ปืน-ระเบิดระงม จลาจล! ตาย-เจ็บครึ่งพัน

นองเลือด - ภาพนาทีปะทะเดือดระหว่างทหารและม็อบเสื้อแดง บริเวณสี่แยกคอกวัว
และอีกหลายจุดรอบๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังรัฐบาลสั่งสลายม็อบ
เป็นเหตุให้ทหารและผู้ชุมนุมถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อวันที่ 10 เม.ย.

รัฐบาลมือเปื้อนเลือด จนได้ สั่งทหารติดอาวุธ ลุยสลายม็อบเสื้อแดง เป้าหมายยึดคืนพื้นที่ชุมนุมสะพานผ่านฟ้าฯ จนเกิดเหตุปะทะหลายจุดทั่วกรุง แก๊สน้ำตาฟุ้งตลบเมือง กระสุนยาง-กระสุนจริงปลิวว่อน หนักสุดที่สี่แยกคอกวัว ปะทะกันช่วงค่ำทั้งทหาร-ผู้ชุมนุมเจ็บอื้อ "มาร์ค"เครียดหลังรู้มีคนเจ็บ-ตาย สั่งทหารติดต่อแกนนำเสื้อแดง ประกาศหย่าศึกหยุดยิงตอน 3 ทุ่ม สรุปยอดตายเบื้องต้น 8 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน นักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น โดนลูกหลงถูกยิงที่หน้าอกเสียชีวิต แกนนำเสื้อแดงประกาศทวงหนี้เลือด ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล"ยุบสภา"โดยทันที พร้อมขับไล่"มาร์ค"ออกนอกประเทศ ขณะที่คน เสื้อแดงยังทยอยออกมาชุมนุมเวทีราชประสงค์-ผ่านฟ้าแน่นขนัด

ทหารยึดกลับสถานี"ไทยคม"


เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่สถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี หลังกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนนับหมื่นคนไปกดดันให้รัฐบาลเชื่อมต่อสัญญาณโทรทัศน์พีเพิลแชน แนล หรือพีทีวี กลับคืนเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้เกิดการปะทะกับทหารที่รักษาการณ์อยู่ภายในสถานีที่ระดมฉีดน้ำ ยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถผลักดันทหารออกไปและเข้ายึดสถานีไทยคมไว้ได้

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงดึกประมาณ 02.00 น. กำลังทหารจาก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย พล.ร.9 กาญจนบุรี พล.ม.2 กรุงเทพฯ และ นปอ.ดอนเมือง รวม 37 กองร้อย ประมาณ 5,000 นาย ได้กลับเข้ายึดสถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว ไว้ได้ตามเดิม พร้อมขยายพื้นที่ตั้งจุดสกัดห่างจากสถานีดาวเทียมไทยคม 3 กิโลเมตร จุดที่ 1 สามแยกคูบางหลวง จุดที่ 2 ปากทางเข้าวัดหนองปลาดุก บนเส้นทางถนนสายลาดหลุมแก้วเจดีย์หอย จุดที่ 3 สะพานข้ามคลองสระ หน้ามหาวิทยาลัยชินวัตร จุดที่ 4 สะพานข้ามคลองบางหลวง หน้าโรงเรียนวัดบ่อเงิน และจุดที่ 5 แยกเข้าอบต.คูขวาง

ส่วนบริเวณหน้าสถานีฯ พนักงานอบต.บ้านกลางได้รื้อถอนเต็นท์ออก ด้านข้างสถานีฯ มีการวางลวดหนามเพิ่มขึ้นอีก 3 ชั้น ภายในหน้าอาคารสถานีฯ มีกำลังทหารเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ถึง 3 เท่า ทั้งนี้ ทหารช่างได้ขนย้ายแท่งปูนเข้ามาเสริมปิดกั้นเส้นทางถนนที่มุ่งหน้าเข้าไปยังสถานีอีกชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการรักษาที่มั่น

"บูรพาพยัคฆ์"เข้าเสริมทัพ

ด้านความเคลื่อนไหวของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) มีกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (กรม ร.2 รอ.) ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีชื่อเรียกขานว่า"นักรบบูรพา"หรือ "บูรพาพยัคฆ์" นำโดย พล.ต.วริศ โรจนภักดี ผู้บัญชาการกรม ร.2 รอ. นำกำลังเข้ามาประจำการเพิ่มเติมประมาณ 2 กองพัน ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา และมีการส่งกำลังออกไปตามจุดสำคัญโดยเฉพาะที่สถานีดาวเทียมไทยคม จ.ปทุมธานี

สำหรับการประชุมและประเมินสถานการณ์ ช่วงเช้า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ. พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ใช้เวลาเพียง 15 นาที ในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เดินทางจากบ้านพักรับรองใน ร.11 รอ. มายังกองบัญชา การ ศอฉ. ตั้งแต่เวลา 07.50 น. แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยนายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด นั่งหารือกับคนสนิท อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ

เวลา 11.30 น. นายสุเทพ พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา รองผบ.ทบ. เดินทางออกจาก ศอฉ. ขณะที่นายกฯ ยังอยู่ที่กองบัญชาการ ศอฉ.เช่นเดิม

แดงผ่านฟ้าตระเวนไล่ตร.

บรรยากาศที่เวทีการชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเดินทางมาฟังการปราศรัย พร้อมตั้งขบวนรอเคลื่อนตัวตามคำสั่งจากเวทีแยกราชประสงค์ เวลา 10.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุม 300-500 คน เคลื่อนขบวนไปขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตั้งด่านรอบบริเวณเวทีผ่านฟ้าฯ สกัดไม่ให้คนเสื้อแดงเข้ามาร่วมชุมนุม จากนั้นนายขวัญชัย ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียง นำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปตามถนนหลานหลวง เลี้ยวซ้ายแยกสะพานขาว ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนครสวรรค์ พร้อมสั่งการ์ดนปช.ขับรถจักรยานยนต์ตระเวนหาด่านตำรวจ หากพบอยู่ประจำจุดใดให้มาแจ้ง ระหว่างนั้น นายขวัญชัยประกาศว่าได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก. น.1 ว่าสั่งให้ตำรวจทุกด่านรอบบริเวณการชุมนุมยกเลิกการตั้งด่านแล้ว นายขวัญชัยจึงประกาศนำผู้ชุมนุมกลับเวทีสะพานผ่านฟ้า

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายขวัญชัย ประกาศให้ผู้มีรถยนต์นำรถไปปิดทางเข้าเวทีผ่านฟ้าฯ 6 เส้นทางคือ 1.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2.แยกมิกสกวัน 3.สะพานมัฆวานรังสรรค์ 4.ถนนมหาชัย (ป้อมมหากาฬ) 5.ถนนหลานหลวง ลูกหลวง นครสวรรค์ และ 6.ถนนพระสุเมรุ เนื่องจากทราบว่ามีทหาร 4 คันรถมาเสริมกำลังที่ลานพระบรมรูปทรงม้า อาจมีการสลายการชุมนุมในเวลา 12.00 น. และให้รถจักรยานยนต์ทุกคันเตรียมพร้อมเคลื่อนไปในที่ที่มีการปะทะพร้อมทั้งให้การ์ดนปช.ทุกด่านขับรถตระเวนแจ้งเหตุไม่ปกติ

ตร.ถือหมายจับลุยเวทีแดง

เวลา 11.30 น. มีตำรวจนครบาล 2 นาย นำหมายจับ 3 ใบคือ นายวิภูแถลง พัฒนภูไท, นายวรพล พรหมิกบุตร, นายประมวล ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก มายืนอยู่ด้านหลังเวที อ้างว่าได้รับคำสั่งให้มาดูว่าทั้ง 3 คนอยู่หลังเวทีหรือไม่ เมื่อผู้ชุมนุมรู้ว่าเป็นตำรวจนำหมายจับมาก็โห่ร้องตะโกนขับไล่ การ์ดนปช. จึงนำตำรวจทั้ง 2 นายออกนอกบริเวณ ระหว่างนั้นมีเสียงดังสนั่นเมื่อหิ้งพระรูปขนาดใหญ่พังลงมา ทำให้พระแก้วมรกตสีแดงหัก 2 ท่อน การ์ดนชป.จึงใช้หนังสือพิมพ์มาคลุมและห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ

เวลา 11.45 น. นายวิสา คัญทัพ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำขึ้นเวทีแจ้งผู้ชุมนุม ว่า มีทหารจำนวนหนึ่งกำลังมายังเวทีผ่านฟ้าฯ ขอให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัวให้พร้อม ส่วนผู้ชุมนุมที่มีรถปิกอัพให้นำไปปิดเส้นทางที่จะเข้าสู่เวทีผ่านฟ้าฯ 6 จุด พร้อมแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบถึงวิธีปฏิบัติหากมีการสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา หรือหากมีการบุกรุกให้นั่งอยู่กับที่ อย่าตอบโต้ ในส่วนรถจักรยานยนต์ให้มารวมตัวที่หน้าเวทีใหญ่ และขอให้ผู้ชุมนุมฟังคำสั่งแกนนำบนเวทีเท่านั้น

เวลา 12.00 น. วิทยุชุมชนคนเสื้อแดงคลื่น 97.25 ประกาศว่า วันนี้เรามีภารกิจใหญ่และสำคัญ ขอให้พี่น้องชาวเสื้อแดงไม่ว่าจะเป็นคนขับรถแท็กซี่ ขับสิบล้อ ขับจักรยานยนต์รับจ้าง ให้โทรศัพท์บอกต่อๆ กันไป ให้ไปรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าฯ และที่แยกราชประสงค์ เพราะขณะนี้มีทหารและตำรวจเสริมกำลังเตรียมจะเข้ามาสลายการชุมนุมแล้ว

