อภิชาตตั้งทีมคุมเข้มคดียุบพรรคปชป. เลขาฯกกต.ชี้พบหลักฐานใหม่เสนอเปลี่ยนมติได้

"อภิชาต"ตั้งทีมคุมเข้มคดียุบพรรคปชป. เลขาฯกกต.ชี้พบหลักฐานใหม่เสนอเปลี่ยนมติได้

"อภิชาต" ตั้งคณะทำงานดูคดีเงินบริจาค 258 ล้าน ยุบไม่ยุบประชาธิปัตย์ เลขาฯกกต. ย้ำเพื่อความละเอียดถี่ถ้วน ไม่ได้ซื้อเวลา ชี้หาพบหลักฐานใหม่ประธานเสนอเปลี่ยนมติได้

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อดูเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)พรรคการเมือง เกี่ยวกับการพิจารณาสำนวนเงิน 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาอาจได้รับจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ซึ่งอาจขัดต่อพ.ร.บ.พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการใช้ดุลพินิจของนายอภิชาต


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมว่า ทราบว่านายอภิชาตตั้งคณะทำงานขึ้นมา1 ชุด โดยมีผู้แทนจากด้านกิจการพรรคการเมือง และจากสำนักกฎหมายและคดี เพื่อมาดูในเรื่องข้อกฎหมายของพ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะขณะที่ร้องนั้นเป็นการร้องในความผิดของกฎหมายพ.ร.บ.พรรคการเมือง 2541 แต่ปัจจุบันเป็นการใช้กฎหมายใหม่ปี 2550 จึงต้องดูอย่างรอบครอบ และเรื่องนี้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่ได้พิจารณามาให้  และการตั้งคณะทำงานขึ้นมาไม่ได้ยื้อเวลาอย่างที่บางฝ่ายกล่าวหา


“การทำงานของกกต.ที่ผ่านมา สำหรับเรื่องนี้ใช้เวลากว่า7เดือน  ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน ที่ทุกคนเห็นว่าช้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีความซับซ้อน มีทั้งประเด็นข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สอบสวนมา และในส่วนของประเด็นพ.ร.บ.พรรคการเมืองที่ต้องดำเนินการ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีก1 ชุด เพื่อความรอบคอบ”


นายสุทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้เป็นการดำเนินการตามมติเสียงข้างมากที่ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมาดำเนินการตามมาตรา 95 พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งต้องดูอีกครั้งหากมีข้อเท็จจริงใหม่ หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า มีหลักฐานใหม่แล้วมีความชัดเจนการลงมติอาจจะเปลี่ยนแปลงได้  ซึ่งในอดีตเคยมีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นบ่อย เช่นเดียวกับหลายหน่วยงาน แต่ต้องดูตามเหตุผลที่สามารถต้องอธิบายได้ เชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงมติจริงๆ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องมีเหตุผลอธิบายต่อสังคมได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าการทำงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง และกกต. อยู่ภายใต้การกดดันของกระแสสังคม ซึ่งกกต.จะไปทำตามกระแสไม่ได้ เพราะจะเกิดผลกระทบ


เมื่อถามว่า กกต.ทำงานล่าช้าเพราะต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องการยุบพรรค เพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยคาดการณ์หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า เป็นไปไมได้ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และถ้าแก้ไขจริงต้องใช้เวลา ซึ่งการพิจารณาคดีดังกล่าวคงไม่ใช่เวลานานขนาดนั้น


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์