แดงเคลื่อนพล58กม. บึ้มปปช.-มท.2ตูม-กลางดึก ม็อบไปทั่วกรุง เดินสายโชว์พลัง จิ๋วโผล่ขึ้นเวที!

เขย่ากรุง - บรรยากาศกองทัพคนเสื้อแดงเรือนแสนเคลื่อนขบวนไปรอบกรุง
โดยระยะทางจากหัวขบวนไปจนถึงท้ายขบวน มีความยาว 58 กิโลเมตร
รถจยย.นับหมื่นคัน และรถกระบะอีกราว 7 พันคัน ระหว่างทาง
ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.

นปช.เคลื่อนไหวใหญ่เคลื่อนพลทั่วกรุงเทพฯ จากผ่านฟ้าฯ เข้า เพชรบุรี สีลม สาทร เยาวราช และวนกลับมาที่เวที ตั้งขบวนยาวเหยียด รถติดวินาศหลายจุด มีจยย.กว่าหมื่นคันนำขบวน และมีม็อบจากจุดต่างๆ ทยอยมาสมทบตลอดเส้นทาง "จตุพร"นำหัวขบวนไปด้วยตัวเอง เจอทั้งคนเชียร์และคนด่าที่ทำรถติด ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ระยะทางกว่า 58 ก.ม. เผยเลี่ยงผ่านร.พ.ศิริราช หวั่นมือที่ 3 สวมรอยป่วน "เสธ.แดง"ดักให้กำลังใจชม เปาะแผนเด็ดกว่า"ขงเบ้ง" ขณะที่ "วีระ"พอใจคนกรุงยอมรับการต่อสู้ ด้าน"บิ๊กจิ๋ว"ขึ้นเวทีให้กำลังใจ "อริสมันต์"ยังแรงขู่บุกเทเลือดในทำเนียบฯ ไม่หวั่นตร.ยื่นถอนประกันคดีพัทยา "มาร์ค"สู้ผ่านสื่อเดินสายให้สัมภาษณ์ตลอดวัน อ้างอยากเจรจาแต่"ทักษิณ"ไม่เอาด้วย ไม่มั่นใจหากยุบสภาทุกอย่างจะจบจริงหรือไม่ พูดเป็นนัยหากเลือกตั้งใหม่แล้วพรรคที่ชนะโดนยุบอีกจะเป็นอย่างไร ช่วงเย็นแกนนำ-ส.ส.เพื่อไทย ขึ้นเวทีนปช.ชำแหละรัฐบาลเน้นเรื่องทุจริต และ 2 มาตรฐาน "แม้ว"วิดีโอลิงก์มาร่วมชื่นชมคนเสื้อแดง

มาร์คเดินสายให้สัมภาษณ์


ความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมของม็อบเสื้อแดง หรือนปช. เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งพักค้างคืนอยู่ที่บ้านพักรับรองในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ศอ.รส.) เป็นคืนที่ 8 เมื่อเวลา 08.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังกองบัญชาการ ศอ.รส.เพื่อพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเมินสถานการณ์การเคลื่อน ไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ตระเวนไปตามเส้นทางการจราจรตามโครงการ "นปช.พบประชา ชน" ทั้งนี้ เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ บันทึกเทปให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์"ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกร เพื่อออกอากาศทางช่อง 3 ในช่วงเวลา 11.00 น. และวันเดียวกันนี้ นายกฯ มีคิวให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ไทยอีก 2 ช่อง ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (ทีวีไทย)

พอใจนปช.ไม่วุ่นวาย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ"เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์"ว่า การชุมนุมทุกครั้งมีความห่วงใย แม้ว่าแต่ละฝ่ายจะมีเจตนาที่ดีในการแสดงออก และทำหน้าที่ ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่สะดวกบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่มีเรื่องวุ่นวาย เนื่องจากทุกคนรู้ว่าถ้ามีเรื่องวุ่นวายก็จะสูญเสียกันหมด ในส่วนของอุบัติเหตุก็มีความกังวลเช่นกัน แต่ทุกคนก็มีความพร้อม เจ้าหน้าที่มีการซักซ้อม รวมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เอาจริงเอาจังอย่างเต็มที่ โดยภาพรวมต้องถือว่าสถานการณ์อยู่ในภาวะที่ทุกคนมั่นใจว่า อยู่ในความเป็นปกติของความปลอดภัยโดยทั่วไป

เมื่อถามว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ไปอีกนานขนาดไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมแต่ว่าในช่วง 7-8 วันที่ผ่านมา ถือว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำและสื่อสารให้เห็นคือเราต้องการที่จะให้การใช้สิทธิตามรัฐธรรม นูญสามารถทำได้ รัฐบาลไม่มีความประสงค์ที่จะไปทำให้เกิดความตึงเครียด เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นคู่กรณีที่จะไปทะเลาะวิวาทกับใคร อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เรามีความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันบริหาร เช่นวันนี้ก็จะต้องมีการเอาพื้นที่คืนส่วนหนึ่ง ซึ่งตกลงกับผู้ชุมนุมแล้วเพื่อที่จะให้งานกาชาดจัดได้ เราก็จะหารือตามสภาพความเป็นจริงว่าจำนวนคนเป็นอย่างไร ขอให้เขาไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งกระทบกับการจราจรน้อยกว่านี้ได้หรือไม่ ขณะเดียวกันการทำงานของรัฐบาลก็จะต้องเดินหน้าต่อไป

ยังฉุนขู่ล้อมบ้านผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่าถ้าผู้ชุมนุมยังชุมนุมต่อไปและประกาศว่านายกรัฐมนตรีอยู่ที่ไหนก็จะตามไป นายกฯ ยังต้องอยู่ที่ ร.11 รอ.ต่อไปหรือไม่ อีก ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรคงต้องใช้ต่อไปแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องเฝ้าระวัง ตนมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุมหรือประชาชนทั่วไป ส่วนการทำงานก็จะพยายามกลับเข้าไปสู่ภาวะที่เป็นปกติมากขึ้น เพราะเราต้องเดินหน้าต่อ แต่หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเราพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ซึ่งตนและรัฐบาลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมต้องยอมรับว่าสิทธิในการที่จะไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือที่อยู่อาศัยนั้นทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นเราจะสื่อสารให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า การชุมนุมในลักษณะเช่นนั้นเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยนี้ไม่ใช่รัฐบาลคิดเอง แต่ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยไว้ เพราะฉะนั้นเราก็จะยึดถือตามนั้นและจะค่อยๆ ทำให้เกิดความเข้าใจ

เมื่อถามว่า กฎหมายความมั่นคงจะต่ออายุหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้ประกาศใช้จนถึงวันอังคารที่ 23 มี.ค. ต้องดูแนวโน้มการชุมนุมต่อไปก่อน

มั่นใจทำงานได้เหมือนเดิม

"ผมคิดว่าสังคมก็ต้องการที่จะเห็นบ้านเมืองเดินหน้า คงไม่ใช่ติดหล่มอยู่อย่างนี้ สัปดาห์ที่แล้วผมก็เดินหน้าทำงานไปดูเรื่องภัยแล้ง งานเอกสารการประชุมต่างๆ ก็ติดตามและทำได้ตามเป้าหมาย แต่คิดว่าสังคมคงอยากเห็นการหวนกลับคืนสู่ความเป็นปกติในการทำงานของหน่วยราชการ ซึ่งคงจะทำมากขึ้นโดยลำดับ เพราะไม่ต้องการไปเพิ่มความตึงเครียด แต่มีทิศทางที่ชัดเจนว่าเราจะต้องทำ และตราบใดที่ยังมีการชุมนุมอยู่อย่างนี้ ผมก็ยืนยันว่าทำงานต่อไปได้"นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า ความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ต้องติดตามดูต่อไป ขณะเดียวกันงานก็ต้องเดิน เราจะมายึดถือเอาเรื่องของที่ตั้งทางกายภาพมาเป็นตัวหลักไม่ได้ และตั้งใจว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) การประชุมสภา ก็จะต้องดำเนินการได้ต่อไป

เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมต้องการสร้างภาพให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารงานไม่ได้ ในขณะที่รัฐบาลก็พยายามแสดงให้เห็นว่าบริหารได้อย่างแน่นอน จะดึงกันไปดึงกันมาอยู่อย่างนี้หรือเปล่านายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องบริหารได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชน เพราะรัฐบาลไม่ได้บริหารประเทศเพื่อตัวเอง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องยืนยันสิทธิอันนี้ของประชาชนทั้งประเทศ ว่าเขาจะต้องมีรัฐบาลซึ่งทำงานให้กับเขา ดูแล ปัญหาต่างๆ

ไม่รู้ต้องคุยแกนนำหรือแม้ว

เมื่อถามว่าฝ่ายผู้ชุมนุมบอกจะชุมนุมยืดเยื้อ ฝ่ายรัฐบาลก็บอกว่าจะพยายามให้กลับมาสู่ภาวะปกติ การคุยกันจะทำในลักษณะใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะตนไม่ได้เป็นฝ่ายที่ปฏิเสธการพูดคุย และความจริงเรื่องการเจรจาระหว่างกันก็เริ่มมาจากแกนนำผู้ชุมนุม แต่พอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อาสาเป็นตัวเชื่อม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ประกาศทันทีว่าไม่ยอมรับ จึงมีคำถามว่าตกลงการตัดสินใจเป็นเรื่องของแกนนำหรือพ.ต.ท.ทักษิณ

"ผมมีหน้าที่พูดคุยและเจรจาเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหากับส่วนรวม ผมเข้าใจดีว่าประชาชนที่มาเรียกร้องอยากเห็นการยุบสภา ผมก็บอกว่าให้มาคุยกันว่าการยุบสภาเพื่อให้ประชาธิปไตยเบ่งบานจะต้องเป็นการลือกตั้งในลักษณะไหนอย่างไร เช่นต้องไม่มีการก่อกวน ไม่มีความรุนแรง ทุกฝ่ายยอมรับในกติกา เรื่องเหล่านี้มาคุยกันได้ แต่ถ้าจะให้มาคุยกันเรื่องไม่ยอมรับในคำพิพากษาศาล ผมก็คงคุยไม่ได้ ผมไม่มีสิทธิ์ไปคุยเพราะไม่ใช่เรื่องระหว่างผมกับคุณทักษิณ แต่เป็นเรื่องของคุณทักษิณกับแผ่นดิน แผ่นดินเสียหายจากการกระทำของคุณทักษิณ ผมไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปบอกว่ายกประโยชน์อันนี้กลับคืนให้คุณทักษิณ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

