เบรกทักษิณกลับ ทหารยันรอเลิกอัยการศึก

หลังจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังถูกยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้โทรศัพท์ หาเพื่อเจรจาขอเดินทางกลับประเทศไทย แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ขอให้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมก่อน ล่าสุด คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ได้ตั้งเงื่อนไขต้องให้ เหตุการณ์สงบและยกเลิกกฎอัยการศึกเสียก่อน รัฐบาลและ คมช. จึงจะพิจารณาว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยได้หรือไม่

สุรยุทธ์ เลี่ยงตอบ ทักษิณ ขอกลับไทย

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 15 ต.ค. 2549 ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดต่อมาเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทย ว่า ขณะนี้คงตอบไม่ได้ เรื่องนี้ขอไว้ก่อน วันนี้ขอตอบเฉพาะเรื่องต่างประเทศ ส่วนเรื่องในประเทศขอเก็บไว้ก่อน เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ได้มาหารือเรื่องอะไร ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปเยือนกัมพูชา พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่าได้หารือกันเรื่องกฎอัยการศึกจะนำเข้าหารือในที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ต.ค.นี้ จากนั้นจะชี้แจงให้สื่อมวลชนและต่างประเทศ เข้าใจถึงวิธีการผ่อนคลายให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยจะคำนึงถึงข้อห่วงใยของนานาชาติ และความเหมาะสมของประเทศไทยเองด้วย

เล็งหาช่องผ่อนคลายกฎอัยการศึก

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องหารือถึงเรื่องวิธีการผ่อนคลายกฎอัยการศึกกับ คมช.หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่าต้องดูผลการหารือใน ครม.ว่า จะให้กลับไปหารือใน คมช. หรือไม่ ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว เมื่อถามว่าแนวทางในการผ่อนคลายกฎอัยการศึกจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ขอหารือใน ครม.ก่อน ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด ขอให้ อดใจอีก 2 วัน อย่าใจร้อน เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกทั้งฉบับหรือไม่ พล.อ. สุรยุทธ์ตอบว่า ส่วนตัวอยากดำเนินการยกเลิกให้เร็ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม ที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ ถึงช่วงเวลาเหมาะสมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี ได้ติดต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเดินทางกลับเข้าประเทศไทยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่เข้าใจว่านายกฯคงได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้กันบ้างแล้ว เมื่อถามว่าการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบด้วยหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่าต้องดูปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งมีอยู่มาก เมื่อถามว่านายกฯต้องหารือกับ คมช.ในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า คมช.คงต้องช่วยเหลือและให้ข้อมูลแก่นายกฯ พร้อมดูเรื่องความเคลื่อนไหวภายในประเทศประกอบ ขณะนี้เท่าที่ดูทุกคนเริ่มเข้าใจและร่วมมือในการปรับแก้รัฐธรรมนูญ หลังจากเกิดข้อขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเมื่อปีที่แล้ว หากทุกคนกลับเข้าสู่จุดมุ่งหมายเดิม การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะใช้เวลาอีกเล็กน้อย และจะเข้าสู่การเลือกตั้งได้เร็ว

พูดเป็นนัยเตรียมดำเนินคดีอดีตนายกฯ

เมื่อถามว่า ได้กำหนดกรอบเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทยแล้วหรือยัง พล.อ.อ.ชลิตตอบว่ายังไม่ได้คิด และยังไม่ได้หารือไปถึงจุดนั้น แต่คงไม่นาน เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเดินทางกลับประเทศ โดยอ้างว่ามาชี้แจงเรื่องทรัพย์สิน ถือว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่า ต้องขึ้นอยู่ กับประเด็น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลยว่าจะมีคดีใดบ้าง เมื่อถามว่า ประเด็นที่ คมช.เป็นห่วงที่สุดหาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับมา คือเรื่องอะไร พล.อ.อ. ชลิตตอบว่า คงเป็นเรื่องสถานการณ์และความสงบ เลิกกฎอัยการศึกขึ้นอยู่กับสถานการณ์

พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า ส่วนกรณีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกนั้น เรื่องนี้ได้มีการคุยกันขั้นต้นบ้างแล้ว คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน เมื่อถามว่า ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้จะประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกได้หรือไม่ พล.อ.อ. ชลิตตอบว่าตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากสถานการณ์ลดความเข้มข้นลงไปเรื่อยๆก็ต้องเลิก เมื่อถามว่า คมช.บางคนอยากให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ พล.อ.อ.ชลิตตอบว่าไม่ทราบ คิดว่าภายใน 1-2 เดือน หากทุกคนร่วมมือแก้ปัญหาบ้านเมือง สถานการณ์จะลดความเข้มข้นลง เมื่อถึงเวลาก็ต้องยกเลิกอยู่ดี ส่วนกรณีที่ต่างประเทศเป็นห่วงเรื่องการไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล และ คมช. ก็ทราบดี และต้องแก้ไขกันต่อไป

