4วันรู้ผลรับฟ้องคดีหมิ่น“มาร์ค”สั่งฆ่า ปชช.

“มาร์ค” เบิกความฟ้องหมิ่น “จตุพร” สั่งฆ่าประชาชน ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 24 ก.ย.นี้ บ่าย


วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีหมายเลขดำ อ.1008/2553 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328, 326, 332

กรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2553 และวันที่ 15 ก.พ.2553 จำเลย กล่าวปราศรัยกับกลุ่มคนเสื้อแดง และประชาชนที่รับชมผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องพีเพิล แชนเนล ใส่ความโจทก์ทำนองว่า เป็นนายกฯ ที่สั่งฆ่าประชาชน และหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ซึ่งล้วนเป็นเท็จ

โดยวันนี้นายอภิสิทธิ์ เบิกความสรุปว่า คลิปเสียงดังกล่าว เป็นการนำเสียงของโจทก์จากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ มาตัดต่อ แล้วสร้างคลิปเสียงขึ้นใหม่

ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจพิสูจน์ยืนยันชัดเจนว่า มีการตัดต่อ ดังนั้น ขอยืนยันว่า ตนไม่เคยสร้างสถานการณ์ หรือสั่งการให้มีการปราบปรามประชาชนใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนเหตุจลาจลเมื่อปี 52 ตนเพียงกำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็สงบลง ไม่พบผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ตนขอยืนยันว่า คลิปเสียงดังกล่าว เป็นการจงใจใส่ร้าย ใส่ความ มิใช่การติชมโดยสุจริต อีกทั้ง ตนก็เคยฟ้องร้องจำเลยมาแล้วหลายคดีที่ศาลอาญา

นายอภิสิทธิ์ เบิกความต่อว่า การตรวจสอบจากฝ่ายค้าน สามารถกระทำได้ทั้งใน และนอกสภาฯ

แต่ถ้ามีการใส่ความ หรือพูดเท็จก็ไม่ถือว่าเป็นการตรวจสอบ และจะกลายเป็นพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม ศีลธรรม เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก และขอยืนยันว่า คลิปเสียงดังกล่าว ไม่ใช่เสียงที่มาจากการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า คลิปดังกล่าว น่าจะเป็นของจริงนั้น ตนยืนยันว่า ร.ต.อ.เฉลิม แค่ตั้งกระทู้ถามในสภาว่าใช่คลิปของจริงหรือไม่ใช่เท่านั้น เป็นการอภิปรายในสภาตามปกติ และมีการตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และผลสรุปออกมาว่า เป็นการตัดต่อคลิปเสียงจากรายการเชื่อมั่นฯ อย่างน้อย 2 ครั้ง

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า ตนหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารนั้น ตอนที่ตนไปสมัครเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อย จปร. ไม่เคยใช้เอกสารปลอมสมัครเป็นอาจารย์

ตนทราบดีว่าตามกฎหมายเมื่อชายไทยอายุครบ 18 ปี จะต้องไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกินไว้ เพื่อรับการตรวจเลือด และพออายุครบ 20 ปี ตนก็ไปแสดงตัวแล้ว พยานเบิกความเรื่องอื่น ๆ แล้วเสร็จ ศาลจึงนัดฟังคำสั่งว่า จะประทับรับฟ้องคดีหรือไม่ วันที่ 24 ก.ย. เวลา 09.00 น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์