ให้ประกันเสธ.แดงและพวก ยกเว้นเคทอง

 

คมชัดลึก : ศาลอนุญาตฝากขังครั้งแรก “ เสธ.แดง – เค ทอง กับพวก รวม 8 คน” กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่ ตร.ค้านประกันตัว กลัวหนี ก่อเหตุอันตรายช่วงเสื้อแดงใกล้ชุมนุม ด้านนายประกัน หอบโฉนด นครนายก - นครปฐม 3 ไร่เศษ ราคา 1,875,900 บาท ยื่นประกัน ล่าสุดศาลให้กันตัวเสธ.แดงและพวกยกเว้นเคทอง


เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติต้องโทษผู้ต้องหา

จากกองทะเบียนประวัติและอาชญากรรวมทั้งผลการตรวจสอบข้อมูลทางคอมพิวเตอร์จากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาถูกออกหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลจังหวัดมีนบุรี ในความผิดฐานตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 หากได้รับการประกันตัวเกรงว่าจะหลบหนีเนื่องจากถูกดำเนินคดีหลายสำนวนและจะก่อให้เกิดภยันตรายต่อสาธารณชนและบุคคลทั่วไปเนื่องจากผู้ต้องหาได้ประกาศให้เป็นที่ปรากฎแก่ประชาชนว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดเหตุระเบิด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวม 4 สาขา ตามที่ปรากฎเป็นข่าว นอกจากนี้ยังได้มีการนำกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนมากดดันการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนหรือมาปิดล้อมกองบังคับการปราบปรามซึ่งเป็นสถานที่ราชการดังปรากฎเป็นภาพข่าวในวันที่ผู้ต้องหากับพวกถูกจับกุมตามหมายจับพร้อมอาวุธปืน ประกอบกับการสอบสวนไม่พบว่าผู้ต้องหาประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งเพียงแต่มีอาชีพรับจ้างเท่านั้น


คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่าระหว่างวันที่ 26 - 27 ก.พ. เวลา 23.05 -02.52 น. นายพรวัฒน์ ผู้ต้องหา

ได้จัดรายการเผยแพร่ภาพและเสียงผ่านระบบแคมฟ็อกทางอินเตอร์เน็ท โดยปรากฏข้อความว่า " อย่างที่ผมบอก สัญญาณของระเบิด จะดังขึ้น และไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ต้องถามเลยนะครับว่าใครทำ..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ประกาศสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป สงครามกลางเมืองเกิดแล้วครับ ใครที่เล่นหุ้น ใครที่ถือหุ้น ถอนออกมาซะ ระเบิดจะดังขึ้นทุกวัน..." ซึ่งต่อมาข้อความรวมทั้งภาพและเสียงดังกล่าวได้ปรากฏอยู่ในเว็บไซด์
WWW.YOUTUBE.COMซึ่งมีการเผยแพร่ให้ปรากฎแก่ประชาชนและก่อให้เกิดความตื่นตระนกโดยต่อมาวันที่ 27 ก.พ.เวลา 21.00 น.เป็นต้นไปก็ได้เกิดเหตุการระเบิดที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาสีลม แสมดำ ศรีนครินทร์ และพระประแดง รวม 4 จุด กระทั่งวันที่ 6 มี.ค. เวลา 16.00 น.ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 5 มี.ค.53 และหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ลงวันที่ 4 มี.ค.53 โดยพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้รับโอนคดีจากพนักงานสอบสวน บช.น.ซึ่งดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นเท็จ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา กระทำการให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวิธีอื่นใดที่มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรและขู่เข็ญผู้อื่นให้เกิดความกลัวหรือตกใจในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้


ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก


พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อายุ 59 ปี , ว่าที่ ร.ต.สุรภัศ จันทิมา อายุ 27 ปี, นายมงคล สารพัน อายุ 43 ปี, นายจักรชลัส คงสุวรรณ อายุ 37 ปี นายเริงฤทธิ์ ตุ้มทองคำ อายุ 50 ปี นายจรัญ ลอยพูล อายุ 40 ปี นายสุวิทย์ คีรีรักษ์ อายุ 39 ปี และนายพรวัฒน์ หรือ เคทอง ทองธนบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 1-8 ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม.7 - 8 และประมวลกฎหมายอาญา ม.83, 189 และ 371 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 - 19 มี.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก รอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา และอาวุธปืน


ตามคำร้องสรุปพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.53 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบ ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 – 8 ได้พร้อมอาวุธปืนพกสั้นเครื่องกระสุนปืน และอาวุธมีดรวม 8 รายการ