รมว.กห.ขวาง ทักษิณ กลับเมืองไทย

พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม หรือ บิ๊กรอด ให้สัมภาษณ์ว่า โดยหลักการแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้ ถือเป็นสิทธิของประชาชน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณทราบดีว่าควรจะกลับมาหรือไม่ และควรมองว่าช่วงนี้เหมาะสมกลับประเทศไทยหรือไม่ หากกลับมาแล้วจะทำให้เหตุการณ์ที่เรียกว่า คลื่นใต้น้ำ ทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกัน เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง นายกรัฐมนตรี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต้องพิจารณาว่า การเดินทางกลับมาช่วงนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณมีผลต่อความมั่นคงหรือไม่

พล.อ.บุญรอดกล่าวอีกว่า ในช่วงต้นต้องรอเลิกประกาศกฎอัยการศึกเสียก่อน จะเป็นคำตอบว่าสถานการณ์นิ่ง คิดว่าคงไม่นานเกินรอ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาคงต้องหลังยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก จึงจะพิจารณาว่าควรจะกลับมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว รัฐบาลและกระทรวงกลาโหมต้องเตรียมแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติประมาณช่วงวันที่ 24 ต.ค.นี้ หลังจากนี้จะได้พิจารณาว่ามีกฎหมายใด เรื่องใดที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะต้องพิจารณาเสนอต่อไป

คตส. ไม่หวั่น ทักษิณ กลับไทย

ด้านนายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ติดต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเดินทางกลับมาประเทศไทยว่า พ.ต.ท. ทักษิณจะกลับประเทศไทยหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของ คตส.และไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน เพราะ คตส.มีหน้าที่ทำงานให้เป็นไปตามประกาศของ คปค.ฉบับที่ 30 และ ระเบียบของ คตส.มีความชัดเจนในการทำหน้าที่ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าจะกระทบต่อการตรวจสอบข้อมูล พยาน หลักฐานของ คตส.นั้น ตรงนี้ก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะคตส.มีอำนาจในการเรียกข้อมูล เอกสาร หลักฐาน หรือแม้แต่ พยานก็สามารถดำเนินการได้

ครป.ขวางอดีตนายกฯกลับประเทศ

ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงว่า จากการหารือในระดับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นจำเลยทางการเมือง และเป็นสาเหตุให้เกิดการยึดอำนาจ จึงต้องย้อนถามตัวเองก่อนว่า หากกลับมาจะมาในฐานะอะไร แม้จะเป็นสิทธิที่กลับมาได้ แต่สถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่ปกติ มีประชาชนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าอดีตนายกฯคนนี้ ถูกกลั่นแกล้งและปรักปรำ ดังนั้นหากกลับมาก็จะทำให้มวลชนที่สนับสนุน เกิดความฮึกเหิมพากันเคลื่อนไหวต่อต้านคมช.ได้ แต่ถ้ายังดื้อจะกลับมาจริงๆก็ต้องมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อตรวจสอบทุจริต อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ จะทำหนังสือถึงคมช. เพื่อค้านการอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย และขณะนี้กลุ่มภาคประชาชน อาทิ เครือข่ายแพทย์พยาบาลทั่วประเทศ กลุ่มญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อการปฏิรูปการเมือง กำลังเตรียมตัวก่อหวอดเคลื่อนไหว เพื่อต่อต้านการกลับมาของอดีตนายกฯแล้ว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุ ว่า ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเดินทางกลับประเทศไทยว่า ฟังดูแล้วไม่ชัดเจนว่าจะให้หรือไม่ให้กลับมา แม้ได้ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยมีสิทธิ์กลับประเทศไทยได้ตามหลักสัญชาติและรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ยังอ้างเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ถ้าหากดูแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ส่งมาจากประเทศอังกฤษแล้ว จะเห็นได้ ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ภายในประเทศ เมื่อประกอบกับจุดยืนของนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อปะทะกันแล้ว ทำให้เห็นชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยและผู้สนับสนุนจะไม่มีใครออกมาเคลื่อนไหว ยืนยันว่าคลื่นใต้น้ำจะไม่เกิดจากพรรคไทยรักไทย

ยืนยัน ทรท.ยอมสยบกติกา คมช.

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีโอกาสกลับมาประเทศ ไทยหรือไม่ รองโฆษกพรรคไทยรักไทยตอบว่า หากทุกฝ่ายทำตามคำพูดก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร พรรคไทยรักไทยหรือพรรคต่างๆก็รับกติกาของ คมช.ทุกอย่าง ส่วนเรื่องการคัดค้านการปฏิวัติยึดอำนาจนั้น เห็นด้วยกับที่นายจาตุรนต์ระบุไว้ว่า ขณะนี้เลยเวลานั้นมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือต้องดูว่าการร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ให้สิทธิประชาชนในการมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน และจะเกิดการเลือกตั้งเมื่อใด ถ้าทุกฝ่ายไม่มีการระแวงกันปัญหาก็จบ ยืนยันว่าผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทยทุกภูมิภาคจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว และอดีต ส.ส. ของพรรคก็คงไม่กล้าทำเช่นนั้น เพราะนายจาตุรนต์ได้สั่งการมาแล้ว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