รุมซัดมติกกต. จตุพรบอกอัปยศ ชี้ควรชัดเจนยุบ-ไม่ยุบปชป. จาตุรนต์อัดโยนเผือกร้อนให้ปธ.ตัดสินใจ

รุมซัดมติกกต. "จตุพร"บอกอัปยศ ชี้ควรชัดเจนยุบ-ไม่ยุบปชป. "จาตุรนต์"อัดโยนเผือกร้อนให้ปธ.ตัดสินใจ

กรณีที่ประชุมกกต.มีมติเสียงข้างมากให้นายทะเบียนพรรคการเมืองใช้ดุลพินิจในการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ตามมาตรา95 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองชี้ขาดกรณีสำนวนเงิน 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์อาจได้รับจากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2548 ที่อาจขัดต่อพ.ร.บ.พรรคการเมือง


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมติ กกต.ว่า มติดังกล่าวถือเป็นมติที่น่าอัปยศ หน้าด้าน และน่าอับอายที่สุด การลงมติของ กกต.เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ผลที่ออกมาจะต้องแสดงให้ชัดเจนว่ายุบหรือไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่โยนให้นายอภิชาติ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการใช้กฎหมายอย่าง 2 มาตรฐานอย่างชัดเจนกับกรณีการยุบพรรคพลังประชาชน ทั้งที่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานและใบเสร็จที่ชัดเจนทุกอย่าง หาก กกต.อยู่ใกล้ตนจะให้ปลัดขิกสัก 1 อัน


"องค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้การแต่งตั้งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นอุปสรรค และไม่แปลกที่องค์กรอิสระเหล่านี้จะช่วยกัน เพราะมีรายการ คุณขอมา เหมือนกับที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ไม่ใส่ชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในคดีรถดับเพลิง คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นเดียวกันที่มีคุณขอมาและจะมีกระบวนการช่วยกันในชั้น กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ" นายจตุพรกล่าว


ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นทวิตผ่านเว็บบล็อก Twitter.com ว่าที่ กกต.เสียงข้างมากให้นายทะเบียนตัดสินใจเอง ฟังแล้วแปลกดี ไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร เหมือนโยนเผือกร้อนให้ประธาน กกต.ไปเต็มๆ แรงกดดันจะอยู่ที่ประธาน กกต.ไปจนกว่าจะมีข้อสรุปออกมา แต่สุดท้าย กกต.ทั้งคณะต้องร่วมกันรับผิดชอบ 


"ผู้กล่าวหาไม่ใช่ใครก็ไม่รู้แต่เป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เขาสรุปว่าผิดล้านเปอร์เซ็นต์ ดีเอสไอเขามีหลักฐานเป็นตั้งๆ กกต.กลับไม่เชื่อสักที แถมยังถ่วงเวลามาเรื่อย ถ้าขั้นนี้ช่วยกันอีกจะยิ่งตอกย้ำความอยุติธรรมหนักเข้าไปอีก ทั้งดีเอสไอและ กกต. 4 เสียงเห็นตรงกันแบบนี้พรรคประชาธิปัตย์คงป่วนพอดู ประธาน กกต.เคยเสนอให้ยุบพรรคมาแล้วหลายกรณี มาครั้งนี้ทั้งดีเอสไอและ กกต.4 คน เห็นไปทางเดียวกัน แล้วประธานจะออกยังไง" นายจาตุรนต์ระบุ


ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ถือว่าเป็นกระบวนการที่ กกต.ปฏิบัติตามกฎหมาย และพรรคยังคงยืนยันที่จะให้การสนับสนุนในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ผ่านมาก็เปิดเผยถึงแหล่งที่มาของรายได้มาโดยตลอด ไม่ว่าเงินสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้จากกองทุนพรรคการเมือง หรือเงินบริจาคที่ได้จากการระดมทุนครั้งต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าในจำนวนเงินบริจาคไม่มีตัวเลข 258 ล้านบาท ที่ได้จากบริษัท ทีพีไอโพลีนฯ อย่างแน่นอน


นอกจากนี้ รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอกำลังจับตามองการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาคบริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) หากนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นว่าไม่มีความผิด ดีเอสไอจะเข้าไปสอบสวนต่อ เนื่องจากความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองและ พ.ร.บ.การเลือกตั้งมีความผิดอาญาพ่วงอยู่ ซึ่งเป็นอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ ตามที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติให้รับคดีไซฟ่อนเงินของบริษัททีพีไอเป็นคดีพิเศษไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ จากหลักฐานที่รวบรวมได้ในชั้นสอบสวนดีเอสไอค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพยานเอกสาร โดยเฉพาะหลักฐานทางการเงินการธนาคาร


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์