ศอฉ.เตรียมฟัน 500“ฮาร์ดคอร์แดง”ก่อการร้าย

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
 
แถลงผลการประชุม ศอฉ. ว่า ศอฉ. มีการเสนอนายกรัฐมนตรีว่ายังไม่ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเรื่องกำลังทหารยังไม่เหมาะสมถอน แม้จะมีการสลายการชุมนุมไปแล้ว คงต้องรอให้ยุติการชุมนุม เพราะมีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัย เป็นที่ทราบว่ามีการก่อการร้ายแฝงอยู่ในการชุมนุม ส่วนการดูแลความปลอดภัยต้องร่วมกันหลายฝ่าย รวมถึงการส่งประชาชนกลับบ้าน ส่วนในพื้นที่ภูมิภาคก็ฟังแกนนำส่วนกลาง หากแกนนำยุติคงไม่มีปัญหา จากนั้นจะดำเนินการตามแผนโรดแม็ปของนายกรัฐมนตรี


เมื่อถามว่า การขอคืนพื้นที่จะมีการดำเนินการอย่างไร พ.อ. สรรเสริญ กล่าวว่า

ถ้ายุติการชุมนุมจริงอย่างที่แกนนำแถลงคงจะดำเนินการร่วมกันหลายฝ่าย ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนกลับบ้าน แต่ทหารมีความจำเป็นต้องตั้งด่านตรวจ เพราะต้องปกป้องกันไม่ให้ลักลอบอาวุธสงครามออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะอาวุธสงครามของทหารที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไป


เมื่อถามว่า กลัว พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จะสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ได้เตรียมการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้กระชับวงล้อมด้วยการตั้งด่านเพิ่มจากเดิม 6 ด่าน เป็น 14 ด่าน และบีบวงล้อมเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศต่อสาธารณชน คิดว่าทุกคนต้องรักษาสัจจะตัวเอง และต้องเชื่อใจกันและกัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีที่ทำให้บ้านเมืองสงบ


เมื่อถามถึงกรณีการปลด พล.ต.ขัตติยะ จากตำแหน่งราชการ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนไม่ว่าระดับนายพล นายพัน หรือนายร้อย

ไม่ว่าใครทำผิดระเบียบถูกตั้งข้อกล่าวหามีการตรวจสอบในชั้นศาลเรียบร้อยว่า มีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง สมควรปลด หรือถอดยศ ต้องดำเนินการตามนั้น การใช้เวลาสอบสวนคงไม่ถึงเดือน ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ ยังออกมาท้าทายอยู่นั้น วันนี้คนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เข้าไปจับ เพราะการเข้าไปจับคนมีหมายจับขณะยังไม่ยุติ เท่ากับเป็นการสลายการชุมนุม วันนี้เมื่อประกาศจะยุติการชุมนุม ประชาชนก็จะออกจากพื้นที่ ส่วนคนที่จะป่วนค่อยว่ากัน หากป่วนมากก็จะมีคดีความมากขึ้น


รายงานข่าวแจ้งว่า ศอฉ. มีการเตรียมตั้งข้อกล่าวหา กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีลักษณะสร้างความรุนแรง เป็นฮาร์ดคอร์เข้าข่ายในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย จำนวนกว่า 500 คน

ซึ่งเตรียมที่จะเสนอดำเนินคดีต่อกรมสอยสวนคดีพิเศษต่อไป เมื่อการชุมนุมยุติลง โดย ศอฉ. เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดังนั้น จึงถือเป็นข้อหารุนแรง ที่ต้องแจ้งความดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระเบียบการถอดยศทหารที่มีชื่อว่า “ ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและ บรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507"
 
ลงนามโดย จอมพล ถนอม กิตติขจร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2507 ระเบียบดังกล่าว กำหนดเหตุผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ ได้แก่ ผู้ที่มีความผิดหรือต้องรับโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กระทำความผิดจนต้องได้รับโทษจำคุก หรือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และการขัดคำสั่งนั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ส่วนขั้นตอนในการถอดยศทางทหารระดับสัญญาบัตร จะให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการ โดยให้รายงานตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณา หากเห็นเป็นการสมควรจะได้ดำเนินการ เพื่อถอดออกจากยศทหาร และบรรดาศักดิ์ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์