แดงต้านเนวินเหยียบโคราชร่วมงานแข่งฟุตบอล

คมชัดลึก :นปช.นัดชุมนุมใหญ่ที่ลานย่าโม 5 มี.ค.พร้อมบุกเยี่ยมบ้านแม่ทัพของ "ป๋าเปรม" ด้านแกนนำเสื้อแดงโคราชลั่นนักกีฬาบุรีรัมย์มาแข่งที่โคราชได้แต่จะต้องไม่มีคนชื่อ”เนวิน” มายืนอยู่ข้างสนาม

นายเขื่อนเพชร กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นวันที่ 12 มี.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงอีสานจาก 19 จังหวัด ได้นัดหมายรวมตัวกันที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในช่วงบ่าย จากนั้นก็จะเคลื่อนขบวนคนเสื้อแดงอีสานคาดว่าจะประมาณ 300,000 คน ด้วยรถอีแต๋น รถกระบะ รถ 6 ล้อ ไปตามถนนมิตรภาพเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามหลวง กทม. สมทบกับ นปช.จากจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศร่วมกันขับไล่รัฐบาลอำมาตย์ เพื่อทวงคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน

นายเขื่อนเพชร กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ชัยภูมิ ที่ไปล้อมสนามกีฬากลาง จ.ชัยภูมิ เพื่อไม่ให้ นายเนวิน ชิดชอบ และทีมฟุตบอลดิวิชั่น 2 ของ จ.บุรีรัมย์ ลงแข่งนั้นว่า

สำหรับเสื้อแดงโคราชเห็นว่าการแข่งขันกีฬากับการเมืองสามารถแยกแยะกันได้ แต่ถ้ามี นายเนวิน ชิดชอบ ไปยืนอยู่ข้างสนามทุกแห่งในเมืองโคราชเมื่อไหร่เสื้อแดงโคราชก็จะขับไล่และประจานให้คนทั่วไปรู้ว่า นายเนวิน เป็นคนทรยศและเนรคุณผู้มีพระคุณเช่นเดียวกันกับที่เสื้อแดงชัยภูมิแสดงออก  

"นายเนวิน มีสิทธิ์มา จ.นครราชสีมา ได้แต่ถ้าเสื้อแดงรู้ต้องเจอกันแน่ ส่วนกรณีนักกีฬาไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดใดของจ.บุรีรัมย์สามารถเดินทางมาแข่งขันที่ จ.นครราชสีมาได้ ถ้าไม่มี นายเนวิน มาด้วย" นายเขื่อนเพชร กล่าว

พ.ต.อ วณัฐ  อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้างานความคุมความมั่นคง และกิจกรรมพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ว่า

ในช่วงเวลานี้ อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ หรือก่อการณ์ไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ มักจะใช้พื้นที่ในเขต จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่แสดงกิจกรรมทางการเมือง และยังเป็นที่ตั้งบ้านพักประธานองคมนตรี ริม ถ.สืบศิริ และบ้านพักแกนนำกลุ่มการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง และสีแดง จึงมีการเปรียบโคราช เป็นสายล่อฟ้าทางการเมือง

"เบื้องต้นเราจะเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยบ้านพักของประธานองคมนตรี และ ศาลากลางจังหวัด ตลอดจนสถานที่ราชการสำคัญ เช่น สำนักงานอัยการ เขต 3 สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 3 โดยจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ ตระเวนออกตรวจตราทุกๆ 30 นาที พร้อมกับการตั้งด่านตรวจ ตามเส้นทางโดยรอบ นอกจากกำลังชุดควบคุมฝูงชน ที่มีจำนวน 6 กองร้อย จำนวนกว่า 700 นาย พร้อมอุปกรณ์การสลายการชุมนุมจะเตรียมพร้อมในที่ตั้ง"

  
หัวหน้าชุดควบคุมความมั่นคง กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังต้องคุมเข้มสถาบันการเงิน หรือสถานที่ราชการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

โดยเฉพาะธนาคารกรุงเทพ ที่มีหลายสาขาในพื้นที่รับผิดชอบ ตนจะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบการทำงานของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และอาจจะมีการติดตั้งเพิ่มเติมในบางจุด ที่จะต้องพร้อมตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะเป็นพยาน หลักฐาน และเบาะแสสำคัญ หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น ส่วนสถานีตำรวจ 51 แห่ง จะมีการตั้งด่านตรวจ 24 ชั่วโมงในเส้นทางหลัก โดยเฉพาะทางแยกทางร่วมที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ กทม.จะเน้นการตรวจค้นหาสิ่งผิดกฏหมาย โดยห้ามสกัดกั้นการเดินทางของกลุ่มมวลชนไม่ว่าจะเป็นสีไหนอย่างเด็ดขาด หากทุกอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถสัญจรผ่านได้ทันที ซึ่งจะมีบางครั้งที่การสัญจรผ่าน ต้องเสียเวลาในการผ่านด่านตรวจ ซึ่งเป็นมาตราการการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินเบื้องต้น

"นอกจากนี้จะมีการลงพื้นที่หาข้อมูลทางลับ พร้อมกับเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลเป้าหมาย หากพบการชุมนุมของกลุ่มมวลชน เราจะไม่ขัดขวาง แต่จะชี้แจง ทำความเข้าใจ ให้ทุกฝ่ายยึดหลักสันติวิธี อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง เรายังไม่พบสิ่งบอกเหตุที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่"