อ้างยุบสภาส.ส.ไม่เห็นด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า การยุบสภาต้องไม่นำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น แม้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่อยู่ฝ่ายค้านด้วยกันก็ไม่เห็นด้วยต่อการยุบสภา ส.ส.เพื่อไทยบางคนก็ไม่เห็นด้วย ไม่นับคนที่สนับสนุนรัฐบาล และประชาชนที่อยู่ตรงกลางที่ต่างก็เห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะยุบสภา ดังนั้นการเจรจาพูดคุยก็จะเป็นเรื่องที่ตนและผู้ชุมนุมจะตกลงกันโดยเอาความสะดวกของตัวเองไม่ได้ ต้องเอาประโยชน์และความต้องการของคนส่วนใหญ่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงปีหน้าซึ่งก็เป็นคำตอบว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลที่จะมาอยู่ตลอดไป แม้ไม่เกิดอะไรขึ้นก็ต้องไปเลือกตั้งอยู่แล้ว ดังนั้นก็เป็นโอกาสดีที่จะมีการพูดคุยกันก่อนว่าความแตกต่างทางการเมืองจะมีกระบวนการอะไรที่จะนำไปสู่ความเป็นปกติของการต่อสู้ทางประชาธิปไตย เช่น การชุมนุมก็สามารถทำได้แต่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ หรือการพัฒนาประชาธิปไตย การพาบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า

ยันไม่มีชนชั้นไพร่-อำมาตย์

"ผมยอมรับว่ามีความกังวลมากในเรื่องของอำมาตย์และไพร่ ที่กังวลเพราะเป็นการไปสร้างความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นระหว่างประชาชน ไปอ้างเรื่องชนชั้นซึ่งความจริงมันไม่มี เพราะรัฐธรรมนูญต้องการรับรองสิทธิของทุกคน และมีมาตราต่างๆ ระบุชัดเจนถึงความเสมอภาค แน่นอนความเหลื่อมล้ำบางอย่างมีแน่นอน เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ดูง่ายๆ ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับกลุ่มผู้ชุมนุม มีความแตกต่างกันอย่างมหาศาล แต่มีประโยชน์อะไรที่จะไปยุยงให้คนเกลียดชังกัน ถ้าจะไปยุยงให้คนที่ไม่มีเกลียดชังคนที่มีมากกว่า ก็ต้องไปยุยงให้ผู้ชุมนุมเกลียดคุณทักษิณ ไม่มีใครควรไปอิจฉาคุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณรวยและได้มาโดยชอบ"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องเท่าเทียมกันคือเรื่องของความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย มีคำถามว่ามีกี่คนที่เป็นอย่างคุณทักษิณ ที่ถูกคำพิพากษาตัดสินจำคุกแล้วไม่ต้องติดคุก และยังสามารถไปใช้ชีวิตที่ค่อนข้างสบายในต่างประเทศ ซึ่งถ้าจะไม่ให้มีเรื่องชนชั้นทุกคนต้องเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย ส่วนความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจต้องแก้ด้วยการสร้างโอกาส การหยิบยกเรื่องชนชั้นมานั้นก็เพื่อต้องการตรึงคนให้เข้ามาชุมนุมไปในเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการชุมนุมหรืออาจเป็นเป้าหมายแฝง ทุกอย่างไม่ตรงไปตรงมา

ยังติดใจคลิปเสียงตัดต่อ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากถามว่าถ้ายุบสภาในวันพรุ่งนี้ความเหลื่อมล้ำหมดไปหรือไม่ และไม่ใช่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาแล้วจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ อย่างเมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.ก็บอกว่ายอมทนรถติดถ้ากลับมาแล้วจะแก้ให้ได้ ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศว่า 6 เดือนจะแก้ปัญหาจราจรก็ทำไม่ได้ รอบสองกลับมาสัญญาเรื่องรถไฟฟ้าก็ไม่ได้ก่อสร้างแม้แต่เมตรเดียว การเอาปัญหาที่เป็นเรื่องของโครงสร้างความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ซึ่งทุกคนพยายามแก้ไขมายุยงให้คนขัดแย้งกันถือว่าผิด

การที่ไปเอาคลิปเสียงที่มีการตัดต่อซึ่งก็เป็นฝีมือของคนในกลุ่มนี้มาสร้างความเกลียดชัง ทั้งๆที่ศาลได้รับฟ้องไปแล้ว เพียงเพื่อต้องการ สร้างเงื่อนไขให้คนเกลียดชังมาชุมนุม ถือเป็นการสร้างความแตกแยก การวิพากษ์วิจารณ์ตนด้วยถ้อยคำหยาบคายว่าบริหารไม่ดี มีโครงการที่ไม่โปร่งใสสามารถทำได้ แต่การยุยงให้คนเกลียดชังโดยเอาความเท็จและสิ่งที่ไม่ได้เป็นเงื่อนไขการพูดคุย ถือว่าเป็นการทำลายความสามัคคี ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย เพราะเกรงว่าจะเกิดการลุกลามของปัญหาได้

ฟุ้งไม่เคยปฏิเสธไม่ยุบสภา

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดระยะเวลาว่าอีกกี่เดือนจะยุบสภาและนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะบอกมาตั้งแต่ต้นและอาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่ยุบสภา เพียงแต่บอกว่าอะไรที่ดีสำหรับประเทศยินดีทำ แต่มาถึงวันนี้พอพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณว่าไม่ยอมรับการพูดคุย ทางผู้ชุมนุมก็มาบอกว่าให้ยุบสภาก่อนแล้วค่อยคุย ตนก็บอกว่าถ้ายุบสภาแล้วก็ไม่ต้องคุย เพราะไม่มีเวลาคุยแล้วเนื่องจากต้องไปหาเสียง แต่ถ้ามีความตั้งใจว่าจะหาทางออกร่วมกันรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น ไม่ยึดติดกับรูปแบบ แต่ระหว่างการพูดคุยการชุมนุมต้องเป็นไปตามกติกาของรัฐธรรมนูญ คือไม่มีการปิดล้อมสถานที่ราชการและเอกชนต่างๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นการข่มขู่ให้ยุบสภา

"ถ้าฝั่งหนึ่งบอกกำหนดเวลาชัดเจนที่จะยุบสภา อีกฝั่งหนึ่งหยุดความเคลื่อนไหวที่เป็นลักษณะการข่มขู่คุกคาม ก็มาคุยกันว่าจะกำหนดเป็นเวลาหรือกำหนดเป็นเงื่อนไข เช่น เรื่องของรัฐธรรมนูญก็มาคุยกัน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องรัฐธรรมนูญ บางประเด็นแก้ไขได้ บางประเด็นเราไม่เห็นด้วย แต่ที่เราเคยถอยมาแล้วคือแม้ประเด็นที่เราไม่เห็นด้วยแต่ถ้าประชาชนต้องการเราก็พร้อมทำตาม เราไม่เคยมีจุดยืนที่ตายตัว แต่อย่าลืมว่าการทำตามสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องแล้วเรื่องจะจบ จะรู้ได้อย่างไรว่าคนกลุ่มอื่นอาจมาชุมนุมต่อต้านข้อตกลงระหว่างสองกลุ่มก็ได้ จึงต้องหาทางออกซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย" นายกฯ กล่าว

ย้ำแม้วอุปสรรคการเจรจา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของการแก้รัฐธรรามนูญกับการแก้ปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้มีประเด็นที่พันกัน ในพรรคร่วมรัฐบาลก็มีจุดยืนว่าควรแก้รัฐธรรมนูญก่อนเลือกตั้งเพราะเขาต้องการเปลี่ยนกติกา ส่วนข้ออ้างของผู้ชุมนุมถึงความไม่ชอบธรรมที่มาของรัฐบาลก็ไปเกี่ยวข้องกับกติกา ข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้มาโดยมิชอบ ซึ่งความจริงรัฐบาลชุดนี้มาจากกติกาเดียวกับรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เพียงแต่พรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 ทุจริตการเลือกตั้งแล้วถูกยุบพรรคเขาไม่ยอมรับ ถามว่าถ้าใช้กติกาเดิมแล้วไปเลือกตั้งเกิดคนชนะทุจริตการเลือกตั้งถูกยุบพรรคอีกจะมาประท้วงกันอีกหรือไม่ จึงเป็นประเด็นที่ต้องมาคุยกัน

"คำถามวันนี้คือมีอะไรที่ทำให้คนเสื้อแดงหรือแกนนำไม่มาคุย ผมก็ตอบเท่าที่จับสัญญาณได้คือคุณทักษิณ คุณทักษิณเป็นอุปสรรคต่อการที่จะมาพูดคุยกันในขณะนี้ แล้วตกลงแกนนำคนเสื้อแดงจะเอาประเด็นของประชาธิปไตยเป็นตัวตั้ง หรือจะเอาคุณทักษิณเป็นตัวตั้ง ถ้าเอาประชาธิปไตยเป็นตัวตั้งมาคุยกัน ถ้าเอาคุณทักษิณเป็นตัวตั้งนั่นหมายความว่าสิ่งที่เรียกร้องไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ผมจะคุยก็ต่อเมื่อยกเรื่องคุณทักษิณออกไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าวในตอนท้าย

ตร.ประสานเคลียร์เส้นทาง

ส่วนความเคลื่อนไหวของม็อบเสื้อแดง ที่ประกาศเคลื่อนพลทั่วกรุง ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เดินทางเข้าหารือกับนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช. ที่หลังเวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถึงเส้นทางการเคลื่อนขบวนรถไปทั่วกทม. ใช้เวลาพูดคุย 20 นาที

นายวีระ กล่าวหลังการหารือว่า การเคลื่อนขบวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมคอยดูแลรักษาความสงบ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดเส้นทาง ส่วนที่จะเคลื่อนขบวนไปฝั่งธนบุรีแต่เดิมไม่มีอยู่ในแผนการเคลื่อนขบวน แต่ส.ส.และส.ก. ในพื้นที่เรียกร้องมา จะกำหนดเส้นทางกันอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่านปช.จะไม่เคลื่อนขบวนผ่านไปโรงพยาบาลศิริราช และถนนจรัญสนิทวงศ์ อย่างแน่นอน เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มคนไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ และป้ายสีให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง สำหรับเรื่องพื้นที่จะจัดงานกาชาดจะให้พี่น้องที่ปักหลักชุมนุมที่แยกสวนมิสกวัน และลานพระบรมรูปทรงม้า ให้เคลื่อนย้ายมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณหน้ากองสลาก ส่วนรถให้ไปจอดที่สนามหลวง

ด้านพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ทางแกนนำนปช.ยืนยันว่าจะไม่ผ่านสะพานพระปิ่นเกล้า ส่วนเส้นทางที่นปช.จะเคลื่อนไป ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดล่วงหน้าเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว

เปิดเส้นทางเดินรถนปช.

