พันธมิตรทั่วประเทศ จี้ นายกรัฐมนตรี ปลด บิ๊กป๊อก

พธม.ทั่วประเทศ รวมพลังยื่นข้อเรียกร้องให้ทหารปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายชาติ พร้อมจี้ นายกรัฐมนตรี ปลด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จากตำแหน่ง ผบ.ทบ.

ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมืองฯ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา กว่า 300 คนนำโดย

นายแพทย์ศุภผล เอี่มเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีคนโคราชรักประชาธิปไตย แกนนำพันธมิตรฯ จ.นครราชสีมา , นายชุป ไชยฤทธิชัย ทนายความ , นายสมชาย ลิขิตวรสิริ และ ผศ.ดร.สามารถ ปราบโจร นักวิชาการ ม.ราชภัฎนครราชสีมา เป็นแกนนำ โดยกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดได้เดินทางไปยังหน้าประตูเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมืองฯ โดยมีกำลังตำรวจ สภ.เมืองฯกว่า 10 นาย และสารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 21 กว่า 20 นายคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งการชุมนุมเป็นไปอย่างสันติวิธี

โดยมี พ.อ.ประวิตร หูแก้ว เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 21 ได้รับมอบหมายจาก พล.ท.วีรฺวลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้มารับหนังสือข้อเรียกร้อง

ขอให้รัฐบาลและทหารปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายกลางเมืองหลวง ผ่านไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางกลับไปรวมตัวที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) แล้วได้สลายตัวในเวลาต่อมา โดยไม่มีความวุ่นวาย หรือสร้างปัญหาความเดือดร้อนต่อการสัญจรของประชาชนแต่อย่างใด และมีการนัดหมายในการเปิดเวทีปราศรัยอีกครั้งที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม)ในเวลา 17.00 น. ซึ่งเปิดเวทีปราศรัยด้านฝั่งซ้ายของอุนาวรีย์ฯ ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงก็ตั้งเวทีปราศรัยทุกวันอยู่ด้านฝั่งด้านขวาของอนุสาวรีย์ฯ

ทันตแพทยย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา ได้อ่านจดหมายเปิดผนึก

เรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ใช้อำนาจรัฐที่ชอบด้วยกฎหมายจัดการกลุ่มก่อการร้าย และการชุมนุมที่ผิดกฎหมายโดยเร็ว หากกลไกของรัฐ ภาคส่วนใดไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินมาตรการเด็ดขาด ด้วยการปรับเปลี่ยนและปลดออก 2. ให้รัฐบาลพิจารณาประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในจังหวัดสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรง โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ทางภาคเหนือ และภาคอีสานหลายจังหวัดที่พร้อมจะกลายเป็นดินแดนอนาธิปไตยไร้กฎหมาย และ 3. ให้ทหารที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ที่ถูกผู้ก่อการร้ายยึดครอง และก่อความเดือดร้อนเสียหาย ประกาศใช้กฎอัยการศึกโดยเร็ว แล้วกวาดล้างผู้ก่อการร้ายอย่างเฉียบขาดก่อนที่จะสายเกินแก้

ส่วนที่ จ.กำแพงเพชร ที่บริเวณหน้ากรมทหารพรานที่ 35 ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

ได้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากอำเภอต่างๆในจังหวัดกำแพงเพชร ประมาณ 100 คน นำโดยนายสุวัฒน์ วัฒนศิริ ได้เดินทางมาเพื่อยื่นแถลงการณ์ให้กับทางทหารพราน โดยมี พ.ท.สุจินต์ วิลัยรัตน์ รองผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 35 ออกมาเป็นผู้รับแถลงการณ์ดังกล่าว

โดยตัวแทนของกลุ่มพันธ์มิตร ได้อ่านแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่ม นปช. จึงขอคัดค้าน ต่อต้านการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว

ขอเรียกร้องให้รัฐบาล ประกาศจุดยืนที่ชัดเจน ต่อการเอาผิดการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และจัดการกลุ่มผู้ก่อการร้าย ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีได้มอบอำนาจให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รับผิดชอบควบคุมสถานการณ์ แต่ทุกอย่างยังคงคลุมเครือในการควบคุมสถานการณ์ร้ายแรงในขณะนี้

และ เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้าย แรง จังหวัดที่มีพื้นที่สุ่มเสี่ยง

รัฐบาลและกองทัพจะต้องใช้มาตรการทางทหารประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่จำเป็น อย่างเร่งด่วน เพื่อยุติการชุมนุมที่ผิดกฎหมายกับกลุ่มก่อการร้าย นอกจาก นั้นยังเรียกร้องให้ทหารทุกเหล่าทัพ ทุกหน่วย ทุกค่าย ได้ตื่นตัวและตระหนักในขบวนการล้มเจ้า ขบวนการก่อการร้าย และการสถาปนารัฐไทยใหม่ จากนั้นกลุ่มพันธมิตรและทหารพราน ได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับอย่างสงบ

ขณะที่ จ.ชุมพร ที่หน้าสโมสรนายทหาร ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดทหารบกชุมพร ถนนเพชรเกษม ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร

นางนวพรรณ แก้วนาโพธิ์ ประธานเครือข่ายพลังแผ่นดิน จ.ชุมพร พร้อมด้วย กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือขอให้ทหารเข้าดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างเด็ดขาด

โดยขอให้กองทัพออกมาทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

เนื่องจากในขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มมีความพยายามจะสถาปนาอำนาจรัฐเถื่อนใน หลายๆ พื้นที่ มีการใช้กองกำลังก่อการร้าย ก่อเหตุรุนแรง ส่งผลให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย มีประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก สังคมไร้กฎระเบียบ จนประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องตกเป็นตัวประกันของกลุ่มอำนาจเถื่อน ในขณะเดียวกันกลไกอำนาจรัฐยังไม่ได้แสดงความเข้มแข็งเพื่อหยุดยั้งอำนาจ เถื่อนดังกล่าวได้

นางนวพรรณ แก้วนาโพธิ์ ประธานเครือข่าย พลังแผ่นดิน จ.ชุมพร กล่าวว่าการยื่นหนังสือในครั้งนี้นั้นเพื่อต้องการกระตุ้นให้ทหารหาญ

ออกมาปกป้องและต่อต้านการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศถือว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นการก่อการร้าย หากปล่อยสถานการณ์ยืดเยื้อไปเรื่อยๆแบบนี้ จะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างรุนแรง ซึ่งทางออกในขณะนี้มีอยู่หนทางเดียวคือทหารเท่านั้นที่จะสามารถดำเนินการได้ อย่างเด็ดขาดกับกลุ่มก่อการร้าย นปช. และแก้ไขปัญหาสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมได้

สำหรับการยื่นหนังสือในครั้งนี้ทางผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร ติดภารกิจ

จึงมอบหมายให้ ร.อ. เอกพล ธำรงโชต นายทหารเวรผู้ใหญ่ เป็นผู้มารับหนังสือแทน พร้อมกันนี้ทางทหารได้กล่าวต่อประชาชนที่มายื่นหนังสือที่ให้ความเชื่อมั่น ในศักดิ์ศรีและเกียรติยศของเหล่าทหาร โดยเหล่าทหารจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดพร้อมทั้งชื่นชมประชาชนทุกคนที่มีความ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสานา และสำคัญยิ่งคือสถาบันพระมหากษัตริย์