มาร์คงัดแผน ตัดน้ำ-ไฟ บีบม็อบยุติชุมนุม

ครม.ถกม็อบเสื้อแดงเมินยุติการชุมนุม นายกรัฐมนตรี เข้าตาจนงัดแผนตัด น้ำ-ตัดไฟบีบม็อบเสื้อแดง ครม.ยุแดงเบี้ยวยื้อชุมนุมไม่เลิก คว่ำโรดแม็ปเลิกยุบสภา.....

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 11 พ.ค.

ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้นำเอกสารศอฉ.จำนวน 2 หน้า สรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยรายงานตัวเลขจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุมว่า ในช่วงตอนกลางวันจะมีประมาณ 6,000-7,000คน ส่วนช่วงตอนกลางวัน จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ 13,000คน ซึ่งกลุ่ม นปช.ยังไม่มีท่าทีที่จะเคลื่อนไหว แต่จะเน้นการเคลื่อนไหวการร้องเรียนต่อองค์กรระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ ในช่วงท้ายเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาตามระเบียบวาระการประชุมแล้ว นายกฯได้หยิบยกเรื่องการดำเนินการตามแผนการปรองดอง หรือโรดแม็ป 5 ข้อ และการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมาหารือ โดยนายกฯได้สอบถามและให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยุติการชุมนุมจะทำอย่างไรต่อไป การยุบสภาจะยังคงมีต่อไปหรือไม่ จากนั้นได้เก็บเอกสารคืน

ทั้งนี้บรรดารัฐมนตรีส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง

รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอ การยุบสภาก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไป อาทิ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง โดยนายไตรรงค์ ระบุว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมตอบรับทำตามข้อเสนอในโรดแม็ป ทางรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องต้องไปทำตามโรดแม็ปที่เสนอเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องไปยุบสภาและกำหนดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย. ขณะที่นายชุมพล กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องเร่งแก้ไขปัญหา มีสิ่งที่ต้องทำ 2 อย่างคือ 1. เราทำเพื่ออยากจะออกจากเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ และ 2 . การแก้ปัญหาในระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องของวันข้างหน้า จะมีการดำเนินคดีอย่างไรก็ว่ากันไป แต่วันนี้เราอยากออกจากเหตุการณ์ก่อน

ด้านนายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าฝ่ายผู้ชุมนุมเขาไม่พูดให้ชัดเจนว่า จะทำอะไรอย่างไรให้ชัดเจน เราก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าจะทำอะไรที่ชัดเจนออกไป

ถ้านายกฯไม่แสดงความชัดเจนทางฝ่ายโน้นก็ปวดหัวกันไปเอง ขอให้ครม.รับทราบกันไว้เพื่อจะได้ตอบให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ในตอนหนึ่งนายสุเทพ ยังได้กล่าวติดตลกกับครม.ด้วยว่า "เมื่อช่วงเช้าผมเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาแล้ว แต่ผมไม่ได้ซัดทอดใครนะ” ทำให้ครม.ต่างส่งเสียงหัวเราะไปตาม ๆกัน

ขณะที่นายกฯ กล่าวในที่ประชุมครม.ว่า ข้อเสนอตามแผนการปรองดองเราก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าม็อบยังไม่ยุติการชุมนุมก็จะต้องมีมาตรการหลายอย่างที่ต้องทำกันต่อไป โดยทำเป็นแผนระยะสั้น แบบชั่วคราว

“อาจจะต้องรบกวนให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันไปชี้แจงกับ ประชาชนในบริเวณพื้นที่การชุมนุมและใกล้เคียงโดยขอความร่วมมือว่าอาจต้อง เดือดร้อนกันมากขึ้นเป็นการชั่วคราว เพราะอาจจะต้องมีการตัดน้ำ ตัดไฟ หรือต้องอพยพคนในบริเวณนั้นออกมา และใกล้ที่จะเปิดเทอมแล้ว”นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณวี รมว.ไอซีที ยังได้เสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติงบประมาณ จากงบกลาง จำนวน 530 ล้านบาท

เพื่อนำมาในการดูแลควบคุมเว็บไซต์ต่างๆ ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคง และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อย่างไรก็ตามทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้แสดงความเห็นสวนขึ้นมาทันทีว่า ความจริงแล้วโครงการดังกล่าวทางกระทรวงยุติธรรมเองก็มีแนวคิดที่จะดำเนินการ อยู่แล้วเหมือนกัน นายกฯจึงได้กล่าวขึ้นมา โครงการดังกล่าวนี้เห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ตนก็เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการ แต่ว่าไม่อยากจะให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาหลายชุดแบบต่างคนต่างคน แต่ควรให้มีการดำเนินการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประกอบด้วย กระทรวงไอซีที กระทรวงยุติธรรมและสำนักนายกรัฐมนตรี จึงขอสรุปว่าให้ครม.อนุมัติหลักการในหลักการกรอบงบประมาณตามที่เสนอไว้ และให้นำงบประมาณไปอยู่ในความดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อจะใช้จ่ายงบประมาณก็ให้ทั้ง 3 หน่วยงานมาหารือร่วมกัน.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์