ตี ทรท. แตกแล้ว เผ่นลาออกกันเป็นแถว

ทรท.แตก แกนนำ-หัวหน้ามุ้งผวายุบพรรค-เว้นวรรค 5 ปี


หอบ ส.ส.กว่า 100 ยื่นหนังสือลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดี จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง เผยเตรียมตั้งพรรคใหม่ ชู "สมคิด" หัวหน้าพรรค กลุ่มชลบุรีซบอกบรรหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม ได้เรียกสมาชิกกลุ่มวังน้ำยมกว่า 50 คน เข้าหารือที่บ้านสนามบินน้ำ เพื่อเช็คยอดสมาชิกในกลุ่มและเตรียมยื่นใบลาออก ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย โดยใครที่อยู่ต่างประเทศก็ให้ส่งหนังสือมาแทน

การประชุมที่บ้านสนามบินน้ำของนายสมศักดิ์ครั้งนี้


สืบเนื่องมาจากเมื่อเย็นวันที่ 1 ตุลาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจและนายสมศักดิ์ร่วมกันหารือถึงสถานการณ์ของพรรค ภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)

ได้ออกประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายนว่า หากมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ดี การพิจารณาสั่งยุบพรรคนั้น


เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถูกสั่งยุบไปแล้วโดยอำนาจของ คปค. แต่ล่าสุดนั้น เกิดความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมจากศาลฎีกาที่เตรียมเลือก 5 ผู้พิพากษาศาลฎีกาไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 ตุลาคมนี้

ส่วนศาลปกครองสูงสุดก็พร้อมที่จะส่งบุคคลไปรับตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน

มีแนวโน้มว่าเรื่องเร่งด่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการวินิจฉัยคือ


เรื่องยุบพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นถูกร้องเรียนว่า เรียกร้องนายกรัฐมนตรีโดยผ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 7 และถกกล่าวหาว่าล้มล้างรัฐธรรมนูญ

นายชูชัย กล่าวว่า สาเหตุของการยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้


เพราะทุกคนต้องการให้การเมืองมีความชัดเจน ไม่อึมครึมเหมือนที่ผ่านมา และที่สำคัญต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติ และต้องการลดความขัดแย้งของคนในสังคม ทางกลุ่มมีการหารือกันมาหลายสัปดาห์แล้ว

ตั้งพรรคใหม่ชู "สมคิด" หัวหน้าพรรค


แหล่งข่าวในพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้ คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 100 คน เพราะกลุ่มวังน้ำยมและบ้านริมน้ำมีสมาชิกเกือบ 200 คน ซึ่งจากนี้ไปจะมีสมาชิกลาออกจากพรรคเรื่อยๆ หลังจากมีการให้อำนาจคณะกรรมการตรวจสอบเบ็ดเสร็จ

โดยสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่า

การตรวจสอบครั้งนี้มุ่งไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค และอดีตรัฐมนตรี ทำให้น่าจะเป็นสาเหตุที่สมาชิกยื่นหนังสือลาออก ประกอบกับกลุ่มที่ยื่นหนังสือลาออกมีการพูดคุยกันก่อน จึงเชื่อว่าน่าจะไปตั้งพรรคใหม่ และเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค และการยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้น่าจะแสดงว่าแกนนำกลุ่มต่างๆ ได้ไปพูดคุยกับนายสมคิดเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ยังมีบางกลุ่มที่ยังไม่ลาออก

โดยเฉพาะกลุ่มวังบัวบานน่าจะยังไม่ยื่นหนังสือลาออกในขณะนี้ โดยเฉพาะอดีต ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้รับผลกระทบต่อการที่พรรคจะถูกยุบ จะฟังความเห็นของหัวหน้ากลุ่มก่อน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ก็ยังชื่นชอบพรรคไทยรักไทย จึงยังไม่เห็นความจำเป็นในการยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้

