ชวนผูกริบบิ้นขาว-ติดธงชาติยุติเหตุนองเลือด

 

คมชัดลึก :เครือข่ายหยุดทำร้ายปทท.ชวนคนไทยติดธงชาติ ต้านความรุนแรงหรือผูกริบบิ้นขาวรณรงค์ วอนทุกฝ่ายยึดสันติวิธี “ปริญญา”ชี้มีแนวโน้มรุนแรง ให้ช่วยกันระงับ นักสันติวิธีห่วงคนกรุงเริ่มผวาจี้รัฐฟื้นเชื่อมั่นอย่าโต้ตอบ

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เวลา 12.00 น.วานนี้(10มี.ค.)ตัวแทนเครือข่ายหยุดทำร้ายประเทศ-หยุดใช้ความรุนแรง

อาทิ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผ.อ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ นายกสมาคมนักข่าวฯ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยช่วยกันระงับยับยั้งความรุนแรง
พล.อ.เอกชัย กล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดทนต่อการยั่วยุ ซึ่งอาจทำให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลต้องเคารพสิทธิเสรีภาพการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการควบคุมการชุมนุมต้องใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็นไม่ติดอาวุธ โดยมีเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันตัวขณะที่ผู้ชุมนุมก็ต้องอยู่ในขอบเขตการไม่ใช้ความรุนแรงและไม่มีอาวุธเช่นเดียวกัน รัฐบาลและแกนนำผู้ชุมนุมควรจะต่อสายตรงเพื่อแก้ปัญหาป้องกันความรุนแรง ส่วนประชาชนกลุ่มต่างๆที่เป็นพลังเงียบซึ่งอาจมีจุดยืนต่างกับผู้ชุมนุมก็ควรอดทนไม่ใช่ความรุนแรงแก้ปัญหา


“ เครือข่ายขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมรณรงค์ไม่เอาความรุนแรงด้วยการใช้สัญลักษณ์เช่นติดธงชาติที่หน้าบ้านหรือที่ทำงาน สวมเสื้อสีขาว หรือผูกริบบิ้นขาวหรือใช้ดอกไม้หรือสัญลักษณ์ใดๆที่สื่อถึงสันติภาพและการไม่ใช้ความรุนแรง รวมทั้งขอเชิญประชาชนร่วมกันส่งข้อความ “ไม่เอาความรุนแรง” ไปยังประชาชนกลุ่มต่างๆเพื่อช่วยกันสร้างพลังของสังคมไทยในการระงับยับยั้งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นครั้งนี้”พล.อ.เอกชัย กล่าว


นายปริญญา กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง

ดังนั้นเราจึงต้องมาช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองเดินหน้าได้โดยไม่มีความรุนแรงเหมือนที่เราเคยได้ทำในหลายครั้งที่ผ่านมาอย่างน้อย 4 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เชื่อว่าจะทำได้ ทั้งรัฐบาลและผู้ชุมนุมต่างต้องเคารพซึ่งกันและในที่สุดการพูดคุยจะเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) ทางเครือข่ายจะการเดินรณรงค์ “หยุดทำร้ายประเทศ -หยุดใช้ความรุนแรง” ที่บริเวณห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง และจะรณรงค์อื่นๆอย่างต่อเนื่อง


นายประสงค์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ามีการปลุกระดมผ่านสื่อ ขณะนี้ต้องยอมรับว่าสื่อจำนวนหนึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะในอดีตตั้งแต่ 6 ตุลา 19 หรือ 14 ตุลา 16 ก็ใช้สื่อเป็นเครื่องมือมาตลอด แต่อยากเตือนในช่วงให้สื่อระมัดระวังการเสนอข่าว อาทิ ถ้อยคำที่ใช้พาดหัวหนังสือพิมพ์หรือนักจัดรายการเล่าข่าวทางวิทยุโทรทัศน์ ไม่ควรใช้ถ้อยคำหรือท่าทีดูถูกเหยียดหยาม ถากถาง กลุ่มที่ตัวเองไม่ชอบ เพราะเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
ขณะที่กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง ที่มีน.ส.สารี อ๋องสมหวัง เป็นผู้ประสานงาน ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง “ทำกรุงเทพให้เป็นบางรัก 14 มี.ค.วันแห่งความรักสันติ) โดยเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ชุมนุมยึดมั่นในสันติวิธี ขอให้ชุมนุมในที่ตั้งไม่กระจายจนปิดกรุงเทพ เพราะจะเป็นการยั่วยุทำให้เกิดปัญหาฉุกเฉินเช่นการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล รวมทั้งขอให้ผู้ชุมนุมหยุดให้ข่าวในเชิงสั่งการให้ใช้ความรุนแรงเช่นการเตรียมนำน้ำมันเข้ากรุงเทพ รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วยระงับเหตุ พร้อมกันนี้ได้นัดหมายประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงรวมตัวกันรณรงค์ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม แยกปทุมวัน กทม.ในวันพรุ่งนี้(11มี.ค.) เวลา 14.30 น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์