีความสมานฉันท์ ไม่แตกแยก จึงต้องดูว่าจะทำงานเป็นอย่างไร นายมีชัยเองก็ได้ขอโอกาสทำงานพิสูจน์ฝีมือก่อน ก็คงต้องให้โอกาสก่อน เชื่อมั่นในความสามารถ ความเก่งและความรอบรู้ในด้านกฎหมายของนายมีชัย อย่างไรก็ตาม ขอชมเชย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เมื่อแพ้ก็ร่วมยินดีและยืนยันจะให้ความร่วมมือกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสการต่อต้านนายมีชัยต้องดำเนินการอย่างไร นายบรรหารตอบว่า ต้องหยุดและดูการทำงาน ไม่เชื่อว่านายมีชัยจะมาสืบทอดอำนาจ คงไม่เลวร้ายเหมือนอย่างที่บางคนพูด เชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษของนายมีชัย ท่านเป็นคนตรงไปตรงมาพอสมควร อะไรถูกก็ว่าถูก อะไรผิดก็ว่าผิด ในการออกกฎหมายต้องผ่านสภาฯ ให้สภาฯแก้ไขและให้ความเห็นชอบ นายมีชัยไม่มีสิทธิ์ หรือมีอำนาจไปออกกฎหมายมาใช้เอง รู้สึกเห็นใจท่าน

ติง ธีรภัทร์ ไม่ควรพูดมากเกินไป


นายบรรหารกล่าวต่อว่า เห็นใจคณะปฏิรูปฯ ด้วยเช่นกัน เพราะเวลาผ่านไปเพียงเดือนเศษ ก็มีกระแสบอกว่ารัฐบาลทำงานอืดอาดยืดยาดชักช้า แต่เมื่อคนบ่นและคอมเมนต์มา ก็เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องต้องลงไปดู โดยเฉพาะนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พูดว่าการร่างรัฐธรรมนูญกว่าจะเสร็จต้องใช้เวลา 1 ปี 5 เดือนนั้น อยากติงเหมือนกันว่าไม่ควร เพราะความจริงคณะปฏิรูปฯประกาศแล้วว่ารัฐธรรมนูญจะต้องออกภายใน 1 ปี ขั้นตอนต่างๆสามารถเร่งรัดได้ ระยะเวลาเพียง 1 ปีของรัฐบาล คงต้องให้กำลังใจกันมากๆ อะไรที่ไม่ดีก็ให้ข้อคิดข้อสังเกตติติงไป อย่าไปถึงขนาดบอกว่าหนีเสือปะจระเข้อีกเลยมันไม่ดี หรือจะให้เสือกลับมาอีก ตอนนี้เสือก็สงบอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีสภาฯสมบูรณ์แล้วควรต้องยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อให้พรรคการเมืองได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง นายบรรหารตอบว่า เข้าใจว่าการยกเลิกให้ สามารถชุมนุมกันได้เกิน 5 คน และมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ต้องเสนอเป็น พ.ร.บ.เข้าสู่สภา ที่ผ่านมาเป็นเพียงการผ่อนผันของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ทราบว่าออกมาเป็นมติ ครม.หรือยัง หากมีก็จะเรียกประชุมพรรคทันที พรรคชาติไทยไม่ได้เดือดร้อนอะไร อีก 3 เดือนค่อยประชุมก็ได้

เสนาะ ชี้ร่วมร่าง รธน.ทำไม่ได้จริง


นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ พล.อ.สุรยุทธ์เปิดโอกาสให้ พรรคการเมืองได้แสดงความเห็นต่างๆ โดยเป็นการหารือถึงการมีส่วนร่วมของพรรคการเมืองในการร่างรัฐธรรมนูญ มองว่าคงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะในรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ. 2549 เขียนล็อกไว้ว่า ผู้ที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเว้นวรรคทางการเมือง และหากเสนอความเห็นต่อนายกฯคงทำได้ยาก เพราะมีกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่อยู่แล้ว หากนายกฯไปเสนอความเห็นก็เท่ากับก้าวก่าย

การทำหน้าที่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ อาจเกิดปัญหาภายหลัง อย่างไรก็ตามได้สะท้อนปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่า แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่มีตัวแทนประชาชนไปเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จำนวน 99 คน ก็ตาม แต่คนที่ร่างจริงๆมีเพียงไม่กี่คน จึงฝากข้อคิดไปว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่ควรเขียนให้เลิศเลอ ด้วยการเอานักวิชาการที่จบจากประเทศต่างๆ แล้วนำสิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันเองในเนื้อหา และไม่ควรให้อำนาจคนโดยไม่มีขอบเขต ปล่อยให้เกิดเสียงข้างมากในสภาฯ จนเกิดอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่คนเพียงคนเดียว

เตือน สุรยุทธ์ อย่าเดินซ้ำรอย บิ๊กสุ


นายเสนาะกล่าวว่า การที่ พล.อ.สุรยุทธ์เรียกหัวหน้าพรรคการเมืองเข้าหารือ มองว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ให้เกียรติในการรับฟังความเห็นเพื่อให้ภาพที่ออกมาเป็นประชาธิปไตย แต่ในทางปฏิบัติคงทำได้ยาก เพราะเป็นเรื่องของการสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ ได้ฝาก พล.อ.สุรยุทธ์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ หรือหยอกล้อไปว่า ท่านก็เป็นนักการเมือง 100% แล้ว อย่าเหมือนกับตอนที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร

เป็นนายกฯ เพราะ พล.อ.สุจินดาประกาศว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่อย่าลืมว่าตำแหน่งนายกฯถือเป็นการเมืองแล้ว 100% พล.อ.สุรยุทธ์ได้กล่าวตอบว่า ผมก็เป็นนักการเมืองจำเป็น เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถามถึงความชัดเจนในการยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกหรือไม่ นายเสนาะตอบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้บอกแต่เพียงว่าอยากจะทำให้เร็ว แต่การจะเลิกอะไรก็ต้องให้ทุกอย่างเคลียร์ก่อน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์