สมศักดิ์ให้เลขาฯ เป็นตัวแทนไปยื่นใบลา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนพร ศรียากูล เลขานุการส่วนตัวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้เป็นตัวแทนนำหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคไทยรักไทยของ นายสมศักดิ์และสมาชิกของกลุ่มประมาณ 100 คน มายื่นต่อพรรคไทยรักไทย ระหว่างที่นายวีระและคณะกำลังแถลงข่าว ซึ่งนายวีระได้เปิดดูรายละเอียดหนังสือคร่าวๆ และพูดว่า ไม่เป็นไร การเมืองก็อย่างนี้ เดี๋ยวมีงานก็มาร่วมมือกันใหม่ จากนั้นนายธนพรขึ้นตึกไปยื่นหนังสือต่อฝ่ายทะเบียนพรรคไทยรักไทย

นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรค นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต ส.ส.กทม. และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าว

โดยนายวีระกล่าวว่า

จุดยืนของพรรคไทยรักไทยยังคงยึดมั่นในความสมานฉันท์ มุ่งหวังให้มีรัฐธรรมนูญ จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว และพร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป เมื่อสภาวการณ์เปิดช่อง

ส่วนการลาออกของสมาชิกพรรคบางส่วนถือเป็นสิทธิเสรีภาพและดุลพินิจส่วนตัวของสมาชิกเหล่านั้น

พรรคจะทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคและประชาชน ผ่านทางอดีต ส.ส.ของพรรคที่ยังคงอยู่กับพรรคต่อไป สำหรับตนและคณะที่มาแถลงข่าวยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคต่อไปคือ ไม่มี ไม่หนี ไม่ออก

นายวีระ กล่าวด้วยว่า

หากมีการยุบพรรคไทยรักไทยจริง ตนคิดว่า สมาชิกพรรคที่ลาออกไป โดยเฉพาะในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคคงไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย เนื่องจากหากมีการกระทำความผิดแล้ว ก็คงไม่สามารถไปลบล้างได้

จตุพรบอกถ้า ปชต.สมบูรณ์ร่วมงานกันใหม่


นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุชาติ ตันเจริญ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมทั้งอดีต ส.ส.กว่า 30 คน ยื่นใบลาออกจากพรรคแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นการจากกันด้วยดี ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าวันนี้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น คิดว่าถ้าวันข้างหน้ามีประชาธิปไตยสมบูรณ์ คงได้ร่วมงานกันอีกครั้ง ส่วนตนและคณะคงจะอยู่กับพรรคไทยรักไทยต่อไปจนกว่าจะไม่มีพรรคให้อยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า แกนนำและกรรมการบริหารที่ยื่นใบลาออกแล้ว

คือนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และนายวัฒนา เมืองสุข และคาดว่าจะมีแกนนำและกรรมการบริหารพรรคทั้งระดับสูงและสมาชิกพรรคลาออกภายในสัปดาห์นี้อีกเป็นจำนวนมาก อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพินิจ จารุสมบัติ เป็นต้น

ปิดเวบทรท.-ไล่นักข่าวออกจากพรรค


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยมีรายงานข่าวด้วยว่าเจ้าหน้าที่พรรคไทยรักไทยได้เชิญผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และรถข่าวของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี สถานีโทรทัศน์ในเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกจากพรรคไทยรักไทย

น.ส.สิริพร ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่มาเชิญตัวอ้างว่าผู้ใหญ่ในพรรคสั่งมาให้เชิญออก โดยที่ไม่ได้แจ้งสาเหตุอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เวบไซต์พรรคไทยรักไทย ได้แก่

www.thairakthai.or.th และเวบไซต์ www.thaksin.com ได้ปิดตัวไปแล้ว เหลือเพียงเวบไซต์ของแกนนำพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวที่ยังเปิดอยู่ แต่ก็ไม่มีการอัพเดทข้อมูลใดๆ คือเวบไซต์ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ www.sudarat.com เท่านั้น

