สุรยุทธ์พบพระ ก่อนจะรับงาน

"สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์"


ขณะที่ สุรยุทธ์ แวบไปหนองคายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมปรึกษาเจ้าอาวาสวัดที่เคยไปอุปสมบท ขอความเห็นก่อนตัดสินใจรับเก้าอี้นายกฯ โฆสิต-หม่อมอุ๋ย ปัดข่าวถูกทาบทามเป็นรัฐมนตรี ด้าน ทักษิณ ต่อโทรศัพท์ถึง สุดารัตน์ ยืนยันยังไม่มีกำหนดกลับเมืองไทย 4 อดีตรัฐมนตรีใกล้ได้รับอิสระ วินัย เผยอีก 2-3 วัน จะปล่อยตัว คปค.เรียกประชุม ผวจ.ทั่วประเทศ สั่งเร่งแก้ปัญหาความยากจน-ลดหนี้เกษตรกร แถมรื้อโครงสร้างระบบบริหารแบบซีอีโอ พร้อมให้ใช้คำว่า รากแก้ว แทน รากหญ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (29 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก นางบัญญัติ ทัศนียะเวช ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้นำผู้แทนองค์กรสื่อมวลชน 20 คน เข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข (คปค.) เพื่อนำข้อเสนอของสื่อมวลชนเรื่องขอให้กำหนดเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน ในธรรมนูญการปกครองให้ชัดเจน โดยใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นานประมาณ 45 นาที ซึ่ง พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตระหนักดีถึงข้อห่วงใยดังกล่าว เพราะสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนเป็นสิ่งสำคัญ ตอนที่ยกร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราว แล้วก็ได้เชิญอธิการบดีและคณบดีบางส่วนมาช่วยตรวจสอบ พร้อมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาช่วยดูอีกครั้ง ทั้งหมดได้พูดถึงประเด็นนี้กันอย่างมาก

สนธิ เผยทูลเกล้าฯ รธน.ชั่วคราวแล้ว

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ได้นำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว และรอว่าจะโปรดเกล้าฯลงมาเท่านั้น รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เขียนเนื้อหาต่างๆไว้แต่เพียงสั้นๆ เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรค่อยลงรายละเอียดกันอีกครั้ง คปค.ต้องรีบทำ ตนไม่ต้องการอะไร เพราะปัญหามีมาก ทุกคนช้ำมามากแล้ว ที่มาทำก็เสียสละ ยอมรับว่าเป็นตายเท่ากัน ความสำเร็จที่เกิดขึ้น เพราะประชาชนและสื่อให้กำลังใจมาก ยืนยันว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญ และได้มอบหมาย พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คปค. ไปทำความเข้าใจกับต่างประเทศแล้ว และการที่เชิญตัวแทนสื่อโทรทัศน์และวิทยุไปขอความร่วมมือก่อนหน้านี้ เป็นเพียงขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์งานของ คปค. ไม่มีเจตนาที่จะไปควบคุมอะไร คปค. ไม่อยากอยู่นาน ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่บอก คือ 2 สัปดาห์ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้วจะหารือกันอีกครั้งว่าจะให้ถอนทหารกลับเมื่อไหร่

ชี้นายกฯใหม่คนรับได้-ไหว้สบายใจ

พล.อ.สนธิกล่าวด้วยว่า หลังจากมีการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนำชื่อนายกฯคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ คงไม่เกินกว่าที่กำหนดระยะเวลากันไว้ ชื่อนายกฯที่เตรียมไว้เป็นคนที่เชื่อว่าสังคมไทยรับได้ เมื่อถามว่านายกฯคนใหม่จะเป็นที่เซอร์ไพรส์ของสื่อมวลชนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เซอร์ไพรส์ เป็นคนที่คุ้นๆหน้ากันอยู่ และเป็นคนที่ยกมือไหว้ได้สบายใจ ส่วนรัฐมนตรีที่จะมาร่วมงานใน ครม.ใหม่นั้น จะให้นายกฯเป็นผู้คัดเลือกเอง คปค.จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว

ไม่หวั่นระบบเก่าหวนคืน

เมื่อถามว่า ทำเร็วออกเร็วอย่างนี้ไม่กลัวว่าระบบเก่าจะหวนกลับมาอีกหรือ พล.อ.สนธิตอบว่า เรามีวิธีการและแผนอยู่แล้ว การที่ คปค.ไม่ยุบพรรคการเมืองนั้น ให้เป็นเรื่องทางกฎหมายจะว่ากันไป แต่ยอมรับว่าตอนนี้มีกระแสการก่อกวนต่อต้านอยู่บ้าง มีใบปลิวที่อ่านแล้วบางเรื่องก็ไม่เข้าท่า เราพยายามขจัดของเก่าอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีอยากให้องค์กรสื่อเสนอชื่อตัวแทน 1 คน มาร่วมเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร โดยจะให้อยู่ในสัดส่วนที่ คปค.จะเสนอไป 10 คน

ยอมรับ ป.ป.ช.บางคนมีตำหนิ


พล.อ.สนธิกล่าวด้วยว่า มีคนส่งเอกสารเรื่องปัญหาการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและข้าราชการต่างๆเข้ามาให้ คปค.จำนวนมาก คปค.จะตรวจสอบแล้วส่งให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการ ตนกำลังปวดหัวกับเรื่องการแต่งตั้ง ยืนยันว่าเราเข้ามาทำงานครั้งนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน แม้แต่แถลงการณ์ยังเขียนไม่ถูก ต้องไปตามหาคนมาช่วย ทุกอย่างฉุกละหุก ชื่อคนที่ออกไปแล้วบางทีก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่รู้จักคน ตั้งเสร็จก็มีเอกสารไหลกลับเข้ามาว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ จึงพยายามที่หาทางยุบเลิกอยู่ พอถามนักกฎหมายว่าที่ตั้งไปบางส่วนแล้วจะยกเลิกได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่ายกเลิกไม่ได้ ซึ่งต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการอื่น เช่น กรณี ป.ป.ช.อาจเพิ่มกรรมการเข้าไปอีก หรือให้ใช้วิธีการลงมติกึ่งหนึ่งแทนสองในสาม ยอมรับว่ากรรมการ ป.ป.ช.บางคนมีตำหนิอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันจริง เมื่อผู้แทนสื่อถามว่า ทำไมไม่ขอให้คนเหล่านั้นลาออกไป พล.อ.สนธิตอบว่า มันหน้ามึน ตาใส

โอนที่ปรึกษา คปค.ช่วยงานรัฐบาล

เมื่อถามว่า ทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจที่ คปค. แต่งตั้งขึ้นมามีบทบาทอย่างไร พล.อ.สนธิตอบว่า ตอนนี้ยังไม่มีบทบาทอะไรมาก ความจริงอีก 2 วัน คปค.ก็จะไม่มีบทบาทอะไรมาก อย่างไรก็ตาม จะเสนอให้ที่ปรึกษาเหล่านี้ไปเป็นที่ปรึกษาช่วยรัฐบาล โดยเฉพาะคนที่ดีๆทั้งหลาย ส่วนเรื่องการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นเรื่องของรัฐบาล ตนไม่ยุ่ง

แปลงสภาพสู่คณะมนตรีความมั่นคง

ด้านนายสมชาย แสวงการ นายกสมาคมวิทยุโทรทัศน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบหัวหน้า คปค.ว่า ขณะนี้คปค.ได้นำรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว รอเพียงขั้นตอนการโปรดเกล้าฯลงมา หลังจากนั้นจะนำรายชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ และคิดว่าถ้ามีการประกาศชื่อนายกฯคนใหม่ออกมา ทุกคนจะรับได้ เพราะเป็นที่รู้จักและจะต้องมีคนยกมือไหว้อย่างแน่นอน

ขณะที่ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คปค. กล่าวว่า ในวันที่ 2 ต.ค. นี้ คปค.จะแปลงสภาพไปเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะทำหน้าที่แทนทั้งนายกฯและ ครม. จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเขียนไว้ชัดเจน คิดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานก็จะมีรัฐบาลใหม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครคือผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯคนใหม่ พล.อ.วินัยตอบว่า ไม่ทราบ แต่ คปค.มีมติเอกฉันท์ในชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ แต่ไม่ทราบว่าจะเสนอขึ้นไปเพียงชื่อเดียวหรือหลายรายชื่อ

กองทัพสื่อเฝ้าบ้าน สุรยุทธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นตัวเต็งที่จะได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ปรากฏว่า บรรยากาศบริเวณบ้านของ พล.อ.สุรยุทธ์ ภายในบริเวณสนามกอล์ฟรอยัลกอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ จ.สมุทรปราการ ได้มีกองทัพสื่อมวลชนและช่างภาพไปปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้เข้าไปติดตามสถานการณ์ที่หน้าบ้านได้ เพราะได้รับคำสั่งจาก ร.ท.ฉัตรชัย สุคันธรัตน์ ทหารประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบกว่า ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในบริเวณบ้านของ พล.อ.สุรยุทธ์ได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งออกมาอย่างเป็นทางการก่อน กองทัพสื่อมวลชนจึงได้แต่เพียงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านเท่านั้น ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้เดินทางออกไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวที่จังหวัดอื่นตั้งแต่เวลา 06.00 น.

เจ้าตัวแวบเข้าวัดปรึกษาเจ้าอาวาส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจส่วนตัวที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ออกไปปฏิบัติตั้งแต่เช้ามืด คือ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าตัวให้ความเคารพนับถือที่ จ.หนองคาย พร้อมกันนี้ ได้เดินทางไปที่วัดดานวิเวก ซึ่งเป็นวัดที่ พล.อ.สุรยุทธ์เคยอุปสมบทและจำพรรษาอยู่กว่า 3 เดือน โดยได้มีการขอความเห็นและแนวทางจากเจ้าอาวาสเกี่ยวกับการตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ อยู่ในระหว่างการตัดสินใจที่จะเข้าเฝ้าฯเพื่อลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี โดยจะต้องไปหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อีกครั้งหนึ่ง

ทาบ สมทัต นั่ง รมว.กลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนใหม่ค่อนข้างจะลงตัวที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี แล้วนั้น ก็มีความเคลื่อนไหวในการทาบทามบุคคลต่างๆมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อช่วยบริหารประเทศ โดยล่าสุดมีการทาบทาม พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.ทบ. ให้มานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม และทาบทาม พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี รองปลัดกระทรวงกลาโหม มารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย

ศิริพร เสียบแทน ปิยสวัสดิ์

ส่วนที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า ได้มีการทาบทามนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม มาเป็น รมว.พลังงานนั้น ล่าสุดนางศิริพร ไศลสูตร อดีตอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ที่มีกำหนดจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มาแรงกว่านายปิยสวัสดิ์ เนื่องจากนางศิริพรเป็นที่ไว้วางใจของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้า คปค. โดยมีการทาบทามให้มาเป็น รมว.พลังงานแทน เพื่อร่างยุทธศาสตร์พลังงานฉบับใหม่ที่จำเป็นต้องเร่งรัดวางยุทธศาสตร์ ด้านพลังงานทดแทนอย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะนางศิริพรมีความเชี่ยวชาญและทำงานด้านนี้มาโดยตลอด

โฆสิต-อุ๋ย ปัดถูกทาบทาม

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวถึงกระแสข่าวได้รับการทาบทามให้เป็น รมว.คลังว่า ยังไม่รู้เรื่อง ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามี การทาบทามจะรับตำแหน่งหรือไม่ นายโฆสิตกล่าวว่า เคยตอบไปแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโฆสิตเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง รมว.คลัง และจะทำงานที่ธนาคารกรุงเทพต่อไป

ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกระแสข่าวถูกทาบทามเป็นรองนายกรัฐมนตรีว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการทาบทามจาก คปค.ให้ดำรงตำแหน่งใดๆในรัฐบาล

โต้ข่าว บิ๊กจิ๋ว แอบจัดโผ รมต.

พล.ต.ศรชัย มนตริวัต อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคไทยรักไทย และเป็นคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิตประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่ว่า เป็นความตั้งใจเดิมของ พล.อ.ชวลิตอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเมื่อเห็นคนจะจมน้ำก็ต้องกระโดดเข้าไปช่วย พอช่วยขึ้นมาแล้วก็จบ พล.อ.ชวลิตเป็นคนไม่มีศัตรู จึงเป็นธรรมดาที่หลายคน อยากให้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องมีตำแหน่งทางการเมืองหรือส่งใครเป็นตัวแทน เพราะไม่ยุ่งด้วยแน่ ดังนั้นข่าวที่บอกว่า พล.อ.ชวลิตเป็นคนที่ช่วยทำบัญชีรัฐมนตรีจึงไม่เป็นความจริง ผมสงสารท่านมาก เพราะตอนที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนของป๋าเปรม แต่พอมาอยู่กับทางนี้เขาก็สงสัยว่า พล.อ.ชวลิตเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ความจริงไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งนั้น เป็นเพื่อนเป็นมิตรกับทุกคน

ทักษิณ ยังไม่มีคิวกลับไทย


น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี แสดงความเป็นห่วงว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย อาจส่งผลให้เกิดเหตุ การณ์รุนแรงกระทบกระทั่งกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้าน ว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ตรงกับเวลาช่วงเช้าของประเทศอังกฤษ พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์หาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยยืนยันว่า ขอให้ คปค.สบายใจและมั่นใจได้ว่าจะไม่มี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ยังไม่มีกำหนดที่จะเดินทางกลับในช่วงนี้ นอกจากนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรค ไทยรักไทยได้ฝากย้ำถึงสมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกคนว่า ต้องให้ความร่วมมือกับ คปค.อย่างเต็มที่ เพื่อให้บ้าน เมืองกลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็วที่สุด ดังนั้น สิ่งที่เป็นกังวลกันว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแล้วจะเกิดเหตุวุ่นวายอะไรตามมานั้น ขออย่าได้เป็นกังวล

ทรท.จี้พรรคอื่นหยุดเคลื่อนไหว

น.ต.ศิธายังกล่าวถึงกรณีที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยหลายคนเดินทางเข้าพบนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อหารือถึงอนาคตทางการเมืองและการย้ายพรรค ว่า ในสถานการณ์การเมืองที่เปราะบางแบบนี้ ทุกพรรคน่าจะยุติบทบาทเพื่อหวังผลทางการเมือง ควรปล่อยให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ รอไว้หลังจัดตั้งรัฐบาลแล้วถึงค่อยเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ควรชิงความได้เปรียบในช่วงเวลาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.มีมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาเมื่อเปิดโอกาสให้มีการย้ายพรรค พบว่ามีอดีต ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคประชาราชจำนวนไม่มาก ขณะที่อดีต ส.ส.พรรคอื่นกลับย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทยจำนวนมาก แต่ถือว่าเร็วไปที่จะพูดตรงนี้ เพราะขณะนี้ แต่ละพรรคควรหันมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศได้ รับการยอมรับในเวทีโลกมากกว่า

4 อดีต รมต.ใกล้ได้รับอิสระ

พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คปค. ให้สัมภาษณ์ ถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อขอเข้าประเทศไทย เท่าที่ทราบ พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่าจะพักผ่อนอยู่ที่ประเทศอังกฤษสักระยะหนึ่ง ยังไม่แน่ใจว่าจะเดินทางกลับเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังไม่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท. ทักษิณแล้ว มีเพียงช่วงต้นที่ได้รับการติดต่อมาประมาณ 2-3 ครั้ง โดยบอกว่าตัดสินใจวางมือทางการเมืองและจะพักผ่อนอยู่กับครอบครัว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการควบคุมตัว 4 อดีตรัฐมนตรี ตามกฎอัยการศึกสามารถควบคุมตัวได้นานเท่าไหร่ และจะปล่อยตัวออกมาเมื่อไหร่ พล.อ.วินัยกล่าวว่า ทั้ง 4 คนยังสบายดี อีก 2-3 วันก็ปล่อยตัวแล้ว ไม่มีปัญหา

เอแบคโพลชี้คนหนุนรัฐบาลใหม่


วันเดียวกัน สำนักวิจัยเอแบคโพลได้เปิดเผยผลสำรวจความเห็นแกนนำชุมชน 18 จังหวัดทั่วประเทศ และ ประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,917 ตัวอย่าง ต่อการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในชุมชนที่พักอาศัยภายหลังปฏิบัติการของ คปค. พบว่าเรื่องการ ช่วยกันสอดส่องดูแลของคนในชุมชน การช่วยเหลือกัน ในชุมชน การแก้ปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาอาชญากรรม มีเพียงบางส่วนเห็นว่าดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่า ดีเหมือนเดิม ส่วนการให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังการถอนตัวของ คปค. แกนนำชุมชน ร้อยละ 66.6 จะให้การสนับสนุน ส่วนประชาชนทั่วไปร้อยละ 53.9 ระบุจะให้การสนับสนุนเช่นกัน ส่วนที่เหลือระบุว่า ยังลังเลไม่แน่ใจและไม่มีความเห็น ส่วนนโยบายที่กลุ่มตัวอย่างอยากให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อคือการเสริม สร้างสุขภาพประชาชน การแก้ปัญหายาเสพติด โครงการกองทุนหมู่บ้าน และการแก้ปัญหาความยากจน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ขอให้ใช้หลักเศรษฐกิจในการพัฒนาประเทศ

ชาวบ้านสบายใจบ้านเมืองสงบ

ขณะเดียวกัน สวนดุสิตโพลได้เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชน 3,684 คน ทั้งที่อยู่ใน กทม. และ ต่างจังหวัด ในหัวข้อสิ่งที่ประชาชนสบายใจขึ้นหลังจากเหตุการณ์ปฏิรูปการเมือง พบว่าร้อยละ 48.82 สบายใจที่เห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย การชุมนุมประท้วงยุติ ขณะที่ ร้อยละ 15.91 สบายใจที่คาดว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ที่ดี ล้มเลิกระบอบทักษิณ ร้อยละ 13.38 สบายใจที่ไม่มีเหตุการณ์ รุนแรง ร้อยละ 10.32 สบายใจที่จะเห็นการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่และจัดระเบียบทางการเมืองให้ดีขึ้น ส่วนหัวข้อสิ่งที่ประชาชนหนักใจ พบว่าร้อยละ 20.35 หนักใจว่า อาจเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ขณะที่ร้อยละ 15.65 หนักใจ การสรรหานายกฯคนใหม่ และร้อยละ 11.48 หนักใจเพราะกลัวว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง ขณะที่ร้อยละ 9.74 กลัวว่า อาจจะมีปฏิวัติซ้อน

ครูประทีป ทิ้งเก้าอี้ที่ปรึกษาฯ

นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีต ส.ว.กทม. ที่ได้รับแต่งตั้งจาก คปค.ให้เป็นคณะกรรมการฝ่ายเสริมสร้างสมานฉันท์และความเป็นธรรมในสังคม กล่าวว่า ได้ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว โดยให้เหตุผลไปว่า การรับตำแหน่งคณะกรรมการฯที่มาจากการยึดอำนาจการปกครองเป็นการกระทำที่สวนทางกับหลักการเดิมของตน แต่จะขอรับใช้ชาติบ้านเมืองในวิถีทางที่ตัวเอง มีความเชื่อมั่นและศรัทธา ขอเป็นฝ่ายตรวจสอบการทำงาน ของ คปค. หาก คปค.มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามที่ได้ให้คำมั่นต่อสาธารณชนไว้ คงจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการทำงานของภาคประชาชน

กก.สิทธิฯจับตาดูกลุ่มอำนาจใหม่

นายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ขอให้ คปค.จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และยกเลิกคำสั่งที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดย เฉพาะกฎอัยการศึกที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวและกระบวนการร่าง รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ต้องประกันความอิสระและการมี ส่วนร่วมของภาคสังคมอย่างแท้จริง สภาร่างรัฐธรรมนูญต้องเป็นอิสระ มีตัวแทนที่คัดเลือกกันเองจากทุกภาคส่วน ของสังคม กระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนต้องเป็นไปอย่างจริงจัง ตั้งแต่ก่อนยกร่าง ไม่ใช่ยกร่างแล้วถึง มารับฟัง ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการประชามติ ให้กำหนด ให้ชัดเจนว่าต้องนำร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และประกาศใช้ได้เลย ส่วนกระแส ข่าวที่มีการวางตัว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็น นายกรัฐมนตรีนั้น ไม่สามารถประเมินโดยไม่รู้จักได้ แต่ ไม่ว่าจะเป็นใครอยากให้ทุกฝ่ายติดตามความประพฤติของผู้มีอำนาจกันต่อไป

ครป.บี้ถอนรากกลุ่มทุน ทรท.

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นใครไม่สำคัญเท่ากับการเร่งสร้างสมานฉันท์ ของคนในชาติ แม้การยึดอำนาจโดย คปค.จะทำให้สถานการณ์ คลี่คลายในช่วงสั้นๆ เพราะอำนาจกองทัพเข้ามา ควบคุมสั่งห้ามทุกฝ่ายเคลื่อนไหว แต่ไม่ได้ทำให้ความแตกแยกหายไป คปค.และรัฐบาลชุดใหม่ควรเร่งประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาฝ่ายสมานฉันท์ เพื่อวางกรอบแนวทางการฟื้นฟูสมานฉันท์ในระยะยาว เพราะระบอบทักษิณถึงจะถูกยึดอำนาจทางการเมืองหรืออำนาจรัฐ แต่อำนาจเงินและอำนาจมวลชนยังมีอยู่เหนียวแน่น สามารถปลุกปันมวลชนได้ตลอดเวลาหลังมีรัฐบาลใหม่และเงื่อนไขทางการเมืองเปิดมากกว่านี้ ถึงตอนนั้นคงมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย คปค.ควรสร้างกลไกขึ้นมาระวังภัยเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มทุนในพรรคไทยรักไทยมีมากกว่า 10 กลุ่ม และยังมีกองทุนการเงินต่างประเทศเป็นพันธมิตรด้วย กลุ่มทุนเหล่านี้พร้อมลงขันสู้เต็มที่

นักวิชาการเรียกหาเสรีภาพ

ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเวลา 13.00 น. ได้มีการจัดสัมมนาวิชาการเรื่องบทบาทของวงวิชาการในกระบวนการสร้างและจรรโลงประชาธิปไตย โดยนางจุรี วิจิตรวาทการ ประธานศูนย์สาธารณ ประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวตอนหนึ่งว่า คนไทยคงไม่มีทางดีขึ้นถ้ายังไม่ปลูกฝังหลักการประชาธิปไตยในเรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริงไปสู่ประชาชน ส่วนนักวิชาการนั้นไม่จำเป็นต้องคิดเห็นเหมือนกัน การมีความคิดที่หลากหลายจะช่วยสร้างความเข้มแข็งและทำให้เกิดพลัง แต่ต้องสร้างสมานฉันท์ในหมู่นักวิชาการ เพื่อช่วยกันสื่อสารไปถึงประชาชน

ขณะที่นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีต ส.ว.กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ความเห็นต่อการทำรัฐประหารแตกต่างกันมาก ในคืนวันที่เกิดรัฐประหารตนรู้สึกโล่งใจ แต่ขณะนี้รู้สึกหนักใจ เกรงว่าสังคมไทยจะหนีเสือปะจระเข้ เพราะเรากำลังอยู่ในระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ทุกคนกำลังวิ่งเข้าหาผู้มีอำนาจโดยอาศัยเส้นสาย อยู่ที่ว่าใครเส้นใหญ่ กว่ากัน โดยส่วนตัวรับไม่ได้กับรัฐธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราวที่จะออกมา ประเทศไทยกำลังถอยหลังไป 15 ปี กลับไปสู่ยุค รสช. จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนที่เคยถูกระบอบทักษิณมอมยาตื่นขึ้นมา เพราะเรากำลังถูกมอมยาในอีกรูปแบบหนึ่งโดย คปค. สิ่งที่คนไทยทุกคนควรต้องทำคือ ร่วมกันสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยไม่ใช้ระบบเส้นสาย และร่วมพลังกันตรวจสอบการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์