ทรท.คุยฐานการเมืองแน่น ไม่ยี่หระปฏิวัติ-ตรวจทรัพย์สิน

"ต้องรอดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อน"


นายเอกพร รักความสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าววานนี้ (25 ก.ย.) ถึงบทบาทของพรรคไทยรักไทยภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