และรถยนต์ตู้โตโยต้าสีขาวหมายเลขทะเบียนตรากงจักร 2481 จำนวน 1 คัน โดยพล.ต.ขัตติยะ ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นนายทหารสัญญาบัตรอยู่ระหว่างพักราชการตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง นำความเสื่อมเสียมาสู่สถาบันกองทัพ สร้างความแตกแยกในหมู่คณะและสังคมส่วนรวม กับพวกรวม 8 คนได้นั่งรถยนต์ตู้ดังกล่าวซึ่งติดแผ่นป้ายทะเบียนพร้อมเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นรถที่ใช้ในราชการทหาร และบังอาจพกพาอาวุธปืนของกลางจำนวน 5 กระบอกเข้ามายังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นสถานที่ราชการโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบว่าผู้ต้องหาที่ 1 – 7 ได้ให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นนายพรวัฒน์ หรือ เค ทอง ผู้ต้องหาที่ 8 ซึ่งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมโดยซ่อนไว้ในรถตู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมทั้งหมดดำเนินคดีข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันควร , ร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้นหรือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆไม่ให้ถูกจับกุม ชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 8 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 เนื่องจาก พล.ต.ขัตติยะผู้ต้องหาที่ 1


เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่กองปราบปรามมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และมียุทธภัณฑ์จำนวน 16 รายการไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคดีดังกล่าวผู้ต้องหาได้เลื่อนนัดหลายครั้งมีพฤติการณ์จะหลบหนี โดยเดินทางเข้าออกต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอออกหมายจับนำตัวส่งพนักงานอัยการต่อไป ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1 มีพฤติการณ์ให้ข่าวลักษณะที่มีการข่มขู่ผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งว่าจะมีการประทุษร้ายบุคคลสำคัญ ทรัพย์สิน และสถานที่ราชการสำคัญ รวมทั้งผู้ที่จะมาชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุร้ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ และยังมีการประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธในนาม “นักรบพระเจ้าตาก” มาแล้วในอดีต อีกทั้งในวันเกิดเหตุคดีนี้ผู้ต้องหาที่ 1 ยังได้พาผู้ต้องหาที่ 2 – 8 พกพาอาวุธปืนและมีดไปสถานที่ต่างๆและเข้ามาในกองปราบปรามโดยไม่ย้ำเกรงต่อกฎหมาย

ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 – 8 ยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดงหรือ นปช. ซึ่งจะมีการชุมนุมในระยะเวลาอันใกล้นี้

จึงอาจสร้างความวุ่นวายและความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติหรืออาจก่อเหตุอันตรายในประการอื่นให้กับสังคมในที่สาธารณะและที่ส่วนบุคคล สำหรับผู้ต้องหาที่ 2 – 8 มีรายงานการสืบสวนว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่พยายามใช้ความรุนแรงในการก่อเหตุเพื่อให้เกิดความวุ่นวายภายในประเทศ และยังปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนว่าผู้ต้องหาที่ 8 พูดจาข่มขู่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 8 ยังมีความสัมพันธ์ทางการเมืองด้วยกันในนามพรรคขัตติยะธรรม ดังนั้นหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุอันตรายหรืออาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมานายณฤเมธ ภูพวงจันทร์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน จ.นครนายก และ จ.นครปฐม ประมาณ 3 ไร่เศษ ราคาประเมิน 1,875,900 บาท ขอประกันตัว พล.ต.ขัตติยะ กับพวกรวม 8 คนในคดีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล


ส่วนนายพรวัฒน์ หรือ เค ทอง ซึ่งถูกยื่นคำร้องฝากขัง สำนวนกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ที่ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. นำตัวมาฝากขังครั้งแรกในวันเดียวกันนี้ ยังไม่ปรากฏว่าได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ประกันตัวแต่อย่างใด

       
ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัว เสธ.แดงกับพวกออกไป ส่วนนายพรวัฒน์ หรือเคทองนั้น ศาลเห็นว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการก่อการร้าย หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอาจไปกระทำผิดซ้ำอีก จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ภายหลังศาลอ่านคำสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายพรวัฒน์ไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการนำตัว พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง กับพวกมายื่นคำร้องฝากขัง ในวันนี้ พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รองผู้บังคับการกองปราบปราม นำกำลังตำรวจคอมมานโดอาวุธครบมือประมาณ 100 นาย ควบคุมตัวพล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง , นายพรวัฒน์ หรือ เค ทอง และพวกรวม 8 คน มายังศาลอาญาตั้งแต่เวลา 08.00 น.โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ ราว 30 คน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์