ตำรวจแจ้งเส้นทางของการเดินขบวนกลุ่มนปช. จากผ่านฟ้า-เพชรบุรีตัดใหม่-แยกอโศกเพชร-รัชดาขาออก-ลาดพร้าว-บางกะปิ-ลำสาลี-รามคำแหง-สุขุมวิท 71 พระโขนง-พระราม 4 จากนั้นจะเปลี่ยนเส้นทางใหม่เป็น เข้าพระราม 3-สะพานกรุงเทพ-ฝั่งธนฯ ถนนมไหศวรรย์-สมเด็จพระเจ้าตากสิน-วงเวียนใหญ่-ข้ามกลับ กทม.ด้วยสะพานสาทร-ถนนสาทร-สีลม-ศาลาแดง-พระราม 4-หัวลำโพง-ยมราช-วรจักร-หลานหลวง-กลับผ่านฟ้า โดยจะให้เสร็จก่อนค่ำวันเดียวกัน สำหรับระยะทางตลอดเส้นทางที่กลุ่มนปช.จะเคลื่อนขบวนผ่านรวมแล้วจำนวน 58.17 ก.ม.

ทหารก็เตรียมรับมือเช่นกัน

ด้านพล.ต.อุดมเดช สีตบุตร รอง มทภ.1 รอง ผอ.รมน.ภาค 1 รอง ผบ.กกส.รส. มีหนังสือถึง ศปก.ทร. ศปก.ทอ. บช.น. นสศ. นปอ. สพ.ทบ. สส. ตร. ฯ สั่งการในที่ประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวัน เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ให้ 1.ทุกหน่วยที่จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเพิ่มความระมัดระวังการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ในลักษณะต่างๆ จากผู้ไม่หวังดี และให้เตรียมกล้องถ่ายรูปบันทึกเหตุการณ์ พร้อมทั้งจดทะเบียนรถที่มีลักษณะน่าสงสัยไว้ก่อนหากเกิดเหตุการณ์จะได้ตรวจสอบได้ 2.การรปภ.ร.พ. ศิริราชจะต้องเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและให้เตรียมมวลชนในพื้นที่ไว้เป็นกลุ่มก้อน เพื่อช่วยในการปฏิบัติภารกิจ โดยให้ กกร.ทภ.1 ฝกร.ศปก.ทภ.1 เป็นหน่วยรับผิดชอบอำนวยการ 3.ผบ.หน่วยทุกระดับกำกับดูแลการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับให้มีประสิทธิภาพโดยพิจารณาหมุนเวียนกำลังพล เพื่อลดความตึงเครียดในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งดูแลเรื่องสิทธิและขวัญกำลังใจอย่าให้บกพร่อง

เสื้อแดงหลายจุดรวมพล

เวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณวงเวียนบางเขน ถ.พหลโยธิน กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ใช้ชื่อนปช.บางเขน นปช.สายไหม นปช.พหลฯ 43 รวมตัวกันตั้งขบวนรถเพื่อสมทบกับขบวนเสื้อแดงหลักจากผ่านฟ้า โดยจัดรูปขบวนนำหน้าด้วยรถจักรยานยนต์ ตามด้วยรถหกล้อติดตั้งเครื่องกระจายเสียง รถกระบะ รถยนต์ส่วนบุคคล มีสมาชิกคนเสื้อแดงเต็มคันรถและเมื่อเคลื่อนขบวนผ่านกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ราบ 11) ได้หยุดเคลื่อนขบวนและตะโกนโห่ไล่นายอภิสิทธิ์ ก่อนเคลื่อนต่อไปเพื่อสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถนนรัชดาฯ

จิ๋วมาเอง- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย
ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีชุมนุมคนเสื้อแดง สะพานผ่านฟ้าฯ
เรียกร้องให้"รัฐบาลอภิสิทธิ์" คืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อเย็นวันที่ 20 มี.ค.

บช.น.วิเคราะห์ชุมนุมยืดเยื้อ

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. แถลงความเคลื่อนไหวการชุมนุม นปช. ว่า ศปก.น.ประสานกับทาง ศปก.ตร. และ ศอ.รส. ตลอดเวลามีการประชุมเก็บข้อมูลตลอดตั้งแต่เมื่อคืนพบว่าผู้ชุมนุมมีการทยอยกลับบางส่วน ขณะเดียวกันก็มีการเติมเข้ามาบางส่วน เมื่อตรวจสอบบริเวณจุดต่างๆ เข้าสู่พื้นที่ของการชุมนุม พบว่ามีการส่งเสบียงอาหารและของใช้บางอย่างเข้ามา แสดงว่านอกจากจะเติมคนเข้ามาแล้วยังเติมเสบียงอาหาร วิเคราะห์ได้ว่าน่าจะมีแนวโน้มการชุมนุมน่าจะยืดเยื้อพอสมควร

สำหรับการเคลื่อนขบวนในเช้าวันนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. มียอดผู้ชุมนุมสูงสุด 25,000 คน ก่อนเคลื่อนขบวนจะมีชุดล่วงหน้าเป็นรถจักรยานยนต์จำนวน 50 คัน เคลื่อนตัวไปตามถนนเพชรบุรี โดยระหว่างทางมีรถจักรยานยนต์เติมเข้ามาเป็นระยะๆ มีมากกว่า 1,000 คัน รถยนต์ประมาณ 1,500 คัน มีรถควบคุมเป็นรถติดเครื่องเสียงคอยรับกันเป็นระยะ มีนายจตุพร พรหมพันธุ์และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นำขบวนไป ส่วนคันที่ 2 นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และคันต่อๆ ไปเป็นแกนนำคนอื่นๆ ดูแล จะมีการวางยุทธวิธีเป็นระยะ ถ้าพื้นที่ใดมีมวลชนสนับสนุนจะหยุดขบวนเพื่อปราศรัยสั้นๆ 2-3 นาทีเพื่อเชิญคนเข้าร่วม

ส่งตร.ประกบขบวนรถ

ผบช.น.สั่งชุดเคลื่อนที่เร็วของแต่ละบก.ชุดละ 30 นายกระจายไปควบคุมดูแล เช่นที่หน้า สถานีโทรทัศน์เนชั่น และ สถานทูตกัมพูชา ในการดูแลความสะดวกการจราจร พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. สั่งการให้ขบวนรถตำรวจจราจรนำล่วงหน้าไปด้วย พร้อมประกบชุดรถจักรยานยนต์ล่วงหน้าของผู้ชุมนุม ถ้าถึงทางร่วมทางแยกก็จะตัดขบวนให้รถสัญจรผ่านได้สลับกัน โดยตำรวจจราจรเป็นคนควบคุมสัญญาณไฟ ตำรวจเราหนักใจเรื่องจราจรติดขัด เราพยายามควบคุมเรื่องกระทบกระทั่ง เราพยายามควบคุมให้เป็นไปตามเส้นทางที่มีการประชาสัมพันธ์มา ถ้ามีนอกเส้นทางจะไม่ให้ไป ไม่ให้มีการแตกขบวน

รถใต้ดินเสริมรปภ.เข้ม

วันเดียวกันบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน แจ้งว่า ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอด ภัยให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นจากเหตุการณ์กลุ่มนปช.เคลื่อนขบวนจากแยกยมราชผ่านเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดิน อาจเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบ โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ยังเดินรถปกติแต่จำเป็นต้องปิดประตูทางเข้า-ออกบางสถานี ฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนจากแยกเพชรบุรีมุ่งหน้าแยกรัชดาลาดพร้าวได้แก่ สถานีเพชรบุรี สถานีพระราม 9 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีห้วยขวาง สถานีสุทธิสาร สถานีรัชดา สถานีลาดพร้าว พหลโยธิน ส่วนประตูทางเข้า-ออก ฝั่งตรงข้ามสถานีดังกล่าวเปิด 50% เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้เดินทางตามปกติ

ต่อมาในช่วงบ่ายบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ปิดประตูทางเข้า-ออกเพิ่มเติมตั้งแต่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานีคลองเตย สถานี ลุมพินี สถานีสีลม สถานีสามย่าน และสถานีหัวลำโพง โดยจะปิดในฝั่งซ้ายของถนนที่มุ่งหน้าสู่หัวลำโพง ส่วนประตูทางเข้า-ออก ฝั่งตรงข้ามสถานีดังกล่าวเปิด 50% เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้เดินทางตามปกติ จนกว่าขบวนกลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนผ่านเส้นทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ร้านทองแห่ปิดให้บริการ

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนผ่านถนนเยาวราช ส่งผลให้ร้านทองในย่านนี้ และบริเวณใกล้เคียงทั้งร้านขายส่งและขายปลีก ซึ่งมีจำนวนรวมกันประมาณ 132 ร้าน กว่า 80% ปิดร้านและบางร้านปิดต่อวันที่ 21 มี.ค.อีก 1 วันด้วย ตามการร้องขอจากพนักงานประจำร้านที่ต้องเดินทางมาด้วยรถโดยสารประจำทาง ที่เกรงว่า เหตุการณ์ไม่ปกติจะมีปัญหาในการเดินทางมาทำงานและเดินทางกลับบ้านในช่วงเย็นได้ ซึ่งพนักงานประจำร้านได้ร้องขอมาหลายครั้ง ประกอบกับไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับร้านทอง จึงทำให้ร้านทองรู้สึกไม่สบายใจจึงปิดให้บริการ อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วการปิดให้บริการหรือไม่ สมาคมค้าทองคำให้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละร้านเอง

นปช.เลี่ยงผ่านร.พ.ศิริราช

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลแสดงความเป็นห่วงเรื่องของเส้นทางที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะใช้เคลื่อนขบวนผ่านไปใกล้บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าและร.พ.ศิริราช ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางโดยเลี่ยงถ.จรัญสนิทวงศ์ และสะพานพระปิ่นเกล้า การเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงเส้นทางสุ่มเสี่ยง เช่น ร.พ.ศิริราช สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เข้าเจรจากับแกนนำ แต่เมื่อได้พูดคุยแล้วพล.ต.ต.วิชัยเข้าใจและยอมรับในเส้นทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนที่มองกันว่าที่มีการเคลื่อนขบวนในวันเดียวกันนี้นั้น เนื่องจากเป็นวันเสาร์ 5 ที่เชื่อว่าเป็นวันแรงทางศาสนานั้น ความจริงแล้วไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อตัดสินใจเคลื่อนขบวนออกไปในวันเสาร์ มีเกจิอาจารย์โทรศัพท์มาบอกว่าวันเสาร์นี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันแรง ถือเป็นฤกษ์ดีที่เคลื่อนวันนี้ ความจริงแล้วเราต้องการพลังประชาชน อย่างไรก็ตามในการเคลื่อนขบวนจะมีการ์ดของนปช.ใช้รถจักรยานยนต์ประกบไปตลอดเส้นทาง เพื่อดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดการปั่นป่วน หรือมีการสร้างสถานการณ์ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลเตรียมจัดคนเข้ามาปั่นป่วนสร้างสถานการณ์ เนื่องจากรับไม่ได้ที่คนเสื้อแดงได้รับการยอมรับจากชาวกทม.

