กอร์ปศักดิ์รับทำหนังสือถึงปธ.ศาลฎีกา-แม่ฮ่องสอนให้ย้ายศาลปาย ยันปชช.ห่วงนักโทษหลุดมาถนนคนเดิน

"กอร์ปศักดิ์"รับทำหนังสือถึงปธ.ศาลฎีกา-แม่ฮ่องสอนให้ย้ายศาลปาย ยันปชช.ห่วงนักโทษหลุดมาถนนคนเดิน

"กอร์ปศักดิ์"รับทำหนังสือถึงปธ.ศาลฎีกา-ศาลจังหวดแม่ฮ่องสอนให้ย้ายศาลปาย หลังเอกชน-ชาวบ้านห่วงนักโทษหลุดผสมนักท่องเที่ยวบนถนนคนเดิน อ้างศาลไปดูที่แปลงใหม่แล้วชอบ


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์” ออกอากาศทางสถานีวิทยุคลื่นข่าว 97.0 เมกกะเฮิร์ต ถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมากล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งย้ายศาลจังหวัดปายออกจากที่ดินบริเวณศูนย์การท่องเที่ยวอ. ปาย จ. แม่ฮ่องสอน เนื่องจากภริยาทำธุรกิจโรงแรมอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยกล่าวยอมรับว่า ครอบครัวได้ทำธุรกิจเล็กๆ อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจริง โดยสร้างห้องเช่าขนาดเล็ก 20 ห้อง เรียกเก็บค่าเช่าเพียง 600 บาท/ห้อง/คืน โดยธุรกิจดังกล่าวอยู่บนเนื้อที่ 4 ไร่ ริมแม่น้ำปาย และอยู่ในส่วนปลายสุดของถนนคนเดินในระยะ 40 เมตรสุดท้าย จึงไม่มีคนมาเดินแล้ว ขณะที่ศาลจังหวัดปายสร้างเสร็จตั้งแต่เมื่อ 3-4 เดือนก่อน และเปิดให้บริการแล้ว แต่เป็นศาลชั่วคราว เพราะถ้าจะสร้างถาวรต้องเสนอกฎหมาย กว่าจะสร้างได้ก็กินเวลา 10-20 ปี


รองนายกฯ กล่าวต่อว่า การออกมาเปิดประเด็นของนายจตุพรเข้าใจว่าเป็นเรื่องทางการเมือง เพราะตนอยู่ปายมา 7 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งไปอยู่ 1-2 เดือน เมื่อนายกสมาคมท่องเที่ยวอ. ปาย นักธุรกิจ และประชาชนได้ร่วมลงชื่อประมาณ 100 คนเพื่อยื่นข้อร้องเรียนถึงตนในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยระบุว่ารู้สึกไม่สบายใจที่ศาลไปอยู่บนถนนคนเดิน เพราะเกรงว่าการที่นักท่องเที่ยวกับนักโทษอยู่ร่วมกันจะเกิดอันตราย ความจริงตนก็กังวลอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าพอครอบครัวทำธุรกิจแล้วอ. ปายจะมีอะไรไม่ได้เลย ก็เลยตัดสินใจทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมแนบข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจและประชาชนไป โดยได้หารือว่าทราบว่าที่ดินในเขตศาลจังหวัดปายมีขนาดเล็ก ขณะนี้กรมธนารักษ์มีที่ดินอยู่ 1 แปลงบริเวณตรงข้ามสนามบินตำรวจ จึงอยากให้ศาลพิจารณา ซึ่งหลังจากนั้นทราบว่าศาลท่านได้ไปดูที่ และชอบเพราะเป็นที่ทางเข้าอ. เมือง มีพื้นที่มาก สามารถสร้างบ้านพักให้ผู้พิพากษาได้ด้วย ส่วนที่ตั้งศาลเก่าก็อาจจะทำเป็นศูนย์วัฒนธรรมหรืออะไรไป


ผู้ดำเนินรายการถามว่า ศาลเห็นด้วยที่จะย้ายไปอยู่ที่ใหม่ใช่หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า “อ๋อ! เขาอยากได้อยู่แล้ว” เมื่อถามต่อว่า นายจตุพรอ้างว่าผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่พอใจ และทำหนังสือหารือไปที่ประธานศาลฎีกา นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่รู้จัก ไม่เคยพบ และไม่เคยคุยกับผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลย


เมื่อถามว่า จะชี้แจงหลักฐานเทปบันทึกการประชุมร่วมกับข้าราชการจ. แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 โดยมีเนื้อหาระบุว่าเขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่ใช่คนปายอย่างไร นายกอร์ศักดิ์กล่าวว่า ได้เดินสายพูดคุยกับภาคธุรกิจจำนวนมาก เพราะขณะนั้นการท่องเที่ยวกำลังจะตาย แต่มั่นใจว่าไม่ได้ไปด่าว่าใคร ก็ไม่เป็นไร ถ้าตนทำไม่ถูก ก็ไม่ถูก หากจะโยงมันก็โยงได้หมด เหมือนอะไรๆ ก็สุพรรณบุรี อยากถามว่านายจตุพรเป็นส.ส. กทม. เคยทำอะไรเพื่อคนกทม. บ้าง เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพราะจ. แม่ฮ่องสอนมีส.ส. 2 คน คนหนึ่งเป็นพวกของนายจตุพร อีกคนหนึ่งเป็นส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องมีการต่อสู้กันในพื้นที่เป็นธรรมดา เมื่อกล่าวหามา เราก็ตอบไป


“เพียงแต่เขาใช้คำพูดไม่สุภาพที่มาบอกว่า เป็นโรงแรมของเมียผม ทั้งที่ ผมเลิกกับภริยามา 10 ปีแล้ว ส่วนคนนี้ ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส เขาอยู่ปาย ก็เป็นผู้จัดการนั่นแหล่ะ” นายกอร์ปศักดิ์กล่าว


ผู้ดำเนินรายการถามย้ำว่า ได้พูดในที่ประชุมข้าราชการจ. แม่ฮ่องสอนหรือไม่ว่า “เขาไม่ใช่คนปาย” นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า “ก็... อาจจะเป็นไปได้ แต่คำว่าเขา... ผมเป็นคนพูดตรงๆ น่ะนะ ก็อาจจะบอกว่าไม่รักปายเลย มาทำอย่างนี้ได้อย่างไร ผมขอพูดตรงๆ ว่าถ้าไปตั้งตรงนั้น ผมกังวล เพราะท่องเที่ยวอยู่ตรงนั้น ศาลอยู่ตรงนั้น เกิดหนักโทษหลุดออกมาจะทำอย่างไร ศาลนี้อยู่กลางถนนคนเดินเลย เหมือนมีศาลไปตั้งอยู่กลางถนนข้าวสาร”


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์