ปะทะทหารหน้าทัพภาค1

เวลา 13.00 น. นายขวัญชัย ประกาศให้มวลชนรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากทราบว่าจะมีทหารสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันได้รับแจ้งมีทหารเคลื่อนขบวนออกจากกองทัพภาค 1 ด้านถนนศรีอยุธยา กลุ่มผู้ชุมนุมจึงนำรถบรรทุก 6 ล้อและรถยนต์กระบะมาปิดกั้นไว้หน้าประตูทางออกกองทัพภาคที่ 1 ขณะเดียวกันกองกำลังทหารพยายามเปิดประตูเพื่อเคลื่อนพลออกมา แต่ผู้ชุมนุมช่วยกันดันเอาไว้ ดันกันไปมาสักระยะ จากนั้นทหารในกองทัพภาค 1 ได้ใช้น้ำฉีดไล่ผู้ชุมนุม ช่วงชุลมุนมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง มีควันพวยพุ่งอยู่ภายในรั้วกองทัพภาค 1 กลุ่มผู้ชุมนุมตกใจแตกกระเจิง ขณะที่กองกำลังทหารเคลื่อนกลับเข้าไปในกองทัพภาค 1 อีกครั้ง แกนนำต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ พร้อมสั่งห้ามขว้างปาสิ่งของเข้าไปภายในกองทัพภาค 1 เนื่องจากแกนนำได้เจรจากับผู้บังคับบัญชาของทหารแล้ว ผู้บังคับบัญชาของทหารระบุขอเวลา 30 นาที ให้กองกำลังทหารเคลื่อนขบวนกลับกรมกอง ขณะที่ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักรอสถานการณ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเสียหายระหว่างที่ทหารฉีดน้ำออกมาจากในกองทัพภาค 1 แรงน้ำทำให้กระจกบังลมด้านหน้ารถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทน 3099 กทม. ของนายสมชาติ แส่สันเทียะ แตกละเอียด แต่คนขับไม่ได้รับอันตราย ยังมีรถกระบะยี่ห้อนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 7254 บุรีรัมย์ กระจกบังลมด้านหน้าแตก ฝากระโปรงหน้าและหลังคายุบ

โฆษก"ศอฉ."สยบลือปฏิวัติ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ชี้แจงกรณีมีรถหุ้มเกราะ สายพานลำเลียง พร้อมทหารอาวุธครบมือ จำนวน 5 คัน วิ่งออกจากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) มุ่งหน้ามายังถนนราชดำเนิน ช่วงเดียวกับที่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับทหารภายในกองทัพภาคที่ 1 ทำให้เกิดข่าวลือทหารจะเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง หรืออาจเกิดเหตุปฏวัติรัฐประหาร ว่า การเคลื่อนย้ายรถถังสายพานลำเลียงไม่ใช่ว่าจะเข้าสลายการชุมนุม หรือมีเหตุอื่น เพียงแต่นำรถดังกล่าวเพื่อไปจอดประจำการที่บริเวณหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และที่สโมสรกองทัพบก เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเบนเป้าจากกองทัพภาคที่ 1 ไปยังบริเวณหน้าบ้านพักของพล.อ.เปรม เนื่องจากอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาการไปปิดล้อมของกลุ่มคนเสื้อแดงมักใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่บุกเข้าไป เจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถกันได้ จึงต้องใช้รถหุ้มเกราะ

ณัฐวุฒิด่ารัฐบาลปลิ้นปล้อน

เวลา 10.00 น. ที่เวทีแยกราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. พร้อมแกนนำร่วมแถลงข่าว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ สั่งปิดสัญญาณพีเพิลแชนแนลอีกครั้ง หลังกลุ่มคนเสื้อแดงเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง ตกลงให้เปิดการถ่ายทอดสัญญาณพีเพิลแชนแนล แสดงถึงความอัปยศของรัฐบาลที่สับปลับ ปลิ้นปล้อนหลอกลวง หลังจากนายอภิสิทธิ์สั่งการเจ้าหน้าที่ทหารตั้งป้อมค่ายด้วยกำลังพลจำนวนมากและอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ แสดงให้เห็นถึงจิตใจเผด็จการที่จะล้อมปราบประชาชน รวมทั้งการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ทั้งยังแสดงถึงความเป็น 2 มาตรฐานต่อสื่อที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสื่อที่อยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่ครั้งแรกในการสับปลับของฝ่ายอำนาจรัฐที่รับใช้อำมาตย์ ก่อนหน้านี้แกนนำนปช. นำประชาชนไปสอบถามความคืบหน้าคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ต่อสายถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ระบุจะตัดสินคดีวันที่ 20 เม.ย. แต่หลังจากนั้น นายอภิชาตกลับคำพูด อ้างว่าระยะเวลาอาจไม่แล้วเสร็จตามที่ตกลง ทราบว่านายอภิชาตเตรียมวินิจฉัยว่าไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจะลาออกจากประธานกกต. เดินทางไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว ตอนนี้คนในครอบครัวไปรออยู่ต่างประเทศแล้ว

ท้าให้ประกาศกฎอัยการศึก

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ทหารไปตั้งกองกำลังอยู่ที่สถานีดาวเทียมไทยคมเต็มกำลัง ป้องกันไม่ให้คนเสื้อแดงบุกเข้าไป ขอให้ตั้งกำลังกันให้เต็มที่ ส่วนเราพร้อมไปที่นั่นตลอดเวลาหากจำเป็น อาจเป็นบ่ายวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ ส่วนมาตรการเข้มข้นในการยกระดับการชุมนุมยังมีอยู่ตลอด เรายังมีไพ่อยู่หลายใบ อาจใช้การตั้งรับแทนการรุก เช่น หากเรากระชับกำลังอยู่ที่นี่สัก 4-5 วัน ก็ลองดูว่าแรงกดดันจะไปอยู่ที่ใคร ส่วนนายอภิสิทธิ์ใช้ไพ่หมดมือแล้ว มีอีกอย่างคือประกาศกฎอัยการศึก ก็ดีเหมือนกัน ยังไม่เคยต่อสู้ภายใต้กฎอัยการศึก หากจะสลายการชุมนุมขอเชิญทำได้เต็มที่ เราจะอยู่กันจนกว่ารัฐบาลยุบสภา ไม่ว่าช่วงสงกรานต์เราก็จะยังอยู่

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กรณีรัฐบาลออกหมายจับแกนนำ มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายยื่นอุทธรณ์หมายจับ จะดำเนินการอย่างไรต่อ มอบตัวหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา แต่เรายังสบายใจที่สมัยพันธมิตรยึดทำเนียบฯ เมื่อมีหมายจับก็ไปมอบตัว เสร็จแล้วก็กลับมายึดทำเนียบต่อ เมื่อมีมาตรฐานทางกฎหมายเช่นนี้ พวกเราไปมอบตัวแล้วกลับมาราชประสงค์ได้อีก ไม่มีปัญหา สำหรับการเคลื่อนขบวนไปที่ อ.ลาดหลุมแก้ว เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ทำให้คนเสื้อแดงบาดเจ็บราว 20 คน รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ลาดหลุมแก้ว แกนนำมอบหมายให้นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ไปดูแลและจัดเงินค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นรายละ 5 พันบาท

แดงราชประสงค์ปักหลักสู้

เวลา 11.00 น. ขณะที่แกนนำ นปช. อยู่ในเต็นท์หลังเวทีแยกราชประสงค์ ปรากฏว่าพล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ ผบก.ภ.จว.น่าน ในชุดนอกเครื่องแบบ พร้อมตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย เดินเข้ามาพร้อมนำหมายจับกุมแกนนำนปช. 3 ประกอบด้วย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวรพล พรหมมิกบุตร และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก มาแสดง โดยพล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ระบุให้ทั้ง 3 คนออกมามอบตัว การ์ดนปช.จึงเข้ามาสอบถามและพูดคุยประมาณ 5 นาที แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงเชิญตัวออกไปจากพื้นที่ชุมนุม ระหว่างนั้นกลุ่มเสื้อแดงที่ยืนดูเหตุการณ์ประมาณ 200 คน ส่วนหนึ่งกรูเข้าปิดล้อมขับไล่ จนเกิดการชุลมุนมีการขว้างปาน้ำและใช้ตีนตบทุบตี การ์ดนปช. ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์พาตัวออกไปทางแยกราชดำริ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมติดตามไปจำนวนมาก ขว้างปาสิ่งของตลอดทาง บางคนพยายามเข้ามาชกต่อย การ์ดนปช.ต้องป้องกันอย่างเข้มงวด ก่อนมีรถตร.สายตรวจมารอรับอยู่บริเวณแยกราชดำริ พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ รีบวิ่ง ขึ้นรถออกไปทันที

เวลา 12.00 น. นายณัฐวุฒิขึ้นเวทีปราศรัยว่า มีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ตั้งด่านสกัด พร้อมเคลื่อนกำลังพลเพื่อเข้าสลายการชุมนุมที่เวทีผ่านฟ้าฯ ขอให้ประกาศแจ้งพี่น้องเสื้อแดงออกมาสมทบบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯและราชประสงค์ นอกจากนี้เวทีที่ราชประสงค์ทหารจะเข้าสลายการชุมนุม ใช้เส้นทางถนนเพลินจิตเป็นจุดแรก จากนั้นจะเข้าพร้อมกันทั้ง 3 จุด ขอให้พี่น้องที่ราชประสงค์ปักหลักต่อสู้ต่อไป

ป่วนลามรถไฟฟ้าปิดชั่วคราว

จากนั้นแกนนำสั่งให้ชายฉกรรจ์ไปตั้งด่านสกัดทหาร แจกอุปกรณ์ต่อต้านการสลายม็อบ อาทิ หน้ากากอนามัย ผ้าขนหนู น้ำและเครื่องอุดหูให้ผู้ชุมนุม พร้อมเล่นดนตรีปลุกเร้าตลอดเวลา ขณะที่การ์ด นปช.นำถุงดำไปปิดกล้องวงจรปิดซีซีทีวี แยกราชประสงค์ ป้องกันไม่ให้ตำรวจมองเห็น

นายจตุพร ขึ้นเวทีประกาศว่า กำลังทหารจะเคลื่อนเข้ามาทางรถไฟฟ้า ขอเตือนบริษัทบีทีเอสว่าการทำให้รถตกรางง่ายมาก ส่วนนายอริส มันต์ กล่าวว่า หากบีทีเอสให้ทหารโดยสารเข้ามาสลายการชุมนุม จะมาได้แค่ขบวนเดียว ที่เหลือจะตกรางทั้งหมด หากมีการสลายการชุมนุมขอให้ผู้ชุมนุมโทร.หาพี่น้องต่างจังหวัด ให้ระดมคนไปที่ศาลากลางและปิดถนนทั่วประเทศ ให้ประเทศกลายเป็นอัมพาต และวันที่ 11 เม.ย. คนเสื้อแดงจะไล่ล่าอำมาตย์ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนจะไปไล่ล่าทุกที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่สวนลุมพินีหากเข้ามาสลายจะได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงโดยไม่มีการเจรจา ทราบว่านำกำลังหน่วยอรินทราชเข้ามาไว้ในร.พ.ตำรวจ คนเสื้อแดงจะเข้าไปปิดประตูร.พ.ตำรวจอีกครั้ง จากนั้นนายจตุพร พูดสลับว่า มีการนำกำลังทหารมาทางรถไฟฟ้า ขอให้ประชาชนคนเสื้อแดงที่อยู่บนสถานีไล่ต้อนคนลงจากรถให้หมด รวมทั้งคนขับ เพื่อให้รถไฟฟ้าคันดังกล่าวจอดที่สถานีชิดลมและสยาม