แกนนำปลุกเร้าก่อนเดินทาง

เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่เวทีใหญ่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนตั้งแถวเคลื่อนขบวน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี พร้อมแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า การเดินขบวนในวันนี้จะมีแกนนำที่เดินทางไปกับกลุ่มคนเสื้อแดงได้แก่ นายณัฐวุฒิ นายจตุพร น.พ.เหวง โตจิราการ เป็นต้น ส่วนบริเวณเวทีจะมีนายวีระและเจ้าหน้าที่บางส่วนอยู่ดูแลผู้ชุมนุมที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย

ต่อมาน.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวถึงการเดินขบวนว่า เรามี 2 วิธีคือ 1. สามไม่ คือ ไม่โกรธ ไม่รุนแรง และไม่ตอบโต้ และ 2.สามส่ง คือ ส่งยิ้ม ส่งความรัก และส่งความสุข จากนั้นนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวบนเวทีว่า การเดินทางไปทั่วกรุงเทพฯในวันนี้เพื่อเชิญชวนให้คนกรุงเทพฯ ร่วมขับไล่รัฐบาลกับคนเสื้อแดง ดังนั้นถ้ามีใครมายั่วยุให้โกรธ เราจะบอกว่าไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้ มีแต่ดอกไม้มามอบให้ชาวกทม.

พระสงฆ์สวดให้พรผู้ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เดินขบวนจะแจกใบปลิวเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อสังคมไทย ให้กับชาวกทม. ใบปลิวดังกล่าวมีข้อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภา

จากนั้นขบวนก็เริ่มเคลื่อนตัวหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเคลื่อนขบวนออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พระสงฆ์ประมาณ 20 รูป ขึ้นบนเวทีเพื่อสวดมนต์ให้พรกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ ร่วมพิธีด้วย หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์แล้ว นายวิสา คัญทัพ ได้อ่านข่าวหนังสือ พิมพ์ให้ผู้ร่วมชุมนุมฟัง พร้อมตำหนิการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับที่เห็นว่านำเสนอข่าวไม่เข้าข้างกลุ่มคนเสื้อแดง

ทั้งนี้ก่อนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ส.ส. และส.จ.ที่ไม่ได้เดินทางร่วมไปกับขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงจะทยอยขึ้นเวทีนั้น ผู้ดำเนินรายการบนเวทีประกาศขอรับอาสาสมัครการ์ดนปช.จำนวน 100 คน เพื่อทำหน้าที่ปกป้องพิทักษ์รักษาเวทีปราศรัยเอาไว้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากเดินทางร่วมไปกับขบวนดังกล่าว

โวยสวมรอยไปบ้าน"ป๋า"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้ชุมนุมจะตั้งแถวออกเดินทางไปรณรงค์เชิญชวนคนกรุงเทพฯให้ออกมาร่วมขับไล่รัฐบาล ตั้งแต่เวลา 10.00 น. กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงเวลา 13.30 น. แม้ว่าหัวแถวจะไปถึงบริเวณถ.รามคำแหงแล้ว แต่ปลายแถวบางส่วนยังคงอยู่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ขณะเดียวกันผู้ดำเนินรายการบนเวทีประกาศแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า ขณะนี้กลุ่มคนสวมใส่เสื้อแดงเดินทางไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีคนแตกแถว ทุกคนอยู่ในกรอบ ดังนั้นถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงคนใดไปบ้านพล.อ.เปรม ให้จับตัวดำเนินคดีทันที เพราะมั่นใจว่าไม่ใช่คนเสื้อแดงแน่นอน

เดินวนจากผ่านฟ้าถึงรามฯ

เวลา 12.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงประมาณ 50 คน รถกระบะประมาณ 10 คัน เปิดเพลงปลุกใจและบีบแตรไปตลอดทาง โดยกลุ่มนี้ไม่ได้ไปตามเส้นทางที่แกนนำนปช. กำหนด แต่กลับผ่านไปบริเวณแยกสี่เสาเทเวศร์ มุ่งหน้าไปยังสี่แยกเกียกกาย แต่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง

เวลา 15.15 น. กลุ่มเสื้อแดงบางส่วนที่เดินทางไปรอบกทม. จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าแยกยมราช ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เข้าถนนลาดพร้าว มุ่งสู่บางกะปิ วกเข้าถนนรามคำแหง ถนนพระราม 9 ถนนสุขุมวิท 71 เข้าถนนพระราม 4 ถนนสีลม เข้าแยกบางรัก วงเวียนโอเดียน สู่ถนนเยาวราช และเดินทางกลับมาถึงบริเวณพื้นที่ชุมนุม สะพานผ่านฟ้าลีลาศ แกนนำบนเวทีปราศรัยประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบว่า มีผู้ชุมนุมของเราบางส่วนเดินทางมาถึงแล้ว ทำให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ พากันปรบมือต้อนรับ และแสดงความยินดีที่การเดินทางไปรณรงค์เชิญชวนให้คนกรุงเทพฯ ร่วมกันออกมาขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ประสบความ

สำเร็จ เนื่องจากคนกรุงเทพฯต้อนรับ และโบกมือทักทาย โดยไม่มีการโห่ร้องขับไล่แต่อย่างใด

"จตุพร"นำขบวนแถวหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเคลื่อนพลครั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงจัดขบวนเคลื่อนการชุมนุมใหญ่ไปทั่วถนนกรุงเทพฯ เพื่อคารวะ ทำความเข้าใจและเชิญชวนให้คนกรุงเทพฯ เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง สำหรับขบวนในการเคลื่อนการชุมนุม จะให้รถจักรยาน ยนต์นำขบวนเพื่อเปิดเส้นทาง จากนั้นจะมีรถกระบะซึ่งนำโดยนายจตุพร บนรถกระบะนำรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาตั้ง เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับผู้ชุมนุม พร้อมทั้งนำกลองสะบัดชัยและฆ้องขนาดใหญ่ติดตั้งไว้บนรถกระบะ โดยตีฆ้องและกลองเพื่อปลุกเร้าผู้ชุมนุมตลอดเส้นทาง

ส่วนขบวนช่วงที่ 2 นำโดยนายณัฐวุฒิ จะใช้รถหกล้อติดตั้งเครื่องขยายเสียง ปราศรัยเชิญชวนประชาชนตลอดเส้นทาง และขบวนที่ 3 นำโดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ปิดท้ายขบวน

จุดรวมพลที่แยกยมราช

ทั้งนี้มีการนัดตั้งขบวนกันที่บริเวณแยกยมราช ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ใช้เส้นทางบริเวณถนนหลานหลวง นางเลิ้ง และ ถนนพิษณุโลก เป็นเส้นทางเคลื่อนออกมาจากที่ตั้ง โดยนำรถบัสโดยสารและรถกระบะจำนวนหลายคันมาจอดขวางบริเวณทางขึ้นด่วนยมราช พร้อมทั้งปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างมาก

เวลา 10.00 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนออกจากแยกยมราช ใช้เส้นทางบริเวณถ.พิษณุโลก มุ่งหน้าไปแยกประตูน้ำ ตลอดเส้นทางทั้งสองฝั่งมีประชาชนทั้งที่สวมเสื้อแดงและเสื้อสีอื่นออกมาโบกมือโบกผ้า และมีบางส่วนนำป้ายผ้ามีข้อ ความให้กำลังใจและสนับสนุน ทั้งนี้ที่บริเวณปากซอยเพชรบุรี 7 ซึ่งเคยเป็นจุดที่คนเสื้อแดงเคยก่อเหตุปะทะกับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพร้อมโล่และกระบองประมาณ 30 นาย มาดูแลความปลอดภัยทั้งสองฝั่ง โดยมีการนำรถฮัมวี่มาจอดขวางทางเข้า-ออกซอย ทั้งนี้เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงบริเวณดังกล่าวไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

ชาวต่างชาติร่วมเชียร์

หลังจากนายจตุพรเคลื่อนการชุมนุมออกมาได้สักระยะหนึ่ง ขบวนผู้ชุมนุมได้ขาดช่วง เนื่องจากมีบางส่วนจอดรถรอสัญญาณไฟจราจร ทำให้นายณัฐวุฒิต้องกลายเป็นผู้นำขบวน ทั้งนี้เมื่อการชุมนุมเคลื่อนตัวมาถึงย่านประตูน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณดังกล่าวต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อนักท่องเที่ยวสอบถามรายละเอียดจากประชาชนที่อยู่บริเวณข้างทาง ทำให้ทราบถึงเหตุผลการเคลื่อนการชุมนุม โดยมีชาวต่างชาติบางส่วนนำผ้าแดงออกมาโบกให้กำลังใจผู้ชุมนุมเป็นระยะ

อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนการชุมนุม ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานทูตอินโดนีเซีย สถานทูตจีน และห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ซึ่งมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญ พร้อมทั้งนำแผงรั้วเหล็กมาตั้งตลอดแนวริมรั้วของสถานที่นั้นๆ

รถร้อนจัดจอดเสียระนาว

เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงแยกอโศก ตัดเข้าถนนรัชดาภิเษก ผ่านห้างสรรพสินค้าฟอร์จูน เจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าใต้ดินได้ปิดประตู และไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารผ่านเข้า-ออกในขณะที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่าน เนื่องจากเกรงว่าผู้ชุมนุมจะเข้าไปสร้างความวุ่นวาย โดยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้า-ออกได้เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านไปแล้ว ซึ่งทำในลักษณะเดียวกันทุกสถานี

