เสนาะบอกหากยุบสภายิ่งทำให้ฆ่ากัน

ที่พรรคประชาราช เมืองทองธานี  มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส. เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง 

โดยมีนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นประธาน จากนั้น นายเสนาะ พร้อมกรรมการ และ ส.ส.พรรคร่วมกันแถลงข่าวเสนอแนวทางการยุติข้อขัดแย้งของคนในชาติ โดยนายเสนาะ กล่าวว่า หลังจากที่มีการรัฐประหารและมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2550 จนกระทั่ง  มีการจัดการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปรากฏว่ารัฐบาลมีผลงานไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาชน โดยเฉพาะการบริหารจัดการปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงปัญหาการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แทบจะไม่ได้รับการแก้ไขในห้วงเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมานี้เลย กลายเป็นการสะสมความเกลียดรัฐบาลเพิ่ม 
    
นายเสนาะ กล่าวต่อว่า ความเกลียดชังระหว่างคนกลุ่มนี้ได้พัฒนาไปสู่การใช้อาวุธประหัตประหารกัน ไม่ต่างจากการเกิดสงครามกลางเมือง

ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติสุข การใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยการเมืองในแบบปกติรวมถึงการใช้กำลังทหาร-ตำรวจที่ติดอาวุธมาแก้ปัญหา อาจจะทำให้ปัญหาดังกล่าวยุติลงชั่วขณะแต่ในระยะยาวหากสภาพความแตกแยกของคนในชาติยังคงดำรงอยู่แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลต่างพรรคต่างแนวความคิด สภาพความขัดแย้ง สภาพการต่อสู้โดยใช้กำลังก็น่าจะยังคงปรากฏอยู่ และในที่สุดก็จะเป็นเหตุแห่งการล่มสลายของการเป็นชาติ
   

นายเสนาะ กล่าวอีกว่า พรรคประชาราชจึงเสนอแนวคิดแก้ไขปัญหาชาติดังนี้ รัฐบาลและกลุ่ม นปช. รวมทั้งกลุ่มอื่น ๆ ที่มีความเห็นต่างจะต้องทำหน้าที่ถอยเพื่อชาติ

และเห็นควรต้องดำเนินการดังต่อไปนี้คือรัฐบาล ต้องยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงโดยให้ถอนกำลังทหารตำรวจออกจากทุกพื้นที่กลับเข้าที่ตั้งโดยเร็ว โดยมีเหตุผลว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง มีกองกำลังทหาร ตำรวจติดอาวุธครบมืออยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศว่ามีผู้ก่อการร้ายกลางเมืองหลวงทำให้ทั่วโลกมองว่าไม่น่าจะมาทำการค้าท่องเที่ยวลงทุนทำความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง
    
นายเสนาะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นปช. ต้องเคลื่อนย้ายการชุมนุมออกไปจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์

และหากมีความประสงค์ที่จะชุมนุมต่อในแนวทางสงบสันติอย่างแท้จริงต้องไม่เป็นการรบกวนสิทธิและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นสุขของบุคคลอื่น หากยืดเยื้อต่อไปจะสร้างความเดือดร้อนเสียหาย และที่สำคัญจะเป็นเงื่อนไขในการใช้กำลังของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี โดยทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการในทันที 
   
หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวโรกาสอภิลักขิตสมัยวันบรมราชาภิเษกครบ 60 ปี ในวันที่ 5 พ.ค. 53

ขอให้ทุกฝ่ายร่วมถวายเป็นราชสักการะและหากเห็นด้วยให้จัดตั้งคณะกรรมการตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง ผู้แทนสมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนภาคเอกชน ผู้แทนข้าราช การพลเรือน ผู้แทนจากตำรวจ ผู้แทนจากทหาร ให้เป็นคณะกรรมการร่วมร่างข้อตกลงเพื่อหาข้อยุติภายใน 7 วัน ข้อเสนอนี้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ถ้าไม่มีใครทำก็ช่วยไม่ได้เพราะวันนี้สลายการชุมนุมไปก็ไม่ใช่ข้อยุติ
   
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบสภาจะ เป็นทางออกได้หรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า การยุบสภาจะไม่ใช่การแก้ปัญหา ตรงกันข้ามจะทำให้ยิ่งฆ่ากัน


หากนายอภิสิทธิ์ยอมเสียสละลาออกเชื่อว่าจะยุติปัญหาลงได้ เพราะคงรู้ดีแก่ใจว่าอยู่ไปก็บริหารประเทศไม่ได้ ผู้นำประเทศออกไปเขตปริมณฑลยังไม่ได้ แล้วจะอยู่เพื่ออะไรไม่รู้ว่าโดนของหรืออะไรดลใจ พอถามก็อ้างว่าอยู่เพื่อปกป้องสถาบันพูดถึงเรื่องที่ไม่มีทางจบก็ไปกันใหญ่ คนรุ่นเก่าไม่พูดกันอย่างนี้จะมีใครที่อยากจะเป็นลูกทรพี ทั้งนี้หากนายกฯลาออกก็ให้มีคณะกรรมการกลางขึ้นมาหารือว่าจะตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศอย่างไร

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์