ยกฟ้องประทินชกอดีต ส.ว. หลังยอมความเหตุเข้าใจผิดแย็บป้องกันตัว

"เข้าใจผิดแย็บป้องกันตัว"


ศาลยกฟ้อง พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ชกอดีต ส.ว.แม่ฮ่องสอน กลางวงประชุมสภาสูง หลังคู่ความยอมเจรจาไกล่เกลี่ย เหตุจำเลยเข้าใจผิดปล่อยหมัดแย็บป้องกันตัวไม่มีเจตนาประสงค์ทำร้าย

ศาลออกนั่งบัลลังก์พิพากษาคดีที่พนักงานอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร ฐานทำร้ายร่างกายนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ว.แม่ฮ่องสอน จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ กรณีที่ พล.ต.อ.ประทิน ชกใบหน้าของนายอดุลย์กลางที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2547 ขณะกำลังอภิปรายถึงเรื่องปัญหาการค้ายาเสพติดกับขุนส่า เนื่องจากขุนส่ามีเขตพื้นที่ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน ด้วย ผู้เสียหายเป็น ส.ว.แม่ฮ่องสอน เกรงว่าคนจะเข้าใจผิดว่าผู้เสียหายไปรู้เห็นเกี่ยวข้อง

"ทำความเข้าใจและให้อภัยต่อกัน"


จึงถือโอกาสเข้าไปถามจำเลยว่าที่พูดหมายถึงใคร การเข้าไปสอบถามอย่างรีบร้อนเนื่องจากจะรีบไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ประสงค์จะเข้าไปทำร้ายหรือทะเลาะวิวาทแต่อาจทำให้จำเลยเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้ จำเลยเข้าใจว่าผู้เสียหายโกรธและเข้ามาจะทำร้ายจึงชกออกไปที่ผู้เสียหายลักษณะเป็นหมัดแย็บ ต่อมามีเพื่อน ส.ว.เข้ามาห้าม ซึ่งผู้เสียหายรับว่าลักษณะของเรื่องเป็นเรื่องการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ดังนั้น ผู้เสียหายกับจำเลยได้ทำความเข้าใจกันและให้อภัยต่อกัน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเข้าใจผิดคิดว่านายอดุลย์จะทำร้าย ซึ่งถ้าหากจะมีการทำร้ายจริง จำเลยก็มีสิทธิป้องกันตัวได้ตามกฎหมาย และการที่จำเลยชกหมัดแย็บออกไป โดยไม่ได้ใช้อาวุธ ทำให้นายอดุลย์ได้รับอันตรายแก่กายเพียงแค่ฟกช้ำ 2 แห่ง แสดงว่าจำเลยไม่ได้ประสงค์ให้นายอดุลย์ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง พฤติการณ์เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ แม้ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่มีอยู่จริง แต่จำเลยสำคัญผิดคิดว่ามีอยู่จริง

"เข้าลักษณะป้องกันตัว"


การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด เข้าลักษณะเป็นการป้องกันตัว ด้วยเหตุสำคัญผิดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ประกอบมาตรา 62 จึงพิพากษายกฟ้อง

ภายหลังไกล่เกลี่ยและมีคำพิพากษา พล.ต.อ.ประทิน เปิดเผยว่า ศาลยุติธรรมยังเป็นที่พึ่งสุดท้ายได้ คดีนี้ศาลยกฟ้อง แต่ถ้าศาลลงโทษก็ยอมรับ สำหรับนายอดุลย์นั้นเวลาเจอกันก็ยิ้มแย้มให้กัน ไม่ติดใจเอาความกันอีก เพราะมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาขอโทษ

ขณะที่นายอดุลย์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ติดใจเอาความกันแล้ว และไม่ขอเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น เพราะเรื่องบางเรื่องไม่ควรรื้อฟื้นเพื่อให้เกิดอาการขุ่นมัวกันอีก


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์