ทั้งนี้เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงแยกสุทธิสารในเวลา 11.00 น. รถกระบะของผู้ชุมนุมเกิดเสียหลายคัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากหม้อน้ำเดือด รถน้ำมันหมด ไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากรถกระบะบางคันได้ต่อสายไปที่แบตเตอรี่เพื่อใช้เครื่องขยายเสียง

แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวป่วน

นอกจากนี้ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มมีอาการอ่อนล้าและเป็นลม เนื่องจากอากาศร้อนจัด ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องหลบไปอยู่ข้างทาง โดยอาศัยร่มไม้และชายคาของอาคารข้างเคียงหลบพัก ทั้งนี้เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านมาถึงบริเวณถนนรัชดาภิเษก ตัดกับถนนลาดพร้าว รถปราศรัยของนายณัฐวุฒิทิ้งระยะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนตามหลังมา ไม่มีแกนนำคอยสั่งการ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่เคลื่อนการชุมนุม และปิดการจราจรบริเวณแยกดังกล่าว ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ผู้ที่ใช้รถสัญจรผ่านไปมาไม่พอใจ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนการชุมนุมผ่าน มีเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประมาณ 2-3 ลำ คอยบินสังเกตการณ์

เสธ.แดงดักให้กำลังใจ

เวลา 12.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เดินทางโดยรถตู้ส่วนตัวมายังบริเวณย่านโชคชัย 4 โดยพล.ต.ขัตติยะเปิดประตูรถและโบกมือทักทายกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมแจกลายเซ็น จากนั้นพล.ต.ขัตติยะกล่าวว่าเดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุม พร้อมทั้งเดินทางมาปล่อยขบวนผู้ชุมนุมบริเวณแยกลาดพร้าว แต่วัตถุประสงค์หลักที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้แกนนำนปช.ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์แล้ว พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ยังขอยืนยันและยึดมั่นในคำเดิมว่ามีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กลุ่มคนเสื้อแดงตามที่ให้สัญญากับพ.ต.ท.ทักษิณ

ชม"จตุพร"เทียบขงเบ้ง

"ขอชื่นชมนายจตุพร การเคลื่อนขบวนรถครั้งนี้ถือเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดและถือเป็นที่สุด การวางแผนของนายจตุพรครั้งนี้ดุจดั่งขงเบ้ง ขอถอนคำพูดที่ไปว่าสมองหมาปัญญาควาย การนำขบวนรถเคลื่อนไปทั่วกรุงเทพฯครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนทั้งสองข้างทางจำนวนมาก มีแต่คนใส่เสื้อแดงออกมาตอบรับและให้กำลังใจ การเดินขบวนรถครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของโลกที่เกิดขึ้นเพียง 2 ครั้ง คือ มหาตมะ คานธี และนบีมูฮัมหมัด ทั้งนี้จากที่มีคนโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์การเคลื่อนขบวนรถแดงต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ท่านมีน้ำเสียงสั่นเครือและรู้สึกซาบซึ้ง ตื้นตันใจที่มีคนออกมาตอบรับการเคลื่อนไหวจำนวนมาก

ชวนทหารออกมาร่วมสู้

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า วันนี้ทหารต้องวางอาวุธและออกมาร่วมเดินขบวนกับประชาชน สาเหตุที่กองทัพยังสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน คือ รัฐบาลคุมความลับช่วยป้องกันเรื่องทุจริต ทั้งเรื่องจีที 200 เรือเหาะ รถเกราะยูเครน รถจี๊ปติดเกราะ ทำให้ทุกคนไม่ต้องติดคุก ช่วงนี้หากเราคิดจะรบยาวก็ขอให้มีการชุมนุมอย่างยืดเยื้อ รัฐบาลทนได้ก็ทนไป และขอให้ดูว่าเงินหลวงกับเงินราษฎร์ที่บริจาคให้กลุ่มเสื้อแดงอย่างไหนจะมากกว่ากัน ดังนั้นรัฐบาลอย่าดันทุรังอยู่ต่อ

ชาวบ้านโวย-รถติด

จากนั้นผู้ชุมนุมได้เคลื่อนผ่านบริเวณแยกลำสาลีตัดเข้าถนนรามคำแหง ผ่านแยกอสมทและแยกคลองตัน เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนการชุมนุมมาถึงซอยปรีดีพนมยงค์ 42 มีหญิงสาววัยกลางคนขับรถสวนทางมาและลดกระจกลงพร้อมชูนิ้วกลางให้กลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ชุมนุมทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งผู้ชุมนุมเห็นก็ได้ตะโกนต่อว่า แต่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

บึ้มถล่ม- เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหลุมระเบิดบริเวณสวนหย่อม
หน้าอาคารสำนักงานป.ป.ช. ที่ตั้งใหม่ที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ยังเกิดเหตุระเบิดใกล้กระทรวงมหาดไทยในคืนเดียวกัน

เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงซอยปรีดีพนมยงค์ 4 มีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งใช้ชื่อว่าชาววัฒนาประ มาณ 50 คน ออกมาถือป้ายไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว พร้อมทั้งสนับสนุนรัฐบาล ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจและด่าทอกันไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณปากซอย พร้อมทั้งยืนเป็นแนวกั้นตลอดเส้นทาง

จยย.นับหมื่นบีบแตรนำ

ตลอดเส้นทางการเดินทาง กลุ่มนปช.ขับรถรณรงค์ โดยมีขบวนรถจักรยานยนต์นำหน้ากว่า 1 หมื่นคัน ทุกคันบีบแตรเป็นสัญญาณโดยมีประชาชนตาม 2 ข้างทาง ออกมาโบกไม้โบกมือชื่นชม รวมทั้งมอบน้ำดื่มและให้กำลังใจ และมีบางส่วนที่คัดค้านการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นอกจากกลุ่มผู้คัดค้านที่ซอยปรีดีพนมยงค์ 4 แล้ว ระหว่างที่รถของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. เคลื่อนผ่านตามเส้นทางถนนลาดพร้าว มีผู้ปาขวดน้ำลงมาจากอาคารข้างทาง ขวดดังกล่าวเกือบโดนนายณัฐวุฒิที่ปราศรัยอยู่บนรถ และขณะขบวนเคลื่อนผ่านแยกราชเทวี ชาวบ้านชุมชนเพชรบุรีออกมาตะโกนขับไล่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เมื่อขบวนเคลื่อนเข้าสู่ถนนเยาวราชร้านขายทองกว่าร้อยละ 80 ปิดทำการในช่วงนั้นด้วย

สำหรับการเดินทางของกลุ่มผู้ชุมนุม มีการเปลี่ยนเส้นทางเดินขบวนเป็นหลายสาย จากกลุ่มประชาชนที่ออกมารอตามทางและสมทบขบวนตลอดเวลา ทำให้มีการแยกเส้นทางไปหลายเส้นพร้อมกัน อาทิ ถนนเกษตรนวมินทร์ เยาวราช สยาม มาบุญครอง แต่ไม่มีเหตุรุนแรง

เยาวราชมอบดอกกุหลาบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้าถนนเยาวราช ตลอด 2 ข้างทางมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากออกมายืนต้อนรับ ประชาชนส่วนใหญ่นำดอกกุหลาบมอบให้ผู้ชุมนุม รวมทั้งนำผ้าสีแดงมาโบกให้กำลังใจ นายณัฐวุฒิ เชิญชวนให้ชาวเยาวราชออกมาร่วมกันขับไล่รัฐบาลและล้มล้างระบอบอำมาตย์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ชาวเยาวราชส่วนใหญ่รับปากว่าจะเดินทางไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงในช่วงเย็น

ใช้เวลา 8 ช.ม.เดินรอบกรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางตามเส้นทางถนนเพชรบุรี ผ่านแยกอโศกมนตรี เข้าสู่ถนนรัชดาห้วยขวาง ตัดเข้าถนนลาดพร้าว ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ แยกลำสาลี มหาวิทยา ลัยรามคำแหง ก่อนตัดเข้าแยกคลองตัน เข้ากล้วยน้ำไท ผ่านถนนสุขุมวิท เข้าถนนพระรามสี่ ก่อนแยกไปทางถนนพระราม 3 ข้ามสะพานกรุงเทพ ไปยังบุคคโล ผ่านแยกมไหสวรรค์ ผ่านเดอะมอลล์ท่าพระ วนรอบวงเวียนใหญ่ จากนั้นข้ามสะพานสาทร ผ่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าสีลม สวนลุมพินี ผ่านเยาวราช พาหุรัด สำเพ็ง ก่อนกลับเข้าสู่เวทีชุมนุมที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

ตร.รายงานมีม็อบ 8 หมื่น

ทางวิทยุเครือข่ายตำรวจ รายงานจำนวนผู้ ชุมนุมรอบกทม.ว่า ประกอบด้วยรถจักรยาน ยนต์ 15,000 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 7 พันคัน มีผู้ร่วมเดินขบวนประมาณ 6.5 หมื่นคน เมื่อรวมกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาสมทบบางช่วงเวลา และกลุ่มประชาชนที่ออกมาให้กำลังใจ มีจำนวนสูงสุดประมาณ 8 หมื่นคน

มท.จับตาการเคลื่อนพล

ที่กระทรวงมหาดไทย มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจัดขบวนมวลชนประมาณ 20,000 คน จากบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ เคลื่อนไปยังจุดต่างๆ โดยมีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ประเภทต่างๆ เข้าร่วมขบวน โดยยังคงมวลชนไว้บริเวณพื้นที่ชุมนุมประมาณ 3,000 คน จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. ขบวนมวลชนได้เดินทางมาสมทบตามจุดต่างๆ ซึ่งทำให้มีมวลชนมากกว่า 40,000 คน และมีพาหนะประเภทต่างๆ เป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันได้มีความเคลื่อนไหวของมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น นปช.ขอนแก่นประมาณ 400 คน นำโดยนายสัญญา สิมมา ทำกิจกรรมรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย โดยจัดขบวนรถประกอบด้วยรถกระบะ 43 คัน รถจักรยานยนต์ 20 คัน เคลื่อนไปตามจุดต่างๆ ในพื้นที่อ.เมือง เพื่อประชาสัมพันธ์ และขอรับการสนับสนุนเงิน-สิ่งของ รองรับการชุมนุมใหญ่ที่กทม.