สุรนันทน์ก็ออกบอกแจ้งหมอมิ้งแล้ว


ด้านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคแล้ว โดยมีเหตุผลว่าหลังจาก คปค.ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็มาทบทวนตัวเองถึงการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จ ถูกต้องและผิดพลาด

เมื่อการเมืองพลิกผันถึงเวลาที่ต้องพิจารณาปรับปรุงตนเอง รวมถึงพรรคไทยรักไทยด้วยว่าจะกำหนดบทบาททางการเมืองอย่างไรต่อไป


อย่างไรก็ตาม นายสุรนันทน์ กล่าวว่า

ส่วนตัวยังยืนยันว่านโยบายของพรรคไทยรักไทยส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ก็ประเมินได้ยากว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจได้คุยกับผู้ใหญ่ทั้งในและนอกพรรคหลายคน แต่ไม่ขอเปิดเผย ซึ่งในที่สุดผู้ให้คำปรึกษาก็ได้ให้เกียรติตน ไม่ได้ชี้แนะว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ตนตัดสินใจเอง และได้คุยกับ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แล้ว ซึ่งไม่ได้ว่าอะไร

นายสุรนันทน์ กล่าวด้วยว่า

ในอนาคตนั้นยืนยันว่ายังอยากจะทำงานการเมืองต่อไป ส่วนจะเป็นรูปแบบใดขอใช้เวลาช่วงที่มีการปฏิรูปการเมือง 1 ปี รอรัฐธรรมนูญฉบับที่จะใช้ในการเลือกตั้งออกมา แล้วค่อยพิจารณาตัดสินใจว่าจะเดินไปในแนวทางใด ตอนนี้ขอใช้เวลาพักผ่อน อ่านหนังสือและอยู่กับครอบครัวก่อน เพราะตนทำงานการเมืองมาตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคมาจนถึงรัฐมนตรี

นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า

ประกาศฉบับที่ 27 ชัดเจนว่า คปค.มีธงอยู่แล้วว่า ต้องการล้างบางพรรคไทยรักไทยให้สิ้นซาก เพราะกรณีที่มีการยุบพรรคจริง หากเป็นสาระเดิมของกฎหมาย กรรมการบริหารพรรคยังสามารถลงสมัครเลือกตั้งหรือเป็นรัฐมนตรีได้ แต่ในคำสั่งเพิ่มเติมของประกาศที่ 27 ระบุชัดเจนว่า ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง 5 ปี กรณีนี้ทำให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยตื่นกลัว นำไปสู่การลาออก เพราะกลัวจะมีผลทางการเมืองในอนาคต เท่าที่ทราบข้อมูลเชิงลึกพรรคไทยรักไทยโดนประหารแน่นอนและโดนพรรคเดียว ไม่มีประชาธิปัตย์ ตอนนี้ก็เห็นธงประหารอยู่รำไร

"สนธยา" นำกลุ่มชลฯ ซบอกบรรหาร


ด้านนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี กล่าวว่า กลุ่มของตนได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยแล้ว ส่วนจะย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคใดนั้น ขณะนี้ขอเวลาตัดสินใจก่อน ตอนนี้ยังใส่เกียร์ว่าง

นายสนธยาอ้างว่า

ที่ตัดสินใจลาออกนั้น ไม่มีการบีบหรือส่งสัญญาณใดๆ คิดว่าทุกคนคงตัดสินใจกันเองและน่าจะบังเอิญตรงกันมากกว่า ส่วนอนาคตของกลุ่มนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะยังมีเวลาอีกนาน

เราต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ทางการเมือง และต้องการรอความชัดเจนของรัฐธรรมนูญใหม่ จึงยุติทุกอย่างจนกว่าจะเกิดความชัดเจนทางการเมือง ส่วนตัวได้ประชุมหารือกับกลุ่มของนายสุชาติ ตันเจริญ และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ทุกคนก็ได้ตัดสินใจว่าจะลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งได้ตัดสินใจไว้ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญชั่วคราว และมีนายกฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ นายสนธยา ระบุ