เวลา 14.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดง 300 คน นำกำลังไปปักหลักอยู่บริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าราชดำริและร.พ.ตำรวจ เพื่อสกัดกำลังเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าถึงเวทีปราศรัย ขณะที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าราชดำริและสถานีสยามปิดให้บริการชั่วคราว

ทหารเปิดฉากรุกคืบม็อบ

เวลา 13.30 น. ที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ แกนนำเสื้อแดงประกาศขอกำลังชายฉกรรจ์ 300 คนไปสกัดทหารไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม อ้างว่าได้รับแจ้งมีทหารหลายคันรถอยู่บริเวณสี่แยกคอกวัว ถ้าทหารบุกเข้ามาขอให้ผู้ชุมนุมยอม อย่าต่อสู้ สู้ไม่ได้เพราะไม่มีอาวุธ

1.ชุลมุน - เหตุชุลมุนบริเวณจุดปะทะระหว่างทหารกับเสื้อแดง
 โดยฝ่ายทหารใช้แก๊สน้ำตายิงใส่และโยนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์
ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเริ่มอารมณ์เดือดใช้ปืนจริงยิงใส่กันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 500 คน

2.รุนแรง - ม็อบเสื้อแดงช่วยกันอุ้มเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกับทหาร
ที่ได้รับ คำสั่งสลายม็อบที่สะพานผ่านฟ้า ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะเปิดฉากจู่โจมใส่กันด้วยไม้
 กระสุนยาง ก่อนใช้อาวุธปืนจริงจนเกิดความสูญเสีย

3.ปะทะ- กลุ่มเสื้อแดงใช้เสาธงเป็นอาวุธ ต่อสู้กับทหารที่ยิงปืนมาจากรถถังอย่างดุเดือด
 บริเวณ ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าฯ จนถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ตามข่าว

4.ยกย่อง - ม็อบเสื้อแดงนำศพของนายยุทธนา เจริญพูลพร และนายอำพล สาติยรัตน์
ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตขึ้นเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ ยกย่องเป็นวีรบุรุษคนเสื้อแดง
และนำทหารที่ถูกควบคุมตัวมาดูศพด้วย


ช่วงเวลาเดียวกัน ทหารในกองทัพภาคที่ 1 ใช้กำลัง 3 กองร้อยบุกออกจากประตูด้านถนนศรีอยุธยา ที่มีผู้ชุมนุมรวมตัว 500 คน โดยใช้น้ำฉีด ยิงกระสุนยางและระเบิดแก๊สน้ำตาเบิกทาง ผู้ชุมนุมแตกฮือไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า ทหารใช้กระสุนยางยิงไล่เพื่อบีบพื้นที่ ตั้งแถวกระจายยึดลานพระบรมรูปฯ ผู้ชุมนุมถอยร่นต่อเนื่อง ขบวนทหารเดินมุ่งหน้าแยก จปร. ครั้งละ 10 ก้าวหยุด มีรถบรรทุกน้ำ 2 คันขับตามหลัง และรถบรรทุกกำลังจำนวนหนึ่ง รุกไล่ผู้ชุมนุมถอยหนีไปถึงแยก จปร. กลุ่มทหารเดินหน้าบีบผู้ชุมนุม สมทบกำลังทหารจากด้านถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล และกำลังทหารจากแยกวังแดง รวมเป็น 3 ด้าน รุกไล่ผู้ชุมนุมไปอยู่สะพานมัฆวานรังสรรค์

จากนั้นทหารใช้กำลังผลักดันผู้ชุมนุมอยู่พักหนึ่งบริเวณสะพานมัฆวานฯ หน้าตึกสห ประชาชาติ (ยูเอ็น) ก่อนขว้างแก๊สน้ำตาเข้าใส่ แต่ทหารอยู่ใต้ลมจึงเป็นฝ่ายโดนแก๊สน้ำตาเอง ต้องถอยกลับไปที่เชิงสะพานฝั่งทำเนียบรัฐบาล พยายามบุกอยู่ 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ทหาร 3 กองร้อยที่ผลักดันอยู่กับผู้ชุมนุมบริเวณข้างทบ. ใช้แก๊สน้ำตาขว้างใส่ผู้ชุมนุม เกิดปัญหาทหารอยู่ใต้ลมเช่นกัน และผู้ชุมนุมบางส่วนใช้ข้าวแกงสาดใส่ทหาร ส่วนที่แยกตลาดนางเลิ้งมีกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวน และเกิดการผลักดันและล้อมกรอบทหาร จนทหารจากถอยกลับเข้าสู่กองทัพบก

"แม้ว"ส่งเอสเอ็มเอสผสมโรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีฮ.ทหาร บินสังเกต การณ์ตลอดพื้นที่รอบสะพานผ่านฟ้าฯ ถ.ราช ดำเนิน ลานพะบรมรูปฯ เพื่อดูจุดปะทะ

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายวิสา คัญทัพ แกนนำเสื้อแดง ประกาศบนเวทีขอกำลังเสริม หลังได้รับแจ้งว่าหน้ากองทัพภาคที่ 1 ผู้ชุมนุมถูกทหารฉีดน้ำ และปาแก๊สน้ำตาออกมา ระหว่างนั้นนายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งเพิ่งกลับจากกองทัพภาค 1 ขึ้นประกาศว่าหากรัฐบาลจับกุมแกนนำ ขอให้ผู้ชุมนุมทางบ้านถือน้ำมันออกมา เผาที่ไหนได้ก็เผาเลย ทั้งนี้ ระหว่างที่แกนนำพูดมีฮ.ทหารบินวนอยู่ตลอดเวลา แกนนำบนเวทีประกาศให้ไปหาลูกโป่งสวรรค์ ปล่อยขึ้นฟ้าเพื่อรบกวนการบิน

เวลา 15.15 น. ช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารหลายจุดในกทม. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของแฟนคลับ ระบุว่าอภิสิทธิ์สั่งปราบประชาชนแล้ว ออกมาช่วยด้วย ปชต./ความเป็นธรรมต้องมีจริง

เวลา 15.30 น. การ์ดนปช.ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนฉีดน้ำและกระสุนยาง ทยอยเข้าปฐมพยาบาลหลังเวทีอย่างต่อเนื่อง มีบาดแผลเลือดไหลบริเวณใบหน้า ลำตัวและศีรษะ เกือบ 20 ราย นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังแจกจ่ายถุงพลาสติก ผ้าปิดจมูกและผ้าขาว เพื่อป้องกันแก๊สน้ำตา รวมถึงขอบริจาคถุงมือเพื่อที่เวลาโดนแก๊สน้ำตาขว้างมาแล้วสามารถขว้างกลับได้ บนเวทีประกาศว่าการ์ดนปช.ที่ไปช่วยสกัดไม่ให้ทหารเข้ามา ถูกทหารยิงหลายคน ขอให้ผู้ชุมนุมตามเต็นท์ต่างๆ ออกมาหน้าเวทีให้ทหารรู้ว่าเรามีจำนวนมาก

แดงฮือสู้-ทหารเจาะไม่เข้า

เวลา 16.00 น. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และนายขวัญชัย แถลงข่าวพร้อมกับนำปืน กระสุนยาง กระสุนที่แกนนำอ้างว่าเป็นกระสุนจริง แก๊สน้ำตาที่ถูกใช้แล้ว มาแสดงพร้อมแถลงว่า รัฐบาลกำลังลุแก่อำนาจ สลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักสากล ใช้กระสุนจริงยิงใส่ประชาชน มีการ์ดนปช.ถูกยิงหลายราย รัฐบาลหากต้องการจับแกนนำก็ควรใช้วิธีเจรจา

หลังการแถลงข่าว มีการโปรยใบปลิวเข้ามาในสถานที่ชุมนุม เป็นเอกสาร 2 แผ่น แผ่นแรก เป็นรายชื่อแกนนำ 24 คนที่ถูกออกหมายจับ ระบุข้อความว่าการเข้าพื้นที่เป็นความผิด อย่าหลงเชื่อคำยุยงปลุกปั่นของแกนนำ และขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางออกนอกพื้นที่ อีกแผ่นมีข้อความว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเคลียร์พื้นที่ถนนราชดำเนิน เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชน ขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยและสะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

เวลา 16.00 น. กำลังทหารที่สะพานมัฆวานฯ เริ่มผลักดันกับผู้ชุมนุมอีกครั้งโดยใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าและแก๊สน้ำตา จนผู้ชุมนุมถอยร่นไป 20 เมตร แต่กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวและพยายามผลักดันทหารกลับ จากนั้นได้ผลัดกันรุกและรับ ประมาณ 15 นาที ทหารยิงปืนขึ้นฟ้าตลอดเวลา แต่ในที่สุดทหารเป็นฝ่ายถอยร่นจนถึงสนามเสือป่า อีกส่วนเข้าไปในทำเนียบ ส่วนกำลังทหารที่ประจำอยู่คลองผดุงกรุงเกษมฝั่งทบ. ได้ถอยกลับเข้าไปในทบ.ทั้งหมด ผู้ชุมนุมยึดสะพานมัฆวานฯ และแยกมิสกวันไว้ได้ ผู้ชุมนุมอีกกลุ่มพยายามผลักดันตำรวจที่รักษาการณ์ที่สะพานมัฆวานฯ ฝั่งทำเนียบ ให้กลับเข้าทำเนียบ