จว.ปริมณฑลทยอยร่วม

นอกจากนี้ยังมีประชาชนจากภูมิภาคต่างๆ เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกทม. โดย 1. จ.ฉะเชิงเทรา แนวร่วมนปช. อ.สนามชัยเขต เจ้าร่วมชุมนุมประมาณ 60 คน รถกระบะ 6 คัน 2. จ.จันทบุรี นปช.อ.เมือง เข้าร่วมชุมนุม 170 คน รถกระบะ 11 คัน รถเพื่อการเกษตร 1 คัน รถบัส 1 คัน และนปช.อ.สอยดาว เข้าร่วมชุมนุม 150 คน รถบัส 3 คัน รถกระบะ 6 คัน 3. จ.ปทุมธานี นปช.ปทุมธานี เข้าร่วมชุมนุม 4,175 คน พร้อมพาหนะประเภทต่างๆ ประมาณ 910 คัน จ.สมุทรปราการ เข้าร่วมชุมนุม 3,000 คน เดินทางโดยรถบัส 8 คัน รถกระบะ 120 คัน รถจักรยานยนต์ 530 คัน รถแท็กซี่ 100 คัน รถสองแถว 16 คัน

อดีตนายกฯสมชายหนุน

เวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และนายสงวน พรหมณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย แจกดอกกุหลาบพร้อมทั้งน้ำและผลไม้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจราจรบริเวณถนนพระราม 4 เหลือช่องเดินรถเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ทั้งนี้นายสมชายยังติดตามการรายงานสดทางสถานีโทรทัศน์พีเพิลแชนแนลเป็นระยะ

วีระพอใจคนกรุงยอมรับ

เวลา 15.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่เคลื่อนขบวนไปทั่วกรุงเทพฯ เดินทางกลับไปยังบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศบางส่วน โดยมีแกนนำกลับมาบ้างคือนายวีระ มุสิกพงศ์ และนาย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง

นายวีระ ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่า การเคลื่อน ไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงไปทั่วกรุงเทพฯ ครั้งนี้ทำให้ทราบว่าคนกรุงเทพฯยอมรับคนเสื้อแดงมาก แสดงให้เห็นว่าชัยชนะอยู่ใกล้มือเราแล้ว ส่วนสาเหตุที่มีการแตกขบวนไปบ้างเนื่องจากขบวนยาวมาก กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจึงต้องแตกออกแต่กลับมายังเวทีกลาง

"ชัยชนะของเราใกล้เข้ามาแล้ว อยู่แค่เอื้อมมือ รัฐบาลควรแสดงความยินดีกับคนเสื้อแดงที่คนไทยรักกันสมานฉันท์ เพราะรัฐบาลไม่เคยช่วยกันสร้าง มีแต่โยนระเบิดกันทุกคืน แต่เมื่อคนเสื้อแดงเดินออกไปพบชาวกทม.ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี รัฐบาลควรยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ทั้งนี้ประชาชนต้องเข้าใจว่าวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ปากกัดตีนถีบ จะให้ทิ้งร้านมาชุมนุมกับเราไม่ได้ หรือจะมาอยู่เป็นวันเป็นคืนไม่ได้ แต่พี่น้องชนบทมีเวลาว่างจากการทำนา การที่เราเดินทางไปพบกับคนกทม.เพิ่งรู้ว่าหัวใจเขาไม่แตกต่างจากเรากลุ่มคนเสื้อแดง" นายวีระ กล่าว

"กี้ร์"ขู่เทเลือดในทำเนียบ

นายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อน ไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมว่าตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไป การชุมนุมจะเพิ่มระดับความเข้มข้นมากขึ้น อาจจะให้ผู้ชุมนุมบางส่วนติดตามนายกรัฐมนตรีไปทุกที่ แม้แต่ภายในราบ 11 และอาจนำเลือดที่เหลือไปเทที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่เทแค่หน้าประตู แต่จะเทข้างใน

นายอริสมันต์กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจยื่นเรื่องให้ศาลพัทยาถอนประกันว่าไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้กำลังทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการจับกุมหลายครั้ง โดยต้องการใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการจับกุม รู้สึกแปลกใจเนื่องจากการถอนประกันนั้นเคยคุยกับอัยการพัทยาแล้วว่า หากจะถอนประกันต้องเข้าหลักเกณฑ์ 3 ข้อ คือ 1.มีพฤติกรรมหลบหนี 2.ข่มขู่พยาน 3.มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งตนไม่เข้าหลักเกณฑ์ไหนเลย เคยคุยกันว่าจะเข้ามอบตัวในวันที่ 1 เม.ย.นี้แล้ว ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.นี้ จะให้ทนายสอบถามอัยการพัทยาว่า จะถอนประกันตัวเฉพาะตนหรือแกนนำทั้งหมด

"บิ๊กจิ๋ว"โผล่ม็อบเสื้อแดง

เวลา 17.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ พร้อมทั้งกล่าวว่า ต้องการมาเยี่ยมพี่น้องประชาชน ได้ข่าวมาว่าประชาชนที่มาชุมนุมเดือดร้อน ไม่สบาย จึงนำยาสามัญมามอบให้ เมื่อถามถึงข้อเสนอแนวทางการเจรจาระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลมองอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องหลัก เรื่องหลักอยู่ที่ว่าผู้ปกครองเข้าใจในหลักการปกครอง และเข้าถึงจิตใจของประชาชนหรือไม่ ตนปรารถนาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าใจและหวังว่าน่าจะรู้ว่าอะไรคือปัญหา ปัญหาอยู่ตรงไหน และมีหัวใจให้กับประชาชน เข้าใจประชาชนหรือไม่ ต้องเข้าใจถึงหัวจิตหัวใจประชาชน

รบ.ต้องกุมหัวใจปชช.

เมื่อถามว่า จะพูดคุยกับรัฐบาลและส.ว.ถึงแนวทางการยุบสภาของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ใจเย็นๆ แกนนำนปช.มีแนวทางของเขา และนปช.กำหนดแบบแผนขั้นตอนทุกอย่าง หากเป็นเรื่องของเสื้อแดง และยุทธศาสตร์ของกลุ่มคนเสื้อแดงให้ถามนายวีระ ตนไม่เป็นห่วงและไม่ต้องแนะนำอะไร ต่อข้อถามว่าจะฝากอะไรถึงรัฐบาลหรือไม่ พล.อ. ชวลิต กล่าวว่าชี้มานานแล้ว แนะมาเยอะแล้ว แต่ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีต้องเอาหัวใจของปัญหามาพิจารณา ผู้ปกครองที่ดีต้องมีน้ำใจ ต้องนำแนวคิดและหัวใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง หากนายกฯเข้าใจเชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ เพราะไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลควรประเมินสถานการณ์อย่างไรกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ไปดูได้ที่ผ่านมาไม่เคยมีอย่างนี้

แซวมาร์ครีบออกจากราบ 11

เมื่อถามว่า จะแนะนำให้รัฐบาลยุบสภาหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตอนนี้แนะให้นายกฯออกจากราบ 11 ก่อนดีกว่า เพราะถ้ายังไม่ออกมา จะพูดจากันได้อย่างไร เมื่อถามว่าหากนายกฯไม่ออกแสดงว่าไม่จริงใจ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่ามีหัวใจและเข้าใจปัญหาของประชาชนหรือไม่ เมื่อผู้นำอาสาเข้ามาทำงานให้กับประชาชนก็ต้องยอมรับ รับฟังและเข้าใจปัญหาของเขา ต่อข้อถามว่าสถานการณ์อย่างนี้หากพล.อ.ชวลิตเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนพูดไม่ได้ ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้อย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ทำงานต่อไปอย่างยากลำบาก แต่รัฐบาลนี้บริหารประเทศลำบากมานานแล้ว เมื่อถามว่าจะแนะให้รัฐบาลสามารถทำงานสบายได้อย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าถ้าตนตอบได้ตนจะตอบ

ชมวีระ-"นายแน่มาก"

ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.อ.ชวลิตขึ้นปราศรัยบนเวที ระบุว่า เมื่อเห็นประชาชนมาชุมนุมกันในวันนี้รู้สึกมีความสุขมากที่สุดใน 78 ปีที่ผ่านมา ขอชื่นชมแกนนำ และผู้ชุมนุมทุกคน เพราะในวันนี้ไม่เพียงแต่คนไทยทั่วประเทศเท่านั้น แต่ผู้คนทั่วโลกไม่เคยเห็นปฏิบัติการแบบนี้มาตลอดชีวิต เนื่องจากทุกคนเสียสละ เอาใจใส่ กำหนดเป้าหมาย เดินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และรักษาภูมิลักษณะชาติด้วยการต่อสู้ในวิธีสันติด้วยชีวิต ประเทศไทยตั้งแต่เปลี่ยน แปลงการปกครองวันที่ 24 มิ.ย.2475 มีความขัดแย้งมาโดยตลอด และไม่อาจแก้ปัญหาของชาติได้ด้วยการใช้วิธีรุนแรง ขอชมนายวีระว่า "นายแน่มาก"

"เรื่องที่สองที่อยากพูด คือไม่เคยเห็นมหาประชาชนที่ประกอบภารกิจด้วยชีวิต จนทำให้ภารกิจของแผ่นดินสำเร็จลงได้แล้วในวันนี้ เมื่อช่วงที่คนเสื้อแดงรวมตัวกันใหม่ๆ มีผู้มาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะไม่มีระเบียบรัดกุม แต่ผมบอกไปว่าให้รอดูวีระน้องผมก่อน ในวันนี้เราเป็นม็อบที่มีมวลมหาประชาชนที่มีระเบียบวินัยที่สุดในโลก ขอขอบคุณชาวกทม.และคนไทยทั่วประเทศ ที่มอบความรักและช่วยดูแลทุกอย่าง สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในใจคนเสื้อแดงไปตลอดชีวิต" อดีตนายกฯ กล่าว

