บชน.เข้ม พร้อมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด พรก.ฉุกเฉิน



โฆษก บช.น เข้ม พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดตามพรก.ฉุกเฉิน และพร้อมเสนอขอออกหมายจับแกนนำเสื้อแดง โดยหากจับได้บนเวทีก็จับทันที...

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. กล่าวว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้โครงสร้าง ศอ.ฉ.หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การปฏิบัติของตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของการประกาศ ยังกองกำลังร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และพลเรือน ผบ.เหตุการณ์ยังเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 วัตถุประสงค์ในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้รับมอบหมายเมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย.เป้าหมายหลัก คือ

1.มุ่งเน้นคืนความปกติสุขให้กับประชาชนในกทม.และปริมณฑลมากที่สุด

2.กำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือนจะมีหน้าที่ในการระงับยับยั้งการเผยแพร่บิดเบือนข้อมูลข่าวสารลักษณะต่างๆที่ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือยุยงส่งเสริมให้กระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น

3.ดำเนินคดีกับแกนนำของผู้ชุมนุมหรือบุคคลอื่นที่กระทำฝ่าฝืนกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม

4.เพื่อให้มาตรการต่างๆในการระงับเหตุเช่นการก่อวินาศกรรมและเหตุอื่นๆนั้นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยยกระดับการปฏิบัติงานให้เข้มมากขึ้น ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และพลเรือน

ส่วนภารกิจของตำรวจหลังจากมีการประชุมหลังออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.เรียกกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนที่มาร่วมปฏิบัติทั้ง 52 กองร้อยในพื้นที่ กทม.และผกก.ทุกสน. เน้นย้ำภารกิจทั้งหมด 7 อย่าง

1.การดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ทั้งสถานที่ตั้งของตำรวจและส่วนราชการอื่นๆซึ่งอาจเป็นเป้าหมายของการก่อวินาศกรรม ด้านภูธรก็เป็นศาลากลาง ศาลและสถานที่ของรัฐบาลต่างๆ รวมทั้งแหล่งสถานูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์และโทรสารกำลังพลที่ไปปฎิบัติหน้าที่ดูแลสถานที่ดังกล่าวเน้นย้ำให้มีอาวุธประจำกายเพื่อป้องกันตัวและเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

2.เน้นในการตั้งด่านตรวจจุดตรวจในพื้นที่สน.ต่างๆโดยเฉพาะพื้นที่เข้าออก กทม. ตรวจสอบพาหนะอาวุธ และบัตรประชาชน

3.เน้นการจับกุมผู้ที่ฝ่าผืนกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.การออกหมายจับให้ดำเนินการโดยทันที

4.ขณะนี้การชุมนุมมีหลายจุดที่ผ่านฟ้าฯราชประสงค์ รวมทั้งเริ่มก่อตัวบางจุดบริเวณสวนลุมพินี หรือจุดอื่นๆ เช่นลานพระบรมรูปฯเน้นให้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบถึงทั้งหมดนั้นเป็นพื้นที่ประกาศห้ามและอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย การดำเนินคดีถ้าไม่ได้ในปัจจุบันก็ภายหน้าต้องดำเนินคดีต่อไป

5.ติดตามการชุมนุมการขึ้นปราศรัยของผู้ปราศรัยทั้งหมดบนเวทีที่ละเมิดกฎหมายต้องจับกุมหรือออกหมายจับรวมทั้งให้รีบเร่งรัดจับกุมโดยทันที 

6.แก้ไขปัญหาการจราจรเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

7.ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุแทรกซ้อนไม่ว่ากรณีใด

โดยขอย้ำประชาชนทั่วไป กลุ่มผู้ชุมนุม และฝ่ายกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและพลเรือน ว่า รัฐต้องใช้กฎหมายเพื่อให้กทม. และปริมณฑลบ้านเมืองกลับคืนสู่ความเป็นปกติสุข เน้นหลีกเลี่ยงให้เกิดความสูญเสียต่างๆ ขณะนี้ประชาสัมพันธ์ทราบว่าฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดเจนจะมีการออกหมายจับและจับกุม ซึ่งอาจจะมีข้ออื่นตามมาอีก เช่นห้ามบุคคลเข้าออกพื้นที่ นอกจากนี้การตั้งจุดตรวจร่วมทหาร ตำรวจ และพลเรือนผู้ควบคุมจุดต้องมีอาวุธดูแลตัวเอง

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา กองร้อยควบคุมฝูงชน จ.มหาสารคามไม่มีอาวุธแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ก็ถูกทำร้ายเป็นครั้งที่ 2 หนแรกเกิดขึ้นที่พรรคประชาธิปัตย์ ก็แจ้งให้ระมัดระวังตัวโดยจะให้ชุดเคลื่อนเร็วของสน.ต่างๆที่พกพาอาวุธได้มาร่วมกับเจ้าหน้าที่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่าขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องออกมาร่วมการชุมนุมถ้าอยู่ในข่ายต้องผิดกฎหมายทางศอ.ฉ. แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งกลุ่มชุมนุมทุกคนว่าได้การจัดเตรียมรถบริการผู้ชุมนุมที่ขอกลับภูมิลำเนาทุกจุดพื้นที่ไว้แล้วถ้าท่านใดอยากจะกลับเตรียมรถไว้ให้สำหรับการเดินทาง และมีตำรวจดูแลความปลอดภัยส่งจนกลับถึงบ้าน

นอกจากนี้ยังมีการประชุมพนักงานสอบสวนทั้ง บช.น.และ บช.ก. แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงเรื่องขอออกหมายจับ ดำเนินการจับกุมวิธีการจับกุม เตรียมสถานที่ควบคุมโดยประสานงานหน่วยเกี่ยวข้อง ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายจราจร ก็แยกออกเป็นอีกส่วนหนึ่ง โดยมีรองผบช.น.ที่รับผิดชอบแต่ละงานดูแล ส่วนหากมีการออกหมายจับแกนนำแล้ว เข้าจับกุมเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่ามีหลายวิธีถ้าบนเวทีจับกุมได้ก็จับถ้าจับกุมไม่ได้เกรงเกิดเหตุวุ่นวายก็ใช้วีธีการอื่น เช่น เชิญตัวมาหรือรู้แล้วมามอบตัว หรือย้ายไปจุดอื่น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์