รายงานข่าวแจ้งว่า

นายสนธยาพร้อมสมาชิกในกลุ่มจะย้ายกลับไปยังพรรคชาติไทย เนื่องจากที่ผ่านมาการย้ายพรรคของกลุ่มชลบุรีนั้น เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวในเรื่องของคดี นายสมชาย คุณปลื้ม บิดาของนายสนธยา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชลบุรีกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยนั้นถือว่าสนิทแนบแน่น โดยในวันเกิดของนายบรรหาร นายสนธยาและกลุ่มก็ยังไปร่วมอวยพรวันเกิด

หรือกระทั่งงานวันเกิดพรรคชาติไทย กลุ่มชลบุรีก็ได้ส่งข้าวหลามหนองมนไปร่วมเปิดร้านทุกครั้ง นายสนธยาเองก็เคยบอกว่า หากออกจากพรรคไทยรักไทยก็จะนึกถึงพรรคชาติไทยเป็นพรรคแรก

อนุทิน ลั่นไม่ไป-ขอตายกับพรรค

อนุทิน ลั่นไม่ไป-ขอตายกับพรรค


ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ไม่รู้จะลาออกจากสมาชิกพรรคไปทำไม เพราะเปรียบเหมือนกับการที่ไปฆ่าคนตายแล้วหนีไปบวชพระ แล้วจะมาบอกว่าเป็นพระแล้วไม่ผิด ไม่ได้เป็นคนธรรมดาแล้ว มันไม่ได้

"ขณะนี้ผมอายุ 38 ปี แล้วได้เป็นรัฐมนตรีก็ถือว่าทำเป็นบันทึกว่าได้เป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อย แต่เมื่อพรรคถูกยุบและต้องลงเลือกตั้งไม่ได้ 5 ปี ก็เท่ากับว่าต้องเว้นวรรคไปโดยปริยาย ดังนั้นก็คงไม่เอาแล้วกับการเมือง มันเหมือนเห็นสาวตอนอายุ 46 กับตอนอายุ 25 ที่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน ความฮึกเหิม กระตือรือร้นมันไม่เหมือนเดิมแล้ว"

นายอนุทิน ย้ำว่า

หลังจากนี้ก็คงจะแขวนนวมแล้ว แขวนตอนที่ยังเป็นรัฐมนตรีดีกว่าตอนที่เป็นผู้จัดการบริษัท คนเรารู้จักมาแล้ว ก็ต้องรู้จักเลิกถือว่าดีที่สุด พวกที่รู้จักมาแล้วไม่รู้จักเลิกมันแย่ เวลานี้เราเหมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่จะให้บอกว่าเราดีกว่าเพื่อนที่คิดลาออกตอนนี้ มันก็ไม่ถูกนัก และถ้าใครคิดแบบนั้นตนก็คงไม่คบด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า

ถ้าผ่านไป 5 ปี มีคนมาชวนเล่นการเมืองอีกจะตอบรับหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นหัวหน้ามุ้งอะไร พอเวลาผ่านไป 5 ปี คนก็ลืมไปหมดแล้ว ถึงนาทีนั้นมีคนมาชวน ก็คงไม่เล่นแล้ว และถ้ากลับมาเล่นใหม่กฎ กติกา ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะมาให้ถูกด่า ถูกไล่ ฟ้องร้องดำเนินคดีทำไม

เวลานี้มีข้าวกินครบ 3 มื้อก็ดีอยู่แล้ว ตอนไปต่างประเทศครั้งสุดท้ายยังสังหรณ์ใจอยู่ว่าจะไปแล้วไปลับ แต่เวลานั้นจะพูดกับใครก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่วันนี้ทุกอย่างมันก็ชัดเจนแล้ว