ตร. 8,600 นายดูแลเข้ม

ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. แถลงผลการติดตามสถานการณ์ชุมนุม นปช.เคลื่อนขบวนรอบกทม.ว่า สถานการณ์ทั่วไปกลุ่มผู้ชุมนุมเดินไปตามเส้นทางที่แจ้งไว้ก่อนหน้าแล้ว ตามเส้นทางเดินของขบวนทั้งหมดมีมวลชนเติมมาโดยตลอดบริเวณ 2 ข้างทาง เดินระยะหนึ่งแล้วออกไป มีชุดใหม่เข้ามาอีก จะมีส่วนที่ตามขบวนตลอดเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีเพียงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเล็กน้อย นอกจากนั้นมีประชาชนบางมุมบางส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย เจ้าหน้าที่กันได้ ไม่มีการปะทะกัน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติวันนี้จำนวน 8,600 นาย แยกเป็นกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 5,000 นาย จราจร 1,000 นาย นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนที่เร็ว จราจรพื้นที่และสายตรวจของแต่ละสน.ดูแลตามเส้นทาง จาก 7 บก.น. สถานการณ์ทั่วไปตำรวจมองว่าผู้ชุมนุมยังเคารพกติกา ทั้งเส้นทาง การควบคุมให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ตามเส้นทางตำรวจจราจรได้แก้ไขปัญหาให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดด้วยการตัดขบวนเป็นระยะๆ แก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี

เปิดเวทีช่วงเย็นลากไส้รบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณเวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศในช่วงเย็นว่า ประชาชนที่ไม่ได้ร่วมเคลื่อนขบวนตามท้องถนนในกทม. ต่างทยอยจับจองพื้นที่จนเต็มหน้าเวที กระทั่งเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนได้มาสมทบจนเต็มพื้นที่ถนนราชดำเนิน ฝั่งด้านถนนราชดำเนิน กลาง ผู้ชุมนุมเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างหนาแน่นไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนถนนราชดำเนินนอกนั้นหนาแน่นจนถึงแยก จปร. ขณะที่บรรยากาศบนเวที ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างทยอยขึ้นปราศรัยมีเนื้อหาโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่มีแต่เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น รวมถึงพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง จ.เชียงใหม่ ขึ้นเวทีปราศรัยด้วย

ต่อมาแกนนำนปช.แถลงข่าวถึงผลสำเร็จในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ชาวกทม.ออกมาร่วมชุมนุม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนปช.ครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบดาวกระจาย แต่เป็นการเคลื่อนพลเป็นกลุ่มใหญ่ตามยุทธการดาวฤกษ์ ขณะที่กำลังแถลงข่าวอยู่ขบวนที่อยู่ในการนำของน.พ.เหวง โตจิราการ ยังอยู่แค่กล้วยน้ำไทเท่านั้น จึงต้องหาเส้นทางเคลื่อนกลับเข้าสะพานผ่านฟ้าที่สั้นที่สุด เนื่องจากเวลาไม่เอื้ออำนวย และเป็นจุดอ่อนให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ได้ สรุปได้ว่าเป็นความสำเร็จอย่างดียิ่งของมวลมหาประชาชนอันยิ่งใหญ่ ได้การตอบรับมากที่สุดตั้งแต่หลาน หลวงและทุกสถานที่ มีประชาชนทั้งเสื้อแดงและเสื้อหลากสีออกมาต้อนรับสองข้างทาง

"มาร์ค"จะมีคนเกลียดที่สุด

"ขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ให้ฟังไว้ว่าหากยังอยากอยู่ในอำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบ ไม่ยอมยุบสภา จะต้องกลายเป็นนายกฯ ที่มีคนเกลียดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นนายกฯ ที่มีคนชิงชังมากที่สุดในประเทศ ขอให้ทบทวนตัวเอง อย่าฟังคนอื่นที่เห็นว่าเป็นเพียงหุ่นเชิด เป็นตุ๊กตาที่นำมาตั้งไว้เป็นนายกฯ ขอให้คำนึงถึงชีวิตที่จะมีต่อไปในภายหน้า ไม่เช่นนั้นจะไม่เหลือราคาอีกเลย" นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวขอบคุณชาวกทม.ที่แสดงน้ำใจในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ แต่หากมีสิ่งใดผิดพลาดทำให้อึดอัดใจ ไม่สะดวกขอกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ ทุกอย่างที่ทำไปเนื่องจากต้องการให้ประเทศมีประชาธิปไตย เพื่อลูกหลานในอนาคตจะได้เติบโตมาอย่างเท่าเทียมไม่ถูกกดขี่จากอำมาตย์อย่างเช่นทุกวันนี้ ขอบคุณตำรวจ เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในทุกด้านให้กลุ่มเสื้อแดงและประชาชนทั่วไป จนภารกิจสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี กรณีที่มีการรายงานข่าวว่ามีการกระทบกระทั่งมีขวดน้ำเฉี่ยวหัวไปนั้นขอบอกว่าไม่เป็นความจริง ยอมรับว่ามีการปาขวดที่ถนนเพชรบุรี แต่ก่อนที่รถแกนนำจะไปถึง นอกจากนั้นยังจอดรถปราศรัยทำความเข้าใจกับผู้ก่อเหตุ และไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก

ลั่นไม่คุย-ยุบอย่างเดียว

"สำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์จะส่งนายสาทิตย์และนายกอร์ปศักดิ์มาเจรจานั้น ขอบอกว่านปช.ไม่ปิดการเจรจา ในฐานะคนไทยที่ต้องการให้ทุกอย่างจบลงอย่างสันติจากทุกฝ่าย แต่หากส่งทั้งสองคนมาไม่มีการเจรจาเด็ดขาด นายกอร์ปศักดิ์ไม่มีการเจรจา ส่วนนายสาทิตย์เป็นรัฐมนตรีที่ทำทุกทางที่บีบบังคับให้สื่อรัฐออกข่าวโจมตีคนเสื้อแดงตลอดเวลา อย่างนี้แล้วยังจะมาเจรจาอะไร ไม่มีราคาในการเข้าร่วมเจรจา ขอบอกว่าจะเจรจากับคนที่มีอำนาจสูงสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น คือนายอภิสิทธิ์ และมีข้อเสนอเดียวคือการยุบสภาเท่านั้น หากไม่ยุบไม่ต้องเจรจา" นายณัฐวุฒิ กล่าว

หนึ่งในแกนนำนปช.กล่าวอีกว่า หากเข้าใจว่าแดงแผ่วแล้วเพราะไม่มีคนเข้าร่วมก็ไม่ต้องเจรจา หากเจรจาต้องไม่ส่งลูกกรอกหรือเลขาฯ มา ไม่เช่นนั้นก็ปิดฉากเรื่องเจรจาไปเลย แล้วเราจะต่อสู้ด้วยสันติวิธีต่อไป โดยจะยกระดับการเคลื่อนไหวให้มากขึ้น แต่ไม่ขอบอก ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ระทึกเป็นรายวันไป

ขู่มาร์คไปไหนม็อบไปด้วย

นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์อ้างเรื่องปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญว่า การยุบสภาเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินอนาคตประเทศไทย เมื่อยุบสภาแล้วนำเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไปเป็นนโยบายในการหาเสียง ให้ประชาชนเลือกว่าระหว่างแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญประชาชนจะเลือกอย่างไร รวมถึงปัญหาทั้งหมดไปให้ประชาชนตัดสิน และหากมีการเจรจาเกิดขึ้นจริงไม่จำเป็นต้องมีองค์กรใดมาเป็นตัวกลาง เพราะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันโดยตรงได้ แต่หากจะยังอยากเป็นนายกฯ อยู่อย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่านายอภิสิทธิ์ไปที่ไหน ไม่ว่าในกทม.หรือต่างจังหวัด จะมีคนนับหมื่นไปด้วย แต่รับประกันว่าจะไม่มีอะไรรุนแรง ไม่มีการยึดสถานที่ เป็นการไปอย่างสันติวิธีเท่านั้น ไม่ต้องห่วงว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน อยู่ที่นายอภิสิทธิ์จะเป็นนายกฯ อีกนานได้เท่าไรมากกว่า

แขวะ"ชวน"ได้ดีเพราะอำมาตย์

"ขอพูดถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย แสดงความห่วงใยไว้ว่าการเคลื่อนไหวขณะนี้จะเป็นการใช้วิธีรุนแรงเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น เพราะนายชวนไม่รู้สึกว่าในสังคมไทยมีการแบ่งชนชั้นนั้น ขออธิบายว่ามีการแบ่งแยกชนชั้น ชนชั้นล่างถูกกระทำจากอำมาตย์ตลอดเวลา แต่ที่นายชวนไม่เห็นอย่างนั้น เพราะนายชวนเป็นผลผลิตจากชนชั้นล่างที่ประสบผลสำเร็จจากระบบอำมาตย์ เห็นได้จากการที่นายชวนเป็นนายกฯ ถึง 2 ครั้ง กลับทำให้อำนาจของอำมาตย์เข้มแข็งขึ้น แทนที่จะเป็นประชาชน" นายณัฐวุฒิกล่าว

อดีตรมว.คลังจวกดีแต่กู้

ต่อมานายสุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรมว.คลัง กล่าวโจมตีการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่เคยสร้างรายได้หลักเข้าประเทศอย่างที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ รัฐบาลชุดนี้มีแต่กู้หนี้ยืมสินทั้งสิ้น จนทั่วโลกรับรู้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยแย่ลงอย่างมาก สมัยที่ตนเป็นรัฐบาลประเทศไทยมีหนี้สิน 3.4 ล้านล้านบาท แต่ปัจจุบันประเทศเป็นหนี้รวม 4.1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านมาไม่เคยแจกแจงรายละเอียดเรื่องหนี้สินให้ประชาชนทราบ บอกเพียงแต่ตัวเลขที่เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น หากยังปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารต่อไป เชื่อว่าในอนาคตต่างประเทศจะไม่ปล่อยกู้ให้ประเทศไทย

นายสุชาติกล่าวอีกว่า นโยบายที่รัฐบาลชุดนี้พอจะโชว์ผลงานให้ประชาชนเห็นคือโครงการ 6 มาตรการ 6 เดือน ซึ่งที่จริงแล้วโครงการดังกล่าวเป็นการบริหารสืบต่อจากการบริหารงานรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนโยบายนี้เกิดจากแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่นโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการยุบสภาและพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศจะมีโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนยากจนได้ลืมตาอ้าปากได้อย่างยั่งยืน รวมถึงพ่อค้าและนักธุรกิจสามารถประกอบกิจการได้อย่างมั่นคง

ส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีด้วย

จากนั้นส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีทักทายประชาชนที่นั่งชุมนุมอยู่กว่า 2 หมื่นคน อาทิ นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นายปัญญา จินตะเวช อดีตส.ส.อุบลราชธานี นายจักริน พัฒน์ดำรงจิต ส.ส.ขอนแก่น และนายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน โดยนายวิเชียรปราศัยโจมตีการทำงานของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ และยืนยันว่าการเจรจาระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลต้องเป็นระดับนายกฯ กับแกนนำเท่านั้น ถ้าส่งนายสาทิตย์กับนายกอร์ปศักดิ์มาจะไม่ต้อนรับและไล่กลับไป ถ้าสองคนนี้มาเราจะส่ง "เจ๋ง ดอกจิก" สมาชิกนปช.ไปพบก็พอ

