สื่อเทศอ้างพระหมอดูไทย ทายทักษิณจะยิ่งใหญ่อีก

เคยโทรศัพท์ขอดูดวงให้ ทายจะถูกคนปองร้ายถึงชีวิตก่อนคาร์บอมบ์ และจะถูกขับออกจากตำแหน่งในไม่ช้า ยูเอ็นชี้ คปค. ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน มะกันก่นด่าทำไทยถดถอดจี้อย่าทำเพราะการเมือง

อ้างว่าเคยดูดวงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับคำยืนยันว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในเร็วๆ นี้แน่นอน

เจ้าอาวาสวัย 64 ปีเผยว่า ก่อนหน้านี้อดีตนายกรัฐมนตรีเคยโทรศัพท์มาเพื่อขอให้ดูดวงให้ ซึ่งตอนนั้นก็บอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า จะถูกคนปองร้ายถึงชีวิต และจะถูกขับออกจากตำแหน่งในไม่ช้า

"อาตมาบอกพ.ต.ท.ทักษิณไปว่า ศัตรูอยู่ข้างนอก และต้องการทำอันตรายเขา จึงบอกให้เขาระวังตัว แต่อาตมาได้อธิบายต่อว่า แม้ศัตรูจะต้องการฆ่า แต่สุดท้ายจะทำไม่สำเร็จ" พระวิจิตรสุทธการ กล่าว

หลังจากที่คุยโทรศัพท์กันเพียงไม่กี่วัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รอดชีวิตจากคดีคาร์บอมบ์ใกล้บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ก่อนจะตามมาด้วยการยึดอำนาจ

เจ้าอาวาสวัย 64 ปี กล่าวต่อว่า แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะมีเคราะห์ แต่ดูไม่น่าหนักใจมากนักเพราะได้รับความช่วยเหลือจากหนึ่งในพรรคพวกคนสนิทคนหนึ่ง ก่อนจะยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในเร็วๆ นี้ อาจจะเป็นการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากโชคของอดีตนายกรัฐมนตรีจะดีขึ้นหลังพ้นเดือนเมษายนปีหน้าไปแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มติดต่อกับอาตมาหลังชนะการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2544 โดยหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมักจะติดต่อมาหาบ่อยๆ เมื่อต้องการคำปรึกษาหรือผู้ช่วยในเรื่องเร่งด่วน

เจ้าอาวาสวัดโพธิ์บางคล้ายังเผยถึงบทสนทนาครั้งสุดท้ายด้วยว่า ได้ให้คำแนะนำไปหลายข้อ โดยเฉพาะการขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนทิศทางการนอน ซึ่งอดีตนายกรัฐมนตรีก็เชื่อและทำตามคำแนะนำของตนเสมอ ซึ่งตอนนี้อาตมาและบรรดาลูกศิษย์ลูกหายังเฝ้ารอวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับสู่อำนาจ นอกเหนือจากสวดมนต์ให้ให้มีสุขภาพแข็งแรง

"เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี แต่ก็เหมือนกับปุถุชนทั่วไปที่มีทั้งด้านดีและเลว" พระวิจิตรสุทธการกล่าวทิ้งท้าย

อีกทั้งพระชื่อดังที่เคยดูดวงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จนเป็นข่าวเกรียวกราวมาก่อนหน้านี้คือ หลวงพ่ออำนวย วัดธรรมิการาม หรือวัดค้างคาว จ.ลพบุรี

คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (25 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ระบุว่าการกระทำของคณะปฏิรูปการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฝ่าฝืนอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน จนก่อให้เกิดความวิตกกังวลด้านสิทธิมนุษยชนตามมาเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ คปค. รับประกันว่าจะเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน กับรื้อฟื้นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ถูกล้มเลิกไปขึ้นมาใหม่

ประกาศใช้กฎอัยการศึก ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2540 ยกเลิกรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งประกาศต่างๆที่ คปค.ออกมานั้นจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหลายข้อด้วยกัน รวมถึง สิทธิในการชุมนุม และแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ตลอดจนมีการจับกุมตัว และคุมขับตามอำเภอใจ พร้อมเรียกร้องให้คปค.รีบคืนสิทธิ์เหล่านี้โดยเร็ว

วันเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐได้เรียกร้องให้ คปค.หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่มีแรงจูงใจในทางการเมือง โดยนายทอม เคซีย์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าสิ่งที่สหรัฐต้องการเห็นคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด แ

ละการสอบสวน หรือการดำเนินการใดๆที่เกิดขึ้นขอให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายมากกว่าที่จะทำเพื่อวัตถุประสงค์ในทางการเมือง พร้อมเสริมด้วยว่าสหรัฐติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำใดๆที่มีแรงจูงใจทางการเมือง โดยถ้อยแถลงนี้มีขึ้นในระหว่างที่กำลังมีการตรวจสอบการคอรัปชั่นของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่ถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา

นายเคซีย์เสริมด้วยว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐได้พูดคุยกับคปค.เรื่องการออกข้อห้ามต่างๆ พร้อมเสริมว่าการจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นดัชนีชี้วัดว่าประเทศไทยกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยแล้ว และทำให้สหรัฐเชื่อว่าไทยกลับสู่สถานการณ์ที่ประชาชนมีรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน ส่วนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลานั้น ขอให้กระทำไปตามหลักกฎหมายไทย

ด้านน.ส.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่า การรัฐประหารในไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปรียบเสมือนจุดวกกลับของการเมืองในประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำยึดอำนาจเร่งนำประเทศกลับสู่หนทางที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด

น.ส.ไรซ์กล่าวว่า สหรัฐรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการยึดอำนาจ และต้องการให้จัดตั้งรัฐบาลพลเรือนและจัดการเลือกตั้ง ตลอดจนกลับไปสู่หนทางประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี นางสาวไรซ์ไม่มองว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้าน