ปชป.ยันไม่มี กก.บห.พรรคลาออก

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่หลังมีประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 ออกมาทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเตรียมทยอยลาออก เพื่อที่หากมีการพิจารณายุบพรรคจะได้ไม่มีคดีความผิดติดตัวว่า เท่าที่ได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคไม่มีความจำเป็นจะต้องทำเช่นนั้น กรรมการบริหารพรรคคงไม่มีความประสงค์จะลาออกจากตำแหน่ง เพราะพรรคยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญจึงถึงขั้นต้องถูกยุบพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าหากกรรมการบริหารพรรคลาออกและหากมีการพิจารณายุบพรรคจริงจะทำให้ไม่มีผลทางคดีติดตัวหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ก็ยังมีความเห็นเป็นสองด้าน ต้องรอพิจารณาข้อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้พรรคไม่สามารถจัดประชุมได้ จึงไม่ได้หารือกัน แต่ก็มีความเห็นเป็นสองแนวทางว่า กรณีหนึ่งการลาออกอาจจะทำได้และไม่มีผล เพราะถือว่าคดียุบพรรคที่เกิดขึ้นในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดก่อน แต่อีกด้านก็เห็นว่าไม่สามารถทำได้ เพราะถึงอย่างไรก็มีผลทางคดีติดตัวอยู่ ซึ่งเรื่องนี้พรรคคงต้องดูว่าจะมีความชัดเจนทางกฎหมายอย่างไร ขณะนี้จึงยืนยันได้ว่ายังไม่มีใครคิดลาออกจากพรรค เพราะยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้กระทำอะไรขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ

นายองอาจ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการยุบพรรคจริงก็ต้องยอมรับสภาพ และปฏิบัติตามกฎหมาย และคิดว่าคณะกรรมการบริหารพรรค 45 คน คงไม่มีใครที่คิดจะทำเพื่อเอาตัวรอด อีกทั้งพรรคยังมีบุคลากรในพรรคจำนวนมากที่พร้อมทำงาน ส่วนกรณีของพรรคไทยรักไทยที่มีกรรมการบริหารพรรคลาออกนั้น ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นความต้องการที่จะลาออกด้วยส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่กรณีมีประกาศ คปค.ออกมา

นายวราวุธ ศิลปอาชา รองเลขาธิการพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีความเป็นไปได้ที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่ลาออกแล้วจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย ว่า ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร เพราะยังมีเรื่องคดียุบพรรคค้างอยู่ แต่ส่วนตัวแล้วหากมีใครติดต่อมาอยู่ด้วยก็ต้องบอกว่ายินดี แต่คงจะไม่มีการต่อรองอะไร


กกต.ขอเวลาชี้ขาด กก.บห.ไทยรักไทย


นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหนีความผิดยุบพรรคว่า

โดยปกติคดียุบพรรคอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญถูกยุบ คดีที่ค้างอยู่น่าจะถูกโอนมาอยู่ในการวินิจฉัยของตุลาการที่ตั้งขึ้นโดยธรรมนูญปกครองชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการตัดสินยุบพรรคแล้วกรรมการบริหารพรรคที่ลาออกจะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น

ยังไม่ขอตอบ ต้องขอเวลาไปศึกษา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร

นายปกครอง สุนทรสุทธิ์ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทยอยกันลาออกจากพรรค

ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ต้องรับโทษตามประกาศ คปค.ว่า ยังไม่มีการแจ้งจากพรรคไทยรักไทยมายังสำนักงาน กกต.ว่าใครลาออกบ้าง ซึ่งคงใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วันในการแจ้งอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กรรมการบริหารพรรคที่ลาออกในช่วงนี้จะต้องรับผิดหรือไม่

เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่ ที่มีขึ้นตามประกาศของ คปค. และพ.ร.บ.พรรคการเมืองเดิม ก็ไม่เคยระบุโทษที่เมื่อสั่งยุบพรรคและต้องเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งถึง 5 ปี เอาไว้ โดยผู้ที่จะชี้ในเรื่องนี้น่าจะเป็นประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์