"จตุพร"ย้ำคนกรุงเห็นด้วย

เวลา 20.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. ขึ้นเวทีกราบผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง พร้อมปราศรัยว่าการเดินทางไปพบประชาชนกทม.ในแต่ละที่เป็นปรากฏการณ์ของประชาชน เป็นดอกไม้หลากสีที่ประชาชนมีความรู้สึกเช่นเดียวกันว่าบ้านเมืองจะมีอภิสิทธิ์ชนไม่ได้ เป็นการปฏิวัติทางชนชั้น ได้เวลาที่ไพร่ทวงสิทธิอำนาจอันชอบธรรมจากอำมาตย์แล้ว เอาสิ่งที่สูญเสียไปตลอดชีวิตกลับคืนมา และตลอดเส้นทางไม่มีใครเขวี้ยงขวดใส่ มีคนต่อต้านไม่ถึง 5 คน ถนนสีลม เยาวราช ต่างเห็นด้วยกับแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดง เมื่อก่อนบอกคนเสื้อแดงไปไม่ได้ แต่วันนี้ออกมาเต็มเยาวราช ตนตายไปไม่เสียดายชีวิต เอาไปขังคุกก็ไม่เสียดายอิสรภาพเพราะกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้

นายจตุพรปราศรัยว่า เมื่อกลับมาได้รับแจ้งจากนายวีระว่า จะมีส.ว.มาเจรจาในวันที่ 20 มี.ค. ส่วนการเจรจากับรัฐบาล นายกฯ เลือกนายสาทิตย์กับนายกอร์ปศักดิ์เป็นตัวแทนของรัฐบาล ตนได้หารือเป็นข้อสรุปแล้วว่าถ้าเป็นสองคนนี้จะไม่เจรจา จะเจรจาคนเดียวคือนายอภิสิทธิ์ วันนี้นายอภิสิทธิ์ยังคิดเล่นเกมการเมืองก่อน บอกจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนค่อยยุบสภา แต่ถึงเวลาก็เบี้ยวอีก เพราะไปคัดค้านกับพรรคร่วมรัฐบาล เราเบื่อนักการเมืองแบบนี้ ใช้วาทศิลป์ วิธีชั่วๆ แบบนี้ไม่ได้เรียกการเจรจา

วีระชวนไปหา"บรรหาร"

ต่อมานายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช. ขึ้นเวทีปราศรัยว่าในวันที่ 21 มี.ค. มีความคิดว่าถ้าคนเสื้อแดงหายเหนื่อยแล้วอยากขอกำลังประชาชนประมาณ 2,000 คน เดินทางไปยังพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อไปถามนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือตัวแทนของพรรค ว่า จะยินดีทำเพื่อประชาชนหรือไม่ และถามว่าทำไมตอนนี้ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีเกียรติ ยังจะรักษาเกียรติของคนที่เคยทำประชาธิปไตยมาหรือไม่ โดยจะประชุมแกนนำอีกครั้งเพื่อแถลงให้ประชาชนทราบต่อไป

มาร์คบ่นคิดถึงเมีย-ลูก

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งระหว่างเดินจากกองบัญชาการศอ.รส.ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ไปยังหอประชุมแหล่งนายทหารกิตติสุข ร.11 พัน 2 รอ. ซึ่งห่างออกไป 500 เมตร เพื่อพูดคุยกับสื่อมวลชนอย่างไม่เป็นทางการ ให้เหตุผลว่าตลอดทั้งวันไม่ได้เจอกัน เลยอยากให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ

เมื่อถามว่ามาพักอยู่ที่ ร.11 รอ. หลายวันแล้วคิดถึงครอบครัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "คิดถึง แต่คิดถึงคนมากกว่า" เมื่อถามว่านางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา เป็นห่วงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ค่อยเท่าไหร่ ส่วนน.ส.ปราง เวชชาชีวะ บุตรสาว บังเอิญว่าช่วงที่มีการชุมนุมไปประเทศเกาหลี ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่บอกว่าอย่าให้ปิดสนามบินก็แล้วกัน

ตามดูข่าวม็อบแดงตลอด

เมื่อถามว่าตั้งเเต่อยู่ที่ศอ.รส.รับประทานอาหารวันละกี่มื้อ อ้วนขึ้นหรือไม่ ได้ออกกำลังกายบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รับประทานครบสามมื้อ แต่ไม่ได้ชั่งน้ำหนัก เเละไม่ได้ออกกำลังกาย เพราะไม่มีเวลา นอนวันละ 3-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่แต่ละวัน เมื่อถามว่าได้คุยกับทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ในศอ.รส.บ้างหรือไม่ เเละหากจบภารกิจจะมีของขวัญให้ทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คุยบ้างในช่วงที่เตรียมรับ ส่วนของขวัญนั้นคงจะต้องมีให้เยอะมาก อย่างไรก็ตามทหารที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ มีจำนวนมาก ประชาชนก็ดูเเลดี โดยเฉพาะเเถวโรงพยาบาลศิริราช

เมื่อถามว่าช่วงที่คนเสื้อเเดงเคลื่อนขบวนนั้นได้ติดตามดูความเคลื่อนไหวบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ดูบ้างเเละติดตามข่าวด้วย ไม่มีอะไรเพราะเดินไปตามเส้นทางที่ระบุไว้ ต่อข้อถามว่าการชุมนุมครั้งนี้คุยกันง่ายกว่าครั้งที่เเล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ครั้งที่เเล้วไม่ได้คุยเลย เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชมว่าคนเสื้อเเดงคุยง่าย นายอภิสิทธิ์ยิ้มพร้อมกล่าวว่า "ใช่ ตำรวจต้องคุยง่ายอยู่เเล้ว เพราะการดูเเลการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้นคล้ายว่ามีกระทบกระทั่งกันบ้าง"

เมื่อถามว่าอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการชุมนุม อาทิ พล.อ.ชวลิต ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ถือเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้ผู้ชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงเป็นความพยายามที่จะรวมกลุ่มให้เป็นรูปธรรม ในลักษณะที่เปิดเผยมากขึ้น ความจริงก็เชื่อมโยงกันมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้เปิดเผยชัดเจนขึ้น เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มเอกภาพหรือระดมทุกส่วนมาเคลื่อนไหว

ขอดูก่อนต่ออายุพ.ร.บ.มั่นคง

เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อรัฐบาลจำเป็นต้องต่ออายุพ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) เสนอความเห็นมาภายในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค. เพราะการประกาศจะดำเนินการในวันอังคารที่ 23 มี.ค. ซึ่งอำนาจที่จะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่เป็นของ ครม.ที่จะประชุมในวันอังคาร ส่วนสถานที่การประชุมขณะนี้ยังไม่ได้ตกลงกัน จะดูตามความเหมาะสม

เมื่อถามว่าเบื้องต้นกอ.รมน.เห็นว่าจะขยายถึงวันที่ 7 เม.ย. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานเข้ามา คิดว่าไม่น่าขยายยาวขนาดนั้น ต้องให้นายสุเทพประเมินเสนอมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องครอบคลุมพื้นที่เดิม อาจลดพื้นที่ลงด้วย สำหรับความจำเป็นในการออกพ.ร.ก. ฉุกเฉินนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่เกิดขึ้น

ฮึ่มถ้าปิดล้อมอีกโดนสลาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวเสียงแข็งว่า ไม่ซ้ำอยู่แล้วเพราะท่าทีต่างๆ ตั้งแต่ต้นไม่เหมือนกัน รัฐบาลสมชายมีปัญหาเพราะไปทำร้ายผู้ชุมนุมก่อน รัฐบาลนี้ไม่เคยทำร้ายผู้ชุมนุมก่อน แม้ว่าจะมีคนบิดเบือนเอาคลิปเสียงเท็จมาเพื่อให้เป็นแบบนั้น แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่าการชุมนุมหากปิดล้อมสถานที่ราชการหรือสถานที่ทำงานของนายกฯ รัฐบาลมีสิทธิ์สลายการชุมนุม แต่ตนต้องการรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง ซึ่งในช่วง 7-8 วันที่ผ่านมาก็หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเงื่อนไข แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งตนคิดว่าประชาชนคนไทยต้องการและมีสิทธิ์ที่จะให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ต้องดูกันต่อไป

"แม้ว"วิดีโอลิงก์ชื่นชม

เวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดิโอลิงก์มายังเวทีปราศรัยกลุ่มคนเสื้อแดง ชื่นชมผลสำเร็จของการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วกรุงเทพมหานครในวันนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก แม้แต่เยาวราชที่บอกว่าเป็นสีเหลืองหมดแล้ว แต่ยังเอาน้ำอาหารมาให้ มีแฟนคลับคนหนึ่งสามีเป็นมะเร็งให้ภรรยาพามาที่ราชดำเนินทุกเย็น วันต่อมาก็ทำขนมจีนมาเลี้ยงพวกเสื้อแดง แม่ค้าขายกะทิ แม่ค้าขายขนมจีนก็ไม่เอาเงิน นี่แสดงให้เห็นว่า เกิดสังคมที่ยุติธรรมและเสมอภาค ทำให้ประชาชนกลับมาด้วยวัฒนธรรมและประเพณีไทยอย่างแท้จริงอีกครั้ง บรรยากาศวันนี้ช่างงดงามเหลือเกิน

จวกสื่อรัฐหลอกตัวเอง

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า นายณัฐวุฒิ เล่าว่าเมื่อรถผ่านสีลมมีคนในซอยวิ่งออกมาแล้วร้องไห้ คนในขบวนรถก็ร้องไห้ตาม ทั้งสองฝ่ายสัมผัสกันได้ด้วยใจ ให้เรารู้ว่ากำลังโหยหาสิ่งที่หายไปในสังคมไทยนั่นคือความเป็นธรรม สิ่งที่สวยงามวันนี้เราต้องขอบใจรัฐบาลและสถานีโทรทัศน์ทุกช่องที่ติดตามความจริง โดยเฉพาะช่องหอยม่วงไปสัมภาษณ์คนไม่พอใจไม่กี่คน ต่อว่าคนเสื้อแดง การทำแบบนี้หลอกตัวเอง หลอกประชาชน สร้าง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์