โคทมหนุนเจรจาลับ มีสักขีพยาน 3-9เดือนน่าจะรับได้


โคทม อารียา เสนอให้มีสักขีพยาน เป็นตัวกลางรับฟังการเจรจาลับระหว่าง นายกรัฐมนตรี และแกนนำกลุ่มเสื้อแดง เตือน เลิกคุ้ยแคะแผลเก่า ทำบาดหมางไม่เลิก
 

ชี้ เงื่อนระยะเวลา 3 - 9 เดือน แก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะพอรับได้ แต่ค้านทำประชามติ ...

นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ ยอมรับรู้สึกเสียดายโอกาส ในการที่ทั้งสองฝ่ายเปิดการเจรจาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพราะทั้งสองฝ่ายยังใช้เวลาในการเน้นอรรถาธิบายเรื่องคุ้ยแคะแผลเดิม ๆ และพาดพิงกันไปมา แต่ก็ต้องชมเชย ทั้งนายกรัฐมนตรี และ นายวีระ มุสิกพงศ์ ที่มีความยืดหยุ่นเปิดกว้าง ที่พยายามจะเน้นเรื่องของเหตุผล และเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

ทั้งนี้ การที่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้เรื่องเงื่อนระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ หรือ ควรจะยุบสภาก่อนหรือหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั้น ตนเองจึงอยากเสนอให้ใช้วิธี เลือกคนกลางเป็นพยานในการเจรจาในทางลับระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยคนกลางในที่นี้ จะทำหน้าที่เพียงแต่เป็นรับฟังการเจรจา และทำหน้าที่เป็นสักขีพยาน เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายเปิดการแถลงข่าว หลังมีการเจรจาเสร็จสิ้นในแต่ละนัดเท่านั้น เพื่อขจัดความหวาดระแวงว่า ต่างฝ่ายต่างจะไม่พูดความจริงบนโต๊ะเจรจา

ส่วนเรื่องเงื่อนระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ นั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า เงื่อนระยะเวลา 3 เดือน - 9 เดือน น่าจะพอยอมรับได้ ส่วนเรื่องควรทำหรือไม่ทำประชามติ นั้น ส่วนตัวเห็นว่าการทำประชามติ น่าจะเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเหตุว่าประชามติไม่มีผลผูกพันธ์ อีกทั้งการในความเห็นของแต่ละบุคคลนั้น หากยืนในความคิดของตนเอง จะอย่างไรก็ไม่รับความเห็นอีกฝ่ายอยู่ดี อีกทั้งการจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของนายกรัฐมนตรี   ที่จะออกมาระบุชัดเจน ถึงเรื่องนี้ได้

ส่วนเรื่องควรยุบสภาก่อนหรือหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนเองอยากทบทวนความหลังอย่างหนึ่งว่า เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดปัญหาวิกฤตทางการเมือง จากกรณีการขายหุ้นชินคอร์ป ให้เทมาเส็ก นั้น เมื่อมีการประกาศยุบสภา เพื่อหวังใช้การเลือกตั้งคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง โดยไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาใด ๆ นั้น ก็เห็นผลชัดเจนว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้ ซึ่งน่าจะเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งว่า เมื่อยุบสภาในขณะที่อารมณ์ของคนยังขุ่นข้องหมองใจอยู่  ก็จะไม่ได้ผลอะไรขึ้นมา

ทั้งนี้ ในส่วนของปัญหาที่ นปช.อยากให้มีการปฏิรูปสังคมการเมืองในระยะยาว เพื่อแก้ไปปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ตนเองเห็นว่าในทางสายกลาง ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในทันทีก็ได้ แต่อาจจะออกมาในรูปการเริ่มต้นตั้งคณะกรรมการ สักชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ที่หวังผลในระยะยาว  ซึ่งตนเองเชื่อว่าจะช่วยเกิดบรรยากาศหันเห หรือ ปรับอารมณ์ความขัดแย้งของคนในสังคม ได้ส่วนหนึ่ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์