สุริยะใส เชื่อ มือยิงระเบิดข้างทำเนียบเป็นพวกมีส

“สุริยะใส” เชื่อมือยิงระเบิดข้างทำเนียบเป็นฝีมือพวกมีสีและเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุ ยิงห้องทำงาน ผบ.ทบ.และกลุ่มพันธมิตร พร้อมจวก “สุเทพ”ทบทวนบทบาทตัวเองใหม่...

นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคฯ ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน

โดย นายสุริยะใส กล่าวถึง กรณีการยิงเอ็ม 79 เข้าใส่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ข้างทำเนียบฯ และกรณีการวางระเบิด ที่ศาลฏีกา ว่า น่าจะเป็นขบวนการเดียวของการยิงระเบิดเข้าใส่กองบัญชาการกองทัพบก กระทรวงกลาโหม และที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ สถานการณ์พิเศษเช่นนี้ คิดว่า ต้องเป็นคนมีสีเท่านั้น ถึงจะทำได้ อีกทั้ง การวางระเบิดครั้งนี้น่าจะเป็นการหวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะอาจจะสะสมสถานการณ์ไปจนวันใกล้วันแตกหักซึ่งอาจจะเป็นช่วงวันพิพากษายึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท และอ้างสถานการณ์ดังกล่าวไปเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง

“อยากจะบอกกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ว่า วิธีการแบบนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับประเทศไทย 12 วัน จากนี้ไปก่อนคำพิพากษาคดียึดทรัพย์จะมาถึง คนที่ตนอย่างจะสื่อสารมากที่สุด คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องพิจารณาตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นความล้มเหลวที่ซ้ำซาก ที่เป็นการทำลายระบบทั้งประเทศอย่างปฎิเสธไม่ได้ ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังคิดว่าประเทศมีทางออก ควรจัดระเบียบงานด้านความมั่นคงและข่าวกรอง อีกทั้ง อยากเรียกร้องให้ประชาชนทั้งประเทศหาแนวทางป้องกันตัวเองไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะพึ่งรัฐได้อย่างไร ขนาดผู้นำประเทศยังไม่ได้รับความปลอดภัย และประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยใส ยังกล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดง ว่า ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ก่อนหรือหลังวันที่26 ก.พ.

ขอตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าแกนนำ นปช. เคยบอกว่าจะยึดมั่นแนวทางสันติวิธีจริง ต้องชุมนุมหลังวันที่ 26 ก.พ. ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดียึดทรัพย์76,000 ล้านบาท ว่าควรยึดหรือไม่ หากตัดสินใจชุมนุมก่อนวันพิพากษานั้นหมายความว่า กลุ่ม นปช. มีความจงใจจะผสมโรงกับสถานการณ์ที่ตรึงเครียดอยู่แล้ว และ โอกาสที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงนั้นเป็นไปได้สูง ดังนั้น มันถึงเวลาแล้วที่ แกนนำ นปช. จะต้องคำนึงถึงคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำเพื่อคนๆหนึ่ง ทั้งนี้ หวังว่า สถานการณ์วันนี้จะทำให้แกนนำ นปช. และกลุ่มเสื้อแดง ช่วยกันลดเงื่อนไขความรุนแรง

ส่วนกรณีที่ต่างประเทศออกแถลงการณ์ ให้พลเมืองหยุดเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงดังกล่าว ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่

การที่เชิญตัวแทนทูตแต่ละประเทศมาชี้แจงอย่างเดียวไม่คงพอ ดังนั้น ควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัย และ ความมั่นใจของคนไทยทั้งประเทศว่า เราจะผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปได้ อย่างไม่สูญเสีย และไม่เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงยังมีแนวทางปฎิบัติแบบเก่า คือ ยังมองว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังปกติอยู่ ตนจึงอยากบอกว่า สถานการณ์นั้นไม่ปกติมานานแล้ว จึงอยากให้นายกฯทบทวนว่าเงื่อนไขความรุนแรงที่เกิดวันต่อวัน สุดท้ายจะนำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด

ด้านนายสำราญ กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ว่า แม้ว่าทางพรรคฯ จะเข้าใจถึงอุปสรรค ข้อจำกัดของนายกฯ ในการตั้ง ผบ.ตร.

แต่การที่ปล่อยให้ตำแหน่ง ผบ.ตร. ตัวจริงว่างเว้นมาร่วม 5 เดือน ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลดำเนินไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้ง ยังทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา จึงเห็นว่า ขณะนี้หรือหลังผ่านช่วงสงครามเสื้อแดง น่าจะเป็นช่วงเวลาที่นายกฯ สามารถตัดสินใจแต่งตั้ง ผบ.ตร. ตัวจริงได้แล้ว ในฐานะนายกฯเป็นประธาน กตช. ต้องตัดสินใจตัวเลือกที่ดีที่สุด อาจจะเป็นตัวเลือกเดิม คือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการแทน ผบ.ตร. หรือตัวเลือกใหม่ที่เหมาะสมที่สุด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์