แฉทหารใช้กระสุนจริงยิงขู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงทหารเปิดยุทธการขับไล่เสื้อแดงออกจากสะพานมัฆวานฯ มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมน แต่ปรากฏว่ากลุ่มควันแก๊สน้ำตาฟุ้งกระจายเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลโดนแก๊สน้ำตา จนน้ำตาไหลไปตามๆ กัน ขณะเดียวกันมีการทยอยนำทหารนับสิบนาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเข้ามาปฐมพยาบาลภายในทำเนียบ บริเวณตึก 44 ซึ่งเป็นศูนย์พยาบาล ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เนื่องจากถูกปาด้วยของแข็ง นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถแท็กซี่มาปิดประตูทางเข้า-ออกทำเนียบไว้ทุกด้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ทหารเริ่มร่อยหรอ กลุ่มทหารจึงใช้ปืนจริงยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่ผู้ชุมนุมให้ตกใจกลัว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ ระดมขว้างขวดน้ำใส่ทหารจนต้องหยุดยิงและรีบถอยร่นออกมา เวลา 16.20 น. ทหารเริ่มต้านกลุ่มผู้ชุมนุมไว้ไม่ได้จึงถอยร่นออกมา บางส่วนไปอยู่ที่แยกมิสกวัน บางส่วนเข้าไปอยู่ภายในทำ เนียบฯ และบางส่วนเข้าไปตั้งหลักอยู่ในวัดโสมนัสราชวรวิหาร

นักข่าวต่างประเทศเจ็บด้วย

รายงานข่าวเผยว่า เหตุปะทะกันหลายจุดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมตอบโต้โดยการขว้างปาสิ่งของ ท่อนไม้ใส่เจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกลำเลียงเข้ารักษาที่โรงพยา บาลกลาง ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศสำนักข่าวเอทีซีนิวส์ ถูกกระสุนปืนที่หน้าแข้งซ้ายได้รับบาดเจ็บ ล้มลงพร้อมกล้องถ่ายภาพวิดีโอ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่มีทหาร 1 นาย ถูกตีที่ศีรษะและฟันหน้าหัก

สำหรับการปะทะที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 มีผู้ชุมนุมถูกกระสุนยางบาดเจ็บที่ตาด้านขวา อีกรายที่ต้นคอ นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา เข้ารับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหลังเวที

น.พ.เพ็ชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอรา วัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ ตลอดช่วงบ่าย มีผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกแก๊สน้ำตาและถูกไม้ตี มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุมรวม 33 คน ถูกลำเลียงส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว

พ.อ.น.พ.พีรพล ปกป้อง ผอ.กองอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ร.พ.พระมงกุฎเกล้า รายงานการรักษาผู้บาดเจ็บที่เป็นทหารว่า จนถึงเวลา 15.50 น. รับผู้บาดเจ็บไว้ 12 นาย เข้ารับการผ่าตัดเร่งด่วน 1 นาย ถูกไม้ทิ่มที่คอ ที่เหลือถูกสะเก็ดระเบิด ไม่ถูกจุดสำคัญ ถูกเศษแก้ว ศีรษะแตก หน้าแตก นิ้วแตก เป็นต้น

ลั่นวันนี้ต้องรู้ผลแพ้-ชนะ

ที่เวทีเสื้อแดงแยกราชประสงค์ว่า เวลา 15.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นประกาศว่า การปะทะที่บริเวณผ่านฟ้าถือเป็นยกแรก ปล่อยให้เขานำไปก่อน แต่ยกต่อไปเราจะต่อสู้กลับ ขณะนี้ใครที่มีจานดีทีวีสามารถปรับรับดูช่องพีเพิลแชนแนลได้แล้ว ขอให้นักรบไซเบอร์ประชาสัมพันธ์ทางอินเตอร์เน็ต และดึงสัญญาณพ่วงเข้าไปสู่เว็บไซต์ของตัวเองได้ทันที และขอให้คนเสื้อแดงถ้าอยู่ใกล้สะพานผ่านฟ้าฯให้ไปรวมกันที่สะพานผ่านฟ้าฯ อยู่ใกล้ราชประสงค์ให้ไปที่ราชประสงค์ มติแกนนำชัดเจนแล้วว่าเราจะยึดที่มั่นสี่แยกราชประสงค์ไว้เป็นจุดสุดท้าย วันเสาร์-อาทิตย์นี้ขอให้ประชาชนออกมาให้มากๆ เชื่อว่า 2 วันนี้จะเป็นวันชี้ชะตาประเทศไทย จะรู้แพ้ชนะใน 2 วัน

เวลา 15.00 น. ที่ร.พ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยยืนเข้าแถวพร้อมโล่ กระบอง บริเวณทางเข้าโรงพยาบาล ทำให้พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช.ขึ้นประกาศบนเวทีเรียกร้องให้ตำรวจวางโล่ และถอนกำลังออก จากร.พ.ตำรวจทันที ขณะนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณทางเข้าร.พ.ตำรวจ ได้เข้าไปปิดเพื่อไม่ให้กำลังตำรวจออกมาได้

เวลา 16.00 น. นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช. นำหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 กระป๋องแก๊สน้ำตา และปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวที่หลังเวที อ้างว่าในการสลายม็อบที่แยกสะพานมัฆวานฯ มีการใช้กระสุนเอ็ม 16 เข้าสลายการชุมนุม นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีนักข่าวจากสหรัฐ โดนกระสุนบาดเจ็บ 1 นาย

เตรียมยึดคืนผ่านฟ้า-ไทยคม

นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ปราศรัยว่าขอกำลังเตรียมตัวให้พร้อม อีก 2 ชั่วโมงจะไปยึดสะพานผ่านฟ้าฯคืน

ด้านนายจตุพร ระบุว่า ที่สะพานผ่านฟ้าฯได้เสริมกำลังทหารจากราบ 11 แต่เนื่องจากกองกำลังอยู่ที่ อ.ลาดหลุมแก้ว ดังนั้นหากเคลื่อนออกมาจากสถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุม แก้ว เมื่อใด เราจะบุกไปยึดสถานีดาวเทียมคืนทันที กรณีระบุว่าใช้กระสุนปลอมนั้น ปรากฏว่าปืนที่ยึดได้ภายในเป็นกระสุนจริง นอกจากนี้ยังพบการปะทะกันที่ถ.ราชดำเนิน มีพี่น้องบาดเจ็บหลายคน มีนักข่าวสหรัฐอยู่ด้วย หลักฐานบนร่างสื่อสหรัฐคือหลักฐานที่นายอภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาชนครั้งที่สอง

เวลา 16.30 น. นายณัฐวุฒิ นำตัวนายธนู ทองนอก ชาวจ.หนองคาย ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมแจ้งว่า ชายคนนี้รับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างจากบริษัทแห่งหนึ่งให้เข้ามาแทรกซึมหาข่าว สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย กลุ่มคนเสื้อแดงจะแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเพียงอย่างเดียว ขอใช้สิทธิ์ควบคุมตัวเอาไว้ที่เวทีปราศรัย ปล่อยคนแบบนี้ไปไม่ได้ เป็นอันตราย จากนั้นนายณัฐวุฒิแสดงเครื่องแบบชุดทหารยศร้อยตรี ธวิกร สร้อยสูงเนิน สังกัด ร.2/1 ซึ่งการ์ดนปช.วิ่งไล่ตามนายทหารคนดังกล่าว แต่ยึดไว้ได้เพียงกระเป๋าจึงขอให้นายทหารคนนี้ออกมาแสดงตัวว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ถ้าไม่มาแสดงตัว เราจะตามไปหาต้นสังกัด

เวทีราชประสงค์คนยังแน่น

เวลา 16.45 น. บนเวทีชุมนุมแยกราชประสงค์ยังคงมีการปลุกเร้ามวลชน เพื่อเตรียมรับการสลายการชุมนุมของทหาร โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนำกำลังไปตั้งตามจุด ถ.พระราม 1 ถ.ราชดำริ และถ.เพลินจิต ที่จะมุ่งหน้ามาสี่แยกราชประสงค์ ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมทยอยมาเข้ามาสมทบจนเต็มหน้าเวทีและแถวยาวเลยแยกประตูน้ำ ประมาณ 2 หมื่นคน

เวลา 17.00 น. นายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีนำปืนลูกซองและแม็กกาซีนกระสุนปืน 16 บรรจุกระสุนจริงขึ้นโชว์บนเวที ระบุว่ายังสามารถยึดอาวุธปืนทหารได้เต็มรถกระบะ ได้สั่งให้แกนนำฝั่งเวทีผ่านฟ้าเก็บรักษาไว้ แต่จะไม่เอาไปดำเนินการใดๆ จึงขอกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เป็นฆาตกร ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ถ้าเราเก็บอาวุธได้เราจะไม่คืนให้เจ้าหน้าที่อีกแล้ว จะคืนต่อเมื่อนายอภิสิทธิ์ พ้นจากตำแหน่งและบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย

เวลา 17.20 น. ที่หน้าสนามม้านางเลิ้ง เสื้อแดงหลายพันคนที่ถูกบีบออกจากพื้นที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 ได้มาปักหลักประจันหน้ากับทหารกว่า 300 นายอาวุธครบมือ ที่อยู่ห่างออกไปราว 100 เมตร โดยกลุ่มเสื้อแดงนำแผงเหล็ก ไม้มากั้นพื้นที่ ใช้ไม้ไผ่ ก้อนอิฐ ก้อนหินเป็นอาวุธ บรรยากาศตรึงเครียด ขณะที่บริเวณสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษมติดกับประตูทางเข้าทำเนียบ กลุ่มเสื้อแดงใช้ไม้สนเป็นต้นๆ ประมาณ 200 ต้น ตั้งสลับฟันปลาเต็มพื้นที่บนสะพาน กันไม่ให้ทหารตีโอบกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง และยังนำรั้วลวดหนามมากั้นอีกชั้น

ทหารใช้"ฮ."ทิ้งแก๊สน้ำตา

ขณะที่ทหารได้นำตัวเจ้าของรถรถปิกอัพ รถแท็กซี่และรถยนต์ส่วนตัว ที่จอดทิ้งอยู่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า จำนวน 6 คันขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังออกไป ทำให้พื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปฯ ถูกทหารยึดไว้ได้ทั้งหมด นอกจากนี้กำลังทหารหลายร้อยนายได้เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังเคลื่อนกำลังผลักดันเข้ามาจากถ.อู่ทองใน ตรงบริเวณรัฐสภาให้ถอยกลับออกไป ไม่ให้เข้าบริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งกำลังมีการเคลียร์พื้นที่อยู่

ด้านสถานการณ์ที่แยกวังแดง หน้าหอประชุมคุรุสภา ทหารสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ไว้ได้ พร้อมตั้งกำลังรักษาพื้นที่หลังจากผลักดันผู้ชุมนุมจนแตกกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ จากนั้นทหารได้เคลื่อนไปหยุดอยู่ที่แยกประชาเกษม ก่อนเคลื่อนต่อไปตามถ.นครรราชสีมา มุ่งหน้าไปทางวัดตรีทศเทพ ส่วนหนึ่งเคลื่อนไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่แยกวัดเบญจมบพิตร ทหารควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเช่นกัน

เวลา 18.00 น. บริเวณหน้ากระทรวงศึกษา ธิการ กลุ่มเสื้อแดงเจรจาให้ทหารถอยไปอยู่แยกมิสกวัน แต่ไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมจึงใช้วิธีกดดันโดยให้ผู้หญิงอยู่แถวหน้าแล้วค่อยๆ เดินรุกคืบทีละก้าว ทำให้ทหารถอยไปอยู่แยกสวนมิสกวัน ขณะเดียวกันเฮลิคอปเตอร์ที่บินสำรวจอยู่ ได้โยนแก๊สน้ำตาจากเครื่องลงมาใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ อย่างไรก็ตามระหว่างผลักดันมีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5 นัด แต่ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ แกนนำผู้ชุมนุมประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ โดยทหารยอมถอยไป

แดงปล่อย"โคมลอย"สกัด

เวลา 17.35 น. นายอริสมันต์ นำนายเป็นธรรม ปัทมชินาลัย อายุ 34 ปี ชาวกทม. บาดเจ็บจากการปะทะที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 จนต้องนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีขึ้นมาแสดงตัวบนเวที นายเป็นธรรมกล่าวว่า บาดเจ็บจากกระสุนยางที่ทหารยิงใส่ที่ศีรษะ ทั้งยังโดนแก๊สน้ำตาเข้าบริเวณใบหน้าและล้มลง เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล หลังได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นจึงมาที่เวที

จากนั้นนายจตุพร ประกาศให้ประชาชนที่มีโคมลอยและลูกโป่งสวรรค์ไปที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ เมื่อใดที่เฮลิคอปเตอร์บินผ่านมาสังเกตการณ์ขอให้ปล่อยลูกโป่งและโคมลอยขึ้นฟ้าทันที

ด้านหลังเวที นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุ การส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า การต่อสู้มาถึงยกที่ 3 ยกแรกเราเพลี่ยงพล้ำปล่อยให้ทหารเข้ามาปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่จะนิ่งรอดูว่ากำลังทหารปฏิบัติอย่างไร ใช้กำลังจากส่วนไหน หากมีแค่นี้คงไม่สามารถสลายผู้ชุมนุมที่ผ่านฟ้าได้ ยกสองเราเริ่มต้นด้วยการเปิดพีเพิลแชนแนลเพื่อสื่อสารกับมวลชนทั่วประเทศได้สำเร็จ ขณะนี้มาถึงยกที่สาม เป็นการระดมกำลังมวลชนมาที่เวที 2 แห่งให้มากที่สุด ส่วนยกที่สี่ ขอให้รอดูต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร ล่าสุดได้ส่งโคมลอยจำนวนหนึ่งไปสนับสนุนที่เวทีผ่านฟ้าฯ หากเห็นเฮลิคอปเตอร์บินผ่านมาให้จุดโคม 20 อันต่อเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เพื่อป้องกันไม่ให้โปรยแก๊สน้ำตาลงมาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ยุทธการนี้ชื่อว่า"โคมน้อยคอยรัก"

จี้ทูตสังเกตการณ์สลายม็อบ

เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯ ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วประมาณ 10 คน นำจดหมายเปิดผนึก อ้างว่าเป็นข้อเรียกร้องของเครือข่ายนักวิชาการและประชาชนผู้รักประชา ธิปไตย ไปยื่นยังสถานทูตต่างๆ ประจำประเทศไทย อาทิ สถานทูตญี่ปุ่น สถานทูตสหรัฐ สถานทูตอังกฤษ เรียกร้องให้ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตมาร่วมสังเกตการณ์ และช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่ถูกเข่นฆ่าโดยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลปิดสื่อสารมวลชน ใช้ทหารและอาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชนที่อยู่บนท้องถนนในกรุงเทพฯ และมีเป้าหมายต่อไปที่สี่แยกราชประสงค์ จึงขอให้ประเทศของท่านช่วยส่งความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน มาช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน เราหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากท่าน อย่างไรก็ตามไม่มีเจ้าหน้าที่ของสถานทูตใดออกมารับเอกสารดังกล่าว มีเพียงตำรวจที่รักษาการณ์หน้าสถานทูตรับเรื่องไว้แทนเท่านั้น

บน-ยื้อชีวิต - ทหารพยายามช่วยชีวิตเพื่อนทหารที่ถูกยิง
ด้วยวิธีการเม้าธ์ทูเม้าธ์ ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว หลังจากปะทะกับม็อบเสื้อแดง
 และมีทหารเสียชีวิต 4 นาย ประชาชนเสียชีวิต 11 ราย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.

ล่าง-นาทีชีวิต - ทหารพยายามปั๊มหัวใจช่วยเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายม็อบ
ในนาทีเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียดแล้วเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
ทำให้ทหารล้มกันระเนระนาด บริเวณถนนพระสุเมรุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำให้ผู้ชุมนุมและเครือข่ายคนเสื้อแดงส่งข้อความสั้นผ่านโทร ศัพท์มือถือไปยังหมายเลขของคนใกล้ชิดให้มากที่สุดให้ออกมาร่วมชุมนุม ช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่กำลังถูกสลายบริเวณถนนราชดำเนิน โดยระบุว่านายอภิสิทธิ์ สั่งปราบปรามประชาชนแล้ว ให้ออกมาช่วยประชาธิปไตยด้วยและความเป็นธรรมต้องมีจริง

"จตุพร"ขู่ให้รอดูถนนเลือด

เวลา 18.15 น. นายจตุพร ปราศรัยบนเวทีแยกราชประสงค์ว่า หากทหารไม่หยุดสลายการชุมนุมที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ ฟ้าที่มืดจะเต็มไปด้วยสีเลือด เราจะหมดความอดทน ดังนั้น ถนนราชดำเนิน ราชประสงค์ ราชดำริ ราชปรารภ สีถนนจะเป็นสีเลือด หากทหารไม่ออกจากเวทีผ่านฟ้าฯ มาตรการต่างๆ จะหนักหน่วงมากขึ้น ที่อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ถ้าทหารถอนออกเมื่อไหร่เราจะไปยึดทันที ให้วุ่นวายทั้งบ้านเมือง ขอเชิญชวนทหารผ่านศึก ทหารและตำรวจนอกราชการออกมาทำสงครามเพื่อประชาธิปไตยกับประชาชน วันนี้ไม่แพ้แน่นอน เราจะไม่เจรจากับนายอภิสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้กำลังจะถึงจุดจบ ขอให้เก็บเสื้อผ้าออกนอกประเทศ ถ้าอยู่ประเทศไทยต้องถูกจับประหารชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ที่แยกมิสกวัน หลังจากเฮลิคอปเตอร์โยนแก๊สน้ำตาลงมา ผู้ชุมนุมจึงใช้วิธีปล่อยโคมลอยขับไล่ แกนนำยังประกาศว่าจะทำบั้งไฟไว้สำหรับยิงไล่ด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มคลี่คลายโดยตำรวจยอมถอยออกไป ผู้ชุมนุมจึงกลับไปยังเวทีผ่านฟ้าฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่มีการประจัน หน้ากันที่กระทรวงศึกษาธิการ พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด รองผบก.น.4 มาคุยแกนนำ โดยสอบถามถึงทหารที่หายไป 2 นาย ซึ่งผู้ชุมนุมแจ้งว่านำส่งร.พ.แล้ว

ปะทะกันหนักแยกคอกวัว

ที่บริเวณแยกวัดโสมนัสราชวรวิหาร ถ.เลียบคลองผดุงฯ ด้านประตู 8 ทำเนียบรัฐบาล เวลา 17.50 น. มีกำลังทหาร 300 นาย ตั้งแถวประจันหน้าเสื้อแดง 500 คน ระหว่างนั้นมีคนส่งน้ำดื่มใส่ขวดใสให้ทหารที่ตั้งแถวอยู่ แต่เมื่อทหารเทน้ำลงพื้นพบว่าเป็นน้ำกรดชนิดเข้มข้น กัดพื้นจนเป็นฟอง ขณะที่แกนนำเสื้อแดงประกาศว่าคนที่กระทำเป็นแดงเทียม และให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตามหาตัวแต่ก็ยังไม่พบ ต่อมาแกนนำกลุ่มย่อยประกาศให้เสื้อแดงเตรียมพร้อมผลักดันทหารออกจากพื้นที่ และผลักดันอยู่นาน 10 นาที แต่ไม่เป็นผล กลุ่มเสื้อแดงจึงเรียกกำลังเสริมอีก 200 คน ผลักดันทหารเข้าไปอยู่ในซอยวัดโสมฯ และเข้ายึดแยกวัดโสมฯแทนสำเร็จ

เวลา 19.00 น. บริเวณถนนตะนาว ทหารเคลื่อนกำลังมาจากบางลำพู ปะทะกับผู้ชุมนุมบริเวณแยกบางลำพูโดยใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตา มีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันผู้ชุมนุมมาทางสี่แยกคอกวัวโดยใช้กระสุนยางยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม สลับกับการใช้แก๊สน้ำตา ผู้ชุมนุมโต้กลับด้วยขวดน้ำ ขวดแก้ว อิฐตัวหนอน และพยายามผลักดันทหารจากสี่แยกคอกวัวกลับเข้าไปอยู่ในถนนตะนาว ก่อนจะถูกผลักดันออกมา จนเกิดเหตุปะทะกันหนักบริเวณสี่แยกคอกวัว

เวลา 19.25 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฐมพยาบาลคนเจ็บอยู่หน้าอาคารสลากกินแบ่ง อาคาร 2 บริเวณสี่แยกคอกวัว ปรากฏว่าเฮลิคอปเตอร์ได้โยนถุงระเบิดแก๊สน้ำตาลงมากลางวง ทำให้ผู้คนแตกฮือ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

ยอดเบื้องต้นเจ็บ135ราย

ส่วนบริเวณแยก จปร. กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถปอ. รถเมล์และรถยนต์จำนวนมาก จอดปิดแยกจปร.ฝั่งสะพานพระราม 8 นอกจากนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่เชิงสะพาน ขณะที่บริเวณถนนพระสุเมรุ กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถบรรทุก 6 ล้อมาจอดขวาง ขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ข้างโรงเรียนสตรีวิทยา บริเวณถนนดินสอ มีทหารจำนวนมากยืนประจันหน้ากับผู้ชุมนุม โดยฝ่ายทหารมีรถสายพานลำเลียง 4 คันพร้อมอาวุธหนัก ขณะที่ผู้ชุมนุมใช้รถปิกอัพ 20 คัน ปิดทางถนนดินสอ

เวลา 18.10 น. ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กรุงเทพฯ รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ทหารเข้าผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณถนนราชดำเนิน มียอดผู้บาดเจ็บ 135 ราย เป็นทหาร 41 ราย ตำรวจ 3 ราย และพลเรือน 91 ราย นำส่งร.พ.วชิระ 47 ราย ร.พ.มิชชั่น 2 ราย ร.พ.พระมงกุฎฯ 42 ราย ร.พ.กลาง 10 ราย รพ.รามา 13 ราย ร.พ. หัวเฉียว 9 ราย ร.พ.ศิริราช 8 ราย ร.พ.ตำรวจ 3 ราย ร.พ.จุฬาฯ 1 ราย โดยมีอาการบาดเจ็บจากการปะทะกัน แก๊สน้ำตา กระสุนยางและถูกตี

เวลา 15.50 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ผมยืนยันว่าผมและผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองทุกคน ไม่มีสิทธิ์ท้อถอยและจะต้องเดินหน้าในการทำให้บ้านเมืองของเรานั้นปกครองด้วยกฎหมาย"

ทั้งนี้ ภายในระยะเพียง 2 นาที มีกลุ่มคนซึ่งเป็นเครือข่ายเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความสนับสนุน และให้กำลังใจการทำงานนายอภิสิทธิ์กว่า 500 ข้อความ

ศอฉ.ระบุทหารถูกยิงเจ็บ2

เวลา 17.00 น. ที่ ศอฉ. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. แถลงว่า ก่อนขอคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้าฯและถ.ราชดำเนิน มีเสื้อแดง 200-300 คน พยายามบุกเข้าไปในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 อาจต้องการสร้างสถานการณ์หรือยั่วยุ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจและใช้น้ำฉีด แต่หลังจากนั้นผู้ชุมนุมกลับไปที่สะพานผ่านฟ้าฯ ปลุกระดมว่าทหารทำร้ายประชาชน จากนั้นเวลา 13.00 น. ศอฉ.ได้เริ่มตามแผนงานขอคืนพื้นที่แยกผ่านฟ้าโดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือน โดยดำเนินการใน 2 ทิศทางมุ่งเข้าสู่สะพานผ่านฟ้าฯ 1.จากลานพระบรมรูปทรงม้าไปตามถนนราชดำเนิน 2.จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งสู่สะพานผ่านฟ้าฯ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การปฏิบัติงานยึดหลักจากเบาไปหาหนักตามกฎการใช้กำลัง ตั้งแต่การแสดงกำลังไปจนถึงการใช้กระสุนยาง แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะดูความเหมาะสม ทุกมาตรการจะให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ รายงานล่าสุดทราบว่าผู้ชุมนุมบางคนมีอาวุธ กระสุนและวัตถุระเบิด โดยบริเวณสี่แยกคอกวัว มีทหาร 2 นายบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่ยิงเข้ามาจากกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

ลั่นต้องยึดคืนผ่านฟ้าฯให้ได้

โฆษกศอฉ. กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีข่าวลือเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงยิงทำร้ายประชาชน หรือนายกฯ สั่งการเฉียบขาดเข่นฆ่าประชาชน ซึ่งไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่ที่ถืออาวุธปืนและมีกระสุนจริงมีเฉพาะนายทหารสัญญาบัตรและนายสิบอาวุโสเท่านั้น ซึ่งจะอยู่แถวหลังสุดโดยมีภารกิจยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อใช้เสียงข่มขวัญผู้ชุมนุมให้ล่าถอยตามแผนที่เรากำหนด และมีข่าวลือว่าตั้งค่าหัวแกนนำ ซึ่งไม่จริง อย่างไรก็ตาม ศอฉ. แจ้งรายชื่อและแจกภาพถ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแล้ว ว่าหากพบแกนนำหรือผู้ที่มีหมายจับให้จับกุมตัวทันที

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การทวงคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้าฯ เรากำหนดระยะเวลาไม่ได้ แต่ในการปฏิบัติการทางทหารถ้ายิ่งค่ำมืดจะเป็นอุปสรรคทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ การขอพื้นที่คืนอาจต้องใช้เวลามากหน่อยเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมใช้อาวุธต่อต้าน ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เมื่อทำแล้วต้องทำให้เสร็จสิ้นภารกิจแม้จะค่ำมืดก็ต้องทำต่อให้สำเร็จ ส่วนพื้นที่แยกราชประสงค์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปกดดันแล้ว หากแนวโน้มดำเนินการได้จะทำทันที ทั้งนี้ ต้องรอฟังนโยบายอีกครั้ง เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีคนมาก 8-9 พันคน หากเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมมาสมทบที่สะพานผ่านฟ้าฯ เราก็ถือโอกาสยึดพื้นที่คืนเพราะขณะนี้มีกำลังเจ้าหน้าที่กดดันอยู่

ม้วนเสื่อก่อนสงกรานต์แน่

ทั้งนี้ การควบคุมการยึดพื้นที่คืนครั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อถามว่าการยึดพื้นที่คืนทั้ง 2 จุดทำได้เสร็จก่อนสงกรานต์หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า รับรองได้ว่าม้วนเสื่อก่อนสงกรานต์แน่ เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรเมื่อผู้ชุมนุมบุกยึดศาลกลางในต่างจังหวัด พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีการเตรียมการรับมือไว้แล้ว โดยกอ.รมน.ภาคประสานกับกอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งกองกำลังในพื้นที่ดูแลได้

เมื่อถามว่าหากมีการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ กลุ่มผู้ชุมนุมอาจทำลายข้าวของและตัวอาคารในบริเวณดังกล่าว พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงไม่มีใครอยากทำและเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดความเสียหาย เราควบคุมอย่างดีที่สุดแล้วแต่ก็ต้องแลกกัน ดีกว่าปล่อยไว้โดยไม่ทำอะไรเลย

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการตัดสินใจยึดพื้นที่ว่า นายกฯได้ให้แนวไว้แต่แรกว่าการดำเนินการของรัฐบาลแบ่งเป็น 3 ส่วน คือเรื่องการขอคืนพื้นที่ การจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และการควบคุมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่ารัฐบาลมีแนวทางที่ชัดเจนให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงาน ไม่มีการติดอาวุธ มีเพียงอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน แต่จะมีเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่มีอาวุธไว้เพื่อป้องกันชีวิตตัวเองหากจำเป็น ภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉินสามารถมีไว้ได้

ฮ.บินทิ้งบอมบ์เวทีผ่านฟ้า

เวลา 17.00 น. ที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำนปช.นำปืนยิงกระสุนยาง 20 กระบอก ปืนกลยาว 8 กระบอก เครื่องกระสุนและระเบิดที่อ้างว่ายึดมาจากทหารที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้ามาแสดงต่อผู้ชุมนุม ต่อมานายวิสา คัญทัพ ประกาศว่ายอดผู้บาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ 83 คน ส่งไปรักษาตัวที่ร.พ. หัวเฉียว ร.พ.พระราม 9 และร.พ.วชิรพยาบาล

ขณะที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประกาศให้ผู้ชุมนุมที่กำลังจะมาสมทบที่เวทีผ่านฟ้าฯ อย่าเพิ่งเข้ามา ให้แบ่งกำลังไว้โอบล้อมทหารอีกชั้นหนึ่ง พร้อมทั้งเรียกระดมรถกระบะ รถบรรทุกติดเครื่องเสียงเพื่อไปปิดถนนสี่แยกคอกวัว ไม่ให้ทหารและรถถังเข้ามาใกล้พื้นที่ชุมนุม

เวลา 17.50 น. มีการโยนแก๊สน้ำตา 2 จุดจากเฮลิคอปเตอร์มาใส่กลางวงผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมแสบตาและหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้ากันอลหม่าน แกนนำบนเวทีต้องประกาศไม่ให้ผู้ชุมนุมแตกตื่น ควันดังกล่าวไม่มีอันตราย เป็นเพียงการสร้างความวุ่นวายจากทางรัฐบาลเท่านั้น จากนั้น ผู้ชุมนุมได้จุดโคมลอยและปล่อยลูกโป่งจำนวนมาก รวมถึงจุดพลุขึ้นฟ้ารบกวนการบินของเฮลิคอปเตอร์ ต่อมาแกนนำประกาศขอกำลังผู้ชุมนุมไปใช้ถุงดำคลุมกล้องวงจรปิด 10 จุด รอบบริเวณชุมนุม ไม่ให้รัฐบาลเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง

แดงหนุนกำลังแยกคอกวัว

ต่อมาแกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมบางส่วนไปช่วยผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกคอกวัว แยกโรงเรียนสตรีวิทยา แยกมิสกวัน สะพานมัฆวานฯ พร้อมให้แกนนำจังหวัดต่างๆ ออกไปนำขบวนผู้ชุมนุมเพราะไม่มีหัวขบวน ทำให้การตอบโต้ไม่ถูกทิศทาง

เวลา 19.40 น. ผู้ชุมนุมเสื้อแดงจากเวทีผ่านฟ้าฯ มาเสริมกำลังกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกคอกวัว ประมาณ 1,000 คน หลังจากมีการผลักดันอยู่หลายรอบ ทหารใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านไปประมาณ 15 นาที ผู้ชุมนุมสามารถยึดพื้นที่แยกคอกวัวไว้ได้ และผลักดันทหารไปทางถนนตะนาวจนถึงถนนข้าวสาร อย่างไรก็ตามทหารยังพยายามใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ของทหาร ยังคงทิ้งแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมตลอดเวลา

เวลา 19.45 น. เวทีสะพานผ่านฟ้าฯหยุดการปราศรัย เตรียมตั้งรับการสลายการชุมนุมของทหาร ทั้งนี้ ยังคงมีผู้ชุมนุมกว่า 25,000 คนกระจายตั้งแต่หน้าเวทีไปถึงอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตยและสี่แยกคอกวัว ต่อมาเวลา 20.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจากเวทีแยกราชประสงค์จำนวนหนึ่งเดินทางมาสมทบด้วยรถจักรยานยนต์

หลังเวทีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ และน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ยุติการใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม อย่ามองเห็นคนเป็นศัตรู ตอนนี้ทราบว่าการสลายชุมนุมโดยยิงอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าใส่ประชาชนจนเสียชีวิต และอาจเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองได้

ไล่"มาร์ค"ออกนอกประเทศ

ที่เวทีแยกราชประสงค์ เวลา 19.30 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ พร้อมแกนนำ นปช.ทุกคน ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ยกระดับการเรียกร้องไปยังรัฐบาล ระบุว่าสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่วันนี้ผู้ปกครองไม่มีอำนาจปกครอง และผู้ถูกปกครองไม่ยอมรับอำนาจการปกครองนั้น โดยมีเหตุชี้ชัด 3 ข้อ คือ 1.การประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เป็นการประกาศใช้โดยมิชอบตามระบอบรัฐธรรมนูญ เมื่อประกาศไปแล้วไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ถือเป็นการล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลโดยสิ้นเชิง 2.การปิดสื่อสารมวลชนและข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนควรรับรู้ เป็นพฤติกรรมของเผด็จการและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 3.การใช้กำลังอาวุธสงครามทำร้ายประชาชนมือเปล่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯผู้ใช้อำนาจจะเปลี่ยนฐานะจากนายกฯไปเป็นฆาตกร

"ขอประชามติคนเสื้อแดงว่าขอเปลี่ยนข้อเรียกร้องจากการยุบสภาภายใน 15 วัน เป็นการยุบสภาทันที และนายอภิสิทธิ์ต้องเดินออกนอกประเทศโดยทันที" นายวีระ กล่าวและว่า สาเหตุที่เรียกร้องลักษณะนี้เนื่องจากเห็นว่าการอยู่ในประเทศของนายอภิสิทธิ์ จะเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาทางการเมือง ขอเรียกร้องไปยังข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจให้ปรับแนวความคิดยุติการรับใช้รัฐบาลชุดนี้ทันที ส่วนการปกครองหลังจากยุบสภาแล้ว ให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่รู้ตัวว่าเป็นประชาธิปไตย ให้ไปประชุมหารือกันตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.เป็นต้นไป

"ณัฐวุฒิ"เผยชื่อแดงพลีชีพ

เวลา 20.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินทางมาถึงเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ ขึ้นประกาศบนเวทีทันทีว่า ตอนนี้นายสวาท วางาม สละชีวิตให้กับการต่อสู้กับระบอบอำมาตย์ หลังจากปะทะกับทหาร นายอภิสิทธิ์ต้องรับผิดชอบและมีคนชดใช้ชีวิต ขอให้ประชาชนที่อยู่ที่บ้านชวนกันออกมาขับไล่ ทั้งนี้ศพของวีรบุรุษสวาท ไม่ต้องนำไปที่โรงพยาบาลไหน ให้นำมาที่สะพานผ่านฟ้าฯ

ต่อมานายอริสมันต์ ขึ้นเวทีประกาศตามล่าตัวนายอภิสิทธิ์ ระบุไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะตามไปหาให้ได้ รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่น ขอเตือนพรรคร่วมรัฐบาลว่าถ้าไม่อยากเห็นคนตายมากกว่านี้ ให้ถอนตัวออกไป นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องชดใช้

หลังการแถลงข่าว นายณัฐวุฒิ เรียกนายพายัพ ปั้นเกตุ นายนิสิต สินธุไพร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ไปหารือบริเวณเต็นท์หลังเวที ก่อนมอบหมายให้นายสุภรณ์ รับผิดชอบพื้นที่แยกคอวัว เน้นให้ตั้งแนวรักษาพื้นที่เอาไว้

จุดระเบิดถังแก๊ส-เจ็บอื้อ

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน กลุ่มคนเสื้อแดงได้จุดระเบิดถังแก๊สบริเวณแยกคอกวัวขณะประจันหน้ากับทหาร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งนี้จำนวนมาก นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างระเบิดเพลิงเข้าใส่ทหารมีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน นอกจากนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คนยิงอาวุธปืนเข้าใส่ทหาร ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมจับตัวไว้ได้ 1 คน การ์ดนปช.นำตัวมาสอบสวนทราบว่าเป็นแนวร่วมนปช.จากปราณบุรี จ.ประ จวบคีรีขันธ์ ยืนยันว่าไม่ใช่คนยิง แต่มาถ่ายภาพเท่านั้น

เมื่อเวลา 20.00 น. ที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา มีทหารยืนตั้งแถวโดยมีรถตีนตะขาบติดปืนกลจอดประจันหน้ากลุ่มคนเสื้อแดงระหว่างนั้นมีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่ด้านบน แล้วโยนแก๊สน้ำตาลงมายังกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำให้เกิดการยั่วยุกันขึ้น ระหว่างนั้นทหารได้ยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมนำก้อนหินปาใส่ตอบโต้จนเกิดการชุลมุนกันขึ้น กลุ่มการ์ดนปช. จับตัวทหารรายที่ 2 ส่งไปไว้ที่เวทีใหญ่ การปะทะกันครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย

"มาร์ค"เครียดสั่งถอนกำลัง

รายงานข่าวเผยว่า ตลอดเวลาปฏิบัติการสลายม็อบคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ ติดตามสถานการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันมีบางฝ่ายเสนอให้ยุติแผนปฏิบัติการยึดพื้นที่สะพานผ่านฟ้าฯ คืนตั้งแต่เมื่อเวลา 17.00 น. แต่นายกฯ ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นผลสำเร็จ จึงยังไม่มีคำสั่งยกเลิก กระทั่งเกิดการปะทะกันอย่างหนักที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อเวลา 20.00 น. และเกิดเหตุระเบิดที่ทำเนียบรัฐบาล จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นายกฯ จึงได้หารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างเคร่งเครียดอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจถอนกำลังออกจากพื้นที่ โดยมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ประสานกับแกนนำคนเสื้อแดง และมอบหมายให้พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงชี้แจง

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ ร.11 รอ. มีการประชุม ศอฉ. โดยมีนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดฯกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

"ประยุทธ์"ยอมไม่ได้ยิงทหาร

รายงานข่าวแจ้งว่า นายกฯ สั่งให้พล.อ.อนุพงษ์ เพิ่มกำลังทหารที่เตรียมไว้ในพื้นที่ต่างๆ ออกมาเสริมการปฏิบัติงานกับกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.2 รอ.) โดยมีพล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล ร.2รอ. เป็นหัวหน้าชุดออกคลี่คลายสถานการณ์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ พูดในที่ประชุมว่าการแก้ปัญหาในวันนี้ทุกอย่างต้องจบ เพราะตนยอมไม่ได้ที่ลูกน้องได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่

เวลา 20.00 น. ศอฉ.จัดทำบัญชีสรุปจำนวนกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 จากเหตุสลายการชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานและถนนราช ดำเนิน จำนวน 63 นาย กำลังพลส่วนใหญ่เป็นพลทหารมาจากพัน ร.มทบ.11, กองทัพภาคที่ 1, ร.31 รอ., ร.12 พัน 2 รอ. ผู้ได้รับบาดเจ็บแบ่งเป็นโดนสะเก็ดระเบิด ถูกตีด้วยไม้ ถูกของมีคม ถูกกระสุนปืน ถูกก้อนอิฐขว้าง และส่วนหนึ่งสัมผัสกับแก๊สน้ำตา เบื้องต้นถูกนำตัวส่งร.พ.ศิริราชและร.พ.พระมงกุฎเกล้า

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ศอฉ.ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายคน ดังนั้น ตนอยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวได้แล้วเพราะไม่มีประโยชน์ จะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย ส่งผลเสียหายให้กับประเทศชาติ ทั้งนี้ ตนคงยอมไม่ได้ที่กลุ่มเสื้อแดงไม่ยึดกฎหมายบ้านเมือง ยืนยันว่าจะทำให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย ให้บ้านเมืองกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เมื่อถามย้ำว่าการคลี่คลายสถานการณ์บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จะให้จบวันนี้เลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

ศอฉ.ขอหย่าศึกแกนนำแดง

เวลา 21.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงว่า การที่ศอฉ.ใช้แผนปฏิบัติการขอคืนพื้นที่กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณผ่านฟ้าฯ ในช่วงเวลา 13.00 น. การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ศอฉ.ทุกนายที่ประกอบด้วยทหาร ตำรวจ และพลเรือน ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยกฎการใช้กำลัง ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีการต่อต้านตอบโต้การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ศอฉ.ทุกรูปแบบ โดยใช้อาวุธจริงที่ตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดเอ็ม 67 เอ็ม 79 และระเบิดแสวงเครื่อง การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ปฏิบัติงานของศอฉ.บาดเจ็บจำนวนมาก ทางศอฉ.กลับมาหารือกับรัฐบาล มติที่ประชุมเห็นว่าจะมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ เป็นผู้ไปประสานงานกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันและหยุดการกระทำดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารถอยร่นออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมในระดับหนึ่งแล้ว การพูดคุยกันครั้งนี้ทางรัฐบาลต้องการนำบ้านเมืองไปสู่ความสงบสุข หากทั้งสองฝ่ายไม่หยุดการกระทำดังกล่าวจะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง

จากนั้นพ.อ.สรรเสริญ ให้สัมภาษณ์กรณีนายณัฐวุฒิ ระบุว่าจะเจรจากับนายทหารระดับสูงเท่านั้น ว่า นายณัฐวุฒิยินยอมแล้วที่จะให้นายกอร์ปศักดิ์เป็นผู้ประสาน เบื้องต้นให้หยุดปฏิบัติการใน 2 จุด ทั้งที่ผ่านฟ้าฯ และราชประสงค์ ส่วนขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไรต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้ง คงไม่ใช่เรื่องการเสียหน้า เราทำดีที่สุดแล้ว

ประกาศหยุดยิงตอน3ทุ่ม

เวลา 20.45 น. บริเวณฝั่งพระสุเมรุ เหตุการณ์ตึงเครียดขึ้นเมื่อทหารเปิดฉากยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสกัดผู้ชุมนุม จากนั้นไม่นานมีระเบิดเอ็ม 79 ยิงสวนเข้าใส่กลุ่มทหาร จำนวน 2-3 ลูกติดกัน ทำให้กลุ่มทหารแตกฮือและถอยกำลังร่นไปตั้งหลักที่บริเวณสี่แยกถนนดินสอตัดกับถนนพระสุเมรุ ทางผู้บังคับบัญชามีคำสั่งยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญผู้ชุมนุมเป็นระยะ ขณะเดียวกันพบว่ามีทหารถูกสะเก็ดระเบิดสาหัส อย่างน้อย 2 ราย

เวลา 21.00 น. ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เกิดเหตุปะทะกันขึ้นอีกรอบระหว่างผู้ชุมนุมกับทหาร โดยเจ้าหน้าที่ทหารยิงปืนเข้าใส่ผู้ชุมนุมทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย สร้างความโกรธแค้นให้กลุ่มผุ้ชุมนุม

เวลา 21.00 น. นายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ เรียกร้องนายทหารที่รับผิดชอบการปฏิบัติการสลายการชุมนุมยุติการยิงและปฏิบัติการทั้งหมด ภายใน 5 นาที ขอให้พี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมาเข้าใจว่าสถานการณ์กลางคืนที่สับสน จะเป็นอันตรายต่อนักรบมือเปล่าอย่างพวกเรา เมื่อนายทหารติดต่อมา จะส่งแกนนำไปเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ให้กลับมาร่วมชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯและจะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ เวทีปราศรัยจะดำเนินต่อไป ทุกชีวิตที่สูญเสียหรือบาดเจ็บต้องได้รับการทวงความยุติธรรมกลับคืน แต่จะเป็นในเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่คืนนี้

แดงแห่3ศพขึ้นเวทีผ่านฟ้า

เวลา 21.10 น. นายณัฐวุฒิ ประกาศว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ทหารแล้วว่าจะยุติการยิง ดังนั้นขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ตามตรอกซอกซอยถอนกลับมาอยู่ที่เวทีผ่านฟ้า วันนี้จะไม่มีใครตายและจะไม่มีการสูญเสียอะไรอีก

เวลา 21.30 น. กลุ่มนปช.เคลื่อนขบวนศพผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล จำนวน 3 ราย จากโรงพยาบาลหัวเฉียว มาไว้บนเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ โดยประกาศว่าศพที่เสียชีวิตชื่อ นายยุทธนา ทองเจริญภูธร นายอำพล สาติยรัตน์ และนายวสันต์ ภู่ทอง ทั้งนี้ มีคนเสื้อแดงเสียชีวิตแล้ว 4 ศพ ก่อนหน้านี้คือ นายสวาท วางาม

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ประกาศมอบหมายให้นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ดูแลศพผู้เสียชีวิตตามความเหมาะสม ขณะที่ด้านหลังเวที การ์ดนปช.ได้นำกล้องโทรทัศน์ ตรงไมค์เป็นสัญลักษณ์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ มาวางแสดงไว้ โดยระบุว่าเป็นกล้องของช่างภาพนักข่าวรอยเตอร์ที่เสียชีวิต เก็บได้จากตรงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของการ์ดนปช.

นักข่าวรอยเตอร์ถูกยิงที่อก

น.พ.ชาตรี เจริญชีวะกุล ผอ.ร.พ.วชิระ และเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า อาการผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่จะถูกไม้ตีและถูกทุบตี ผู้บาดเจ็บ 1 รายถูกยิงทะลุขา น่าจะมีผู้บาดเจ็บกว่า 100 ราย เพราะมีทยอยเข้ามาเรื่อยๆ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้เตรียมรับมือผู้บาดเจ็บโดยเตรียมรถฉุกเฉิน 150 คัน ทีมแพทย์ 1,000 คน เพื่อรับมือการสลายการชุมนุมคืนนี้ ทั้งนี้ มีการนำส่งผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะเข้ารักษาตัวที่ร.พ.วชิระ 45 ราย เป็นทหาร 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เป็นผู้ชุมนุมถูกยิงเข้าที่ปอดและท้อง หากต้องการทราบว่ามีญาติมารักษาตัวหรือไม่ ติดต่อสอบถามได้ที่ 0-2244-3000

ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลกลาง ว่า จากเหตุการณ์ปะทะและมีการนำส่งผู้บาดเจ็บเข้ามา มีผู้เสียชีวิต 3 คน ทราบชื่อ นายสวาท วางาม อายุ 43 ปี เป็นการ์ดนปช. ชาวเชียงราย ถูกตีที่ศีรษะ นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี ถูกยิงที่หน้าอก และนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ชาวญี่ปุ่นถูกยิงที่หน้าอก พบบัตรประจำตัวระบุเป็นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์

รายงานข่าวจากศูนย์เอราวัณแจ้งยอดผู้บาดเจ็บในเวลา 21.30 น. มีผู้บาดเจ็บ 242 ราย แยกเป็นทหารพลเรือนอย่างละครึ่ง และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นพลเรือน

"จตุพร"ลั่นทวงคืนหนี้เลือด

เวลา 20.45 น. ที่เวทีราชประสงค์ นายวีระ นายจตุพร นำมวลชนยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นร่วมร้องเพลงไว้อาลัย บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ผู้ชุมนุมบางคนถึงกับร้องไห้

นายจตุพร กล่าวว่า มวลชนของเราเสียชีวิตไปแล้ว 3 ศพ บาดเจ็บกว่า 400 คน สัจธรรมแห่งความเป็นจริงตอกย้ำให้เห็นว่าถ้า 1 คนล้มอีกล้านคนจะลุกขึ้นมาสู้ หนี้เลือดจะได้รับการทวงคืน ทำให้เห็นว่นายอภิสิทธิ์ เป็นอมนุษย์ เป็นทรราช ความผิดนี้จะติดตัวไปจนวันตายว่าคุณเป็นนายกฆาตกร

"ขอให้แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี นำมวลชน 1,000 คนมุ่งหน้าไปเสริมกำลังที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯเพื่อรักษาฐานที่มั่นเอาไว้ ขณะเดียวกันต้องรักษาเวทีราชประสงค์เป็นฐานที่มั่นที่สำคัญเอาไว้ด้วย หากยึดที่ราชประสงค์จนผ่านคืนนี้ไปได้เราจะได้รับชัยชนะ" นายจตุพร กล่าว

เวลา 21.30 น. นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีการเจรจาแน่นอน หนี้เลือดต้องล้างด้วยเลือดและต้องตายตกไปตามกัน

จากนั้นได้มีการถ่ายทดสดการเคลื่อนไหวที่เวทีผ่านฟ้า ช่วงที่คนเสื้อแดงนำศพผู้ตายขึ้นมาบนเวที โดยผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ต่างลุกขึ้นยืนไว้อาลัย หลายคนมีสีหน้าเศร้าและร่ำไห้ออกมา

สรุปตาย15-เจ็บเกือบ700

เมื่อเวลา 22.00 น. ศูนย์เอราวัณได้รายงานยอดผู้บาดเจ็บ 521 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ โดยมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกลาง 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายสวาท วางาม อายุ 43 ปี ถูกยิงเสียชีวิต กะโหลกศีรษะเปิด 2.นายธวัฒน์ชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 3.นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ชาวญี่ปุ่น นักข่าวรอยเตอร์ ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 4.นายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 5.นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 35 ปี มีบาดแผลหัวกะโหลกเปิด ส่วนรายที่ 6 เป็นชายยังไม่ทราบชื่อ และที่โรงพยาบาลหัวเฉียวอีก 2 ราย เป็นผู้หญิง 1 ราย ทราบชื่อนางสุชา แต่ไม่ทราบนามสกุล เป็นชาวจังหวัดเชียงราย อีกรายเป็นชายไม่ทราบชื่อ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้นำศพบุคคลทั้งสองออกไปแล้ว

ต่อมาเวลา 23.30 น. ศูนย์เอราวัณสรุปยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทหารเข้าผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน มีผู้บาดเจ็บ 678 ราย มีผู้เสียชีวิต 12 ราย เป็นทหาร 3 รายและพลเรือน 9 ราย

นำส่งโรงพยาบาลวชิระ 158 ราย ร.พ. มิชชั่น 5 ราย ร.พ.พระมงกุฎฯ 170 ราย ร.พ.กลาง 100 ราย ร.พ.รามาฯ 52 ราย ร.พ.หัวเฉียว 50 ราย ร.พ.ศิริราช 44 ราย ร.พ.ตำรวจ 9 ราย ร.พ.จุฬาฯ 6 ราย ร.พ.ตากสิน 50 ราย ร.พ.เลิดสิน 8 ราย ร.พ.เจ้าพระยา 3 ราย ร.พ.ราชวิถี 7 ราย ร.พ. ภูมิพลฯ 25 ราย ร.พ.เจริญกรุงฯ 16 ราย

เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานล่าสุดว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารกับผู้ชุมนุม ล่าสุดทั้งหมด 15 ราย เป็นทหาร 4 นาย พลเรือน 11 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 678 ราย

เผยมีทหารเสียชีวิต4ราย

ก่อนหน้านี้เวลา 22.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 500 คน บุกเข้าไปในโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เรียกร้องให้คณะแพทย์เปิดเผยรายชื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยระบุว่าทางโรงพยาบาลปกปิดและแอบลำเลียงนำศพออกจากโรงพยาบาล สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนเสื้อแดงทำให้เกิดความวุ่นวาย กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 50 คนปิดทางออกด้านหลังโรงพยาบาล อีกส่วนหนึ่งพยายามบุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าประสานขอให้อยู่ในความสงบโดยจะประสานให้คณะแพทย์เปิดเผยรายชื่อ

เวลา 23.30 น. น.พ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.ร.พ.วชิระ แถลงว่าจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทางโรงพยาบาลรักษากลุ่มคนเสื้อแดงและทหาร ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นคนเสื้อแดง 1 คน ชื่อนายคนึง ฉัตรเท อายุ 20 ปี ไม่มีบาดแผล คาดว่าหัวใจวาย อีก 2 ราย เป็นทหารชื่อพลทหารภูริวัฒน์ ประพันธ์ อายุ 25 ปี โดนกระสุนเข้าศีรษะ และพลทหารอนุพงษ์ เมืองรำพึง อายุ 21 ปี โดนกระสุนที่คิ้วซ้าย ส่วนผู้บาดเจ็บมี 152 ราย เจ็บสาหัส 5 ราย อาการส่วนใหญ่ศรีษะแตก กระดูกหัก ถูกของแข็งตามร่างกาย สำหรับทหารที่บาดเจ็บบางส่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์