นายกฯเรียกถก รรท.ผบ.ตร. ปม3นายพล

นายกฯ เผย หารือ "ปทีป" เตรียมให้ กฤษฎีกา วินิจฉัยคดี 3 นายพล   โชว์ลีลา พลิ้ว อาจประชุม ก.ต.ช.ได้ ผบ.ตร.คนใหม่ เดือน ม.ค.นี้ ด้าน ป.ป.ช.โยนนายกฯชี้ขาดคดี 3 นายพลกลับ-ไม่กลับรับราชการ

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

กล่าวถึงการเรียกพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เข้าหารือเมื่อเช้าวันที่ 18 ม.ค.ว่า ตนเรียกพล.ต.อ.ปทีปมาสอบถามเรื่องมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ว่า ตกลงแล้วสิ่งที่ ก.ตร. มีมติในคดี 3 นายพล จะดำเนินการอย่างไร โดยพล.ต.อ.ปทีป ชี้แจงว่าขณะนี้ ก.ตร.ต้องส่งมติก.ตร.ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เมื่อถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีอำนาจในการออกคำสั่ง  เป็นอำนาจ พล.ต.อ.ปทีป ส่วนกรณีของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.จะเป็นอำนาจตน แต่มีความเป็นไปได้ว่า รรท.ผบ.ตร.จะส่งมติก.ตร.ดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอคำวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนายกรัฐมตรีจะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า

"ของผมก็ไม่ต้อง เพราะเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดจะอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มาถึงผม "เมื่อถามว่า หมายความว่าดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีกับรรท.ผบ.ตร.ตรงกันแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  รรท.ผบ.ตร.เห็นว่ามีปัญหาทางข้อกฎหมาย ดังนั้นคงจะไปแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ 3 ตำรวจกลับเข้ารับราชการใช่หรือไม่ นาอยภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังเข้าใจว่ารรท.ผบ.ตร.จะต้องไปหาข้อยุติในข้อกฎหมายให้ชัดเจนไปเลย เมื่อถามอีกว่าในส่วนของนายกรัฐมนตรีตัดสินใจในการดำเนินการได้แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของตนยังไม่มาถึง ต้องอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อถามต่อว่า ถ้าเรื่องมาถึงตัดสินใจได้เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้เรื่องจะมาหรือไม่ เพราะเรื่องอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติถ้าเกิดมีข้อยุติเป็นมติที่ใช้ไม่ได้ก็กลับไปที่ ก.ตร. เมื่อถามว่า ทำไมส่งเรื่องไปกฤษฎีกาไม่ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะไม่มีอำนาจส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า เหตุใดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่นำเรื่องพิจารณาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครม.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ต่อข้อถามว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจโดยตรงของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  เป็นเรื่องของรรท.ผบ.ตร.ในขณะนี้ ตนไม่ได้มีข้อสัยในข้อกฎหมาย

อยู่ที่รรท.ผบ.ตร.จะไปดำเนินการอย่างไรสำหรับตนชัดเจนในข้อกฎหมายแล้ว เพราะตนเป็นคนทำกฎหมายและติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น เมื่อถามว่า ก.ตร.ต้องประชุมในเรื่องนี้อีกรอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ประชุมจนกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายเลขานุการก.ตร.มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้แจ้งความเห็นกฤษฎีกาเรื่องนี้ให้ก.ตร.ไปแล้วเหตุใด รรท.ผบ.ตร.ถึงต้องส่งเรื่องให้กฤษฎีกาอีกรอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเห็นว่าครั้งที่แล้วเป็นความเห็นของเลขาธิการกฤษฎีกาไม่ใช่ความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา  ต้องถาม รรท.ผบ.ตร. เพราะในส่วนของก.ตร.ในขณะนี้ไม่ได้เสนอให้กฤษฎีกาตีความ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไร กรณี นายกรัฐมนตรีเกิดความขัดแย้งกับตำรวจตลอดเวลานายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นทางข้อกฎหมายของก.ตร.ตนไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวอะไรกัน

เหมือนกับตนไม่ได้มีปัญหากับเรื่องว่าก.ตร.มีความเห็นถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ในเรื่องข้อเท็จจริงแต่ตนก็บอกว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายและต้องรักษาหลักระบบของบ้านเมือง ตนไม่ทราบว่าใครจะพอใจไม่พอใจแต่มันไม่ได้เป็นเรื่องของความรู้สึก มันเป็นเรื่องของการทำหน้าที่ทุกคนต้องการรักษาระบบตนก็เข้าใจว่าตำรวจด้วยกันเองก็มีความรู้สึกอาจจะไม่พอใจคำวินิจฉัยต่างๆแต่ตนมีหน้าที่ในการที่จะต้องรักษาระบบที่ถูกต้อง

ต่อข้อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อเลือกผบ.ตร.ภายในเดือนม.ค. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
"ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้จะได้ผบ.ตร.ในเดือนม.ค.หรือไม่ ผมก็บอกว่าเป็นไปได้ โอกาสก็มี"

ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

กล่าวกรณีที่ประชุมป.ป.ช.วันอังคารที่ 19 ม.ค.จะพิจารณามติ ก.ตร. ที่ยืนยันให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีตผบก.ภ.จว.อุดรธานี กลับเข้ารับราชการ  ขัดกับมติป.ป.ช.ที่มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ว่า คงต้องรอดูท่าทีของ นายกรัฐมนตรีก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรในการประชุมครม. ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด ป.ป.ช.คงไม่ต้องไปดำเนินการอะไร เพราะไม่ใช่องค์กรที่มีปัญหา แต่เป็นก.ตร.ที่มีปัญหา ส่วนที่ป.ป.ช.ทำหนังสือของมติก.ตร.ที่มีการกลับมติของป.ป.ช.ในการไม่ลงโทษ อดีตนายตำรวจทั้งสามนาย ก็เป็นเพียงการขอทราบเหตุผล  เป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอนเท่านั้น

เมื่อถามว่า หากก.ตร.ยืนยันมติให้อดีต 3 นายตำรวจกลับเข้ารับราชการจะทำอย่างไร นายวิชากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

หากนายกรัฐมนตรี ไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เรื่องก็จบเพราะ ก.ตร.ไม่มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเอง เนื่องจากไม่ใช่องค์กรตามรัฐธรรมนูญ แต่หากผู้ถูกกล่าวหาจะนำเรื่องยื่นให้ศาลปกครองพิจารณาก็เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ เมื่อถามว่า ก.ตร.ระบุว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีดังกล่าว โดยไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา นายวิชากล่าวว่า เราไม่สนใจ เพราะยืนยันว่า ให้ความเป็นธรรมในการไต่สวนอย่างเต็มที่ หากใครเห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลได้

ขณะที่ นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า

ในการประชุมป.ป.ช.วันอังคารที่ 19 ม.ค.คงมีการหารือกันถึงกรณีที่ก.ตร.กลับมติไม่ลงโทษอดีตสามนายตำรวจตามที่ป .ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงไป แต่นายกรัฐมนตรีก็ได้พูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ที่ผ่านมาป.ป.ช.ทำตามหน้าที่ในการพิจารณาลงมติชี้มูลความผิดอดีตนายตำรวจ ทั้ง3นาย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์