สหรัฐฯสารภาพมีเอี่ยวยึดอาวุธสงครามในไทย มาร์คลั่นเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้ใช้ทางผ่าน

สหรัฐฯสารภาพมีเอี่ยวยึดอาวุธสงครามในไทย "มาร์ค"ลั่นเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้ใช้ทางผ่าน

ผู้อำนวยการข่าวกรองสหรัฐฯ สารภาพครั้งแรกมะกันมีบาทบาทสำคัญการยึดอาวุสงครามของไทย เผยเป้าหมายส่งอยู่ที่ตะวันออกกลาง "มาร์ค" แจงเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้ใช้ไทยเป็นทางผ่าน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายเดนนิส แบลร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ดีเอ็นไอ) หน่วยงานประสานงานด้านการข่าว ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาหลังเหตุการณ์วินาศกรรมเวิร์ลด์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 เขียนบทความแสดงความคิดเห็นตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ฉบับประจำวันที่ 19 ธันวาคม เนื่องในวาระครบรอบ 5 ปีของการตรากฎหมายเพื่อการประสานงานหน่วยงานด้านการข่าวที่มีอยู่ 16 หน่วยงานของสหรัฐฯ โดยยกกรณีการตรวจจับอาวุธเกาหลีเหนือบนเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ อิลยูชิน-76 ในประเทศไทยว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์ก ระหว่างหน่วยงานด้านการข่าวหลายหน่วยงานทั้งในสหรัฐและประเทศพันธมิตร โดยอาวุธดังกล่าวมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ตะวันออกกลาง


ทั้งนี้ เอเอฟพีระบุว่า การกล่าวอ้างถึงการยึดอาวุธเกาหลีเหนือในไทยของนายแบลร์ครั้งนี้ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของอาวุธล็อตใหญ่บนเครื่องบินลำดังกล่าว และเป็นการยืนยันการเข้ามามีบทบาทเกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกอีกด้วย


"ขณะที่ความสำเร็จหลายๆ กรณีจำเป็นต้องรักษาเอาไว้เป็นความลับอยู่ต่อไป แต่มีหลายๆ อย่างที่สาธารณชนสามารถรับรู้และควรรับรู้เกี่ยวกับผลของความเปลี่ยนแปลงที่มี และทิศทางของความพยายาม รวมทั้งแหล่งทรัพยากรทั้งหลายที่สหรัฐมีอยู่"


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการแปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 15 และพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 5 ณ กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก แถลงผ่านระบบเทเลพรีเซ็นต์ มายังบริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชั้น 28 อาคารดิออฟฟิตเคส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ ถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าต้องทำลายอาวุธสงครามที่ทางการไทยยึดได้จากขบวนการค้าอาวุธต่างชาติ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องทางเทคนิค โดยนโยบายของเรามีเพียงว่าเราจะทำตามข้อมติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกฎหมายภายในของเรา แต่เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย และตัวอาวุธมีความหลากหลาย จึงต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง


"ถ้าข้อมติบอกว่าต้องทำลาย เราก็ทำลาย แต่ถ้าบอกว่าเราเก็บไว้ได้ เราก็เก็บไว้ ไม่มีอะไรพลิกแพลง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นต้องปรึกษาหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ตอนแรกเราเข้าใจว่าไม่ใช่อาวุธร้ายแรงอะไร จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการทำลาย แต่ตรงนี้ต้องตรวจสอบก่อน"


เมื่อถามว่า ถ้าจะมีการทำลายอาวุธจริง รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องมีความมั่นใจในเรื่องความสามารถทางเทคนิค ส่วนค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องเรียบร้อยก่อน ทางยูเอ็นต้องมีความรับผิดชอบที่จะช่วยดูแล เพราะถ้าทำลายก็ทำตามกติกาของยูเอ็น ทั้งนี้ไม่ทราบว่าถ้าทำลายจริงจะต้องทำภายในประเทศหรือไม่ เพราะต้องดูช่องทางและศักยภาพด้วย เพราะของแบบนี้ไม่ใช่โยนทิ้งถังขยะเฉยๆ


เมื่อถามว่า สามารถขยายผลได้แล้วหรือไม่ว่าอาวุธเหล่านี้มีปลายทางอยู่ที่ใด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันตอบยากเพราะเขาเติมน้ำมันบ่อย เครื่องบินบรรทุกของหนักมาก จึงเติมน้ำมันบ่อย เราจึงรู้แค่ว่าเราจะไปเติมน้ำมันต่อที่ไหน ซึ่งยากที่จะรู้ว่าปลายทางอยู่ที่ใด เมื่อถามว่า ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นตลาดขนส่งอาวุธ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่เราปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ใช่ตลาดทางผ่านของอาวุธ รัฐบาลพร้อมจะเป็นตัวอย่างของคนที่เป็นสมาชิกที่ดีของประชาคมโลก เพราะฉะนั้นเหตุผลหนึ่งที่เราเดินหน้าทำเรื่องนี้ ก็เพื่อส่งสัญญาณว่าไทยจะไม่เป็นพื้นที่ เป็นตลาดหรือทางผ่าน ถ้าเกี่ยวกับเรื่องของสันติภาพหรือการไปใช้อาวุธเพื่อความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใดในโลก นี่คือสัญญาณที่เราส่งไปชัด ซึ่งเราหวังว่าจะทำให้ปัญหาของการใช้เส้นทางประเทศไทยลดน้อยลงไป เป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ ซึ่งเราเดินหน้าจริงจังในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านบอกว่ารัฐบาลไทยกำลังจะชักศึกเข้าบ้าน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลทำไปโดยไม่ได้มีการไปเกี่ยวพันอะไรกับความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของการที่เครื่องบินเข้ามาแล้วมีข้อสงสัยก็ตรวจสอบ และเมื่อตรวจสอบแล้วก็ปฏิบัติตามข้อมติ เราไม่ได้ไปว่าอะไรใคร และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น เรายังไม่มีการไปกล่าวหาใครทั้งสิ้น เราทำหน้าที่ของเราเท่านี้ เราอยู่บนความพอดี


"ผมคิดว่าถึงเวลาที่คนไทยและประเทศไทยจะต้องมีบทบาทชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคมโลก ถ้าเราคิดเพียงว่าอะไรเราก็ไม่ทำ แม้เป็นหน้าที่เราก็ไม่ทำ ซึ่งมันไม่ช่วยภาพลักษณ์ของไทยเลย และจากคำถามดังกล่าวก็สะท้อนว่ามีคนมักกล่าวหาประเทศไทยว่าเป็นทางผ่านยาเสพติด การค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่เราทำด้วยความรอบคอบเพียงพอที่จะไม่ลากให้เรื่องเข้าไปอยู่ในความขัดแย้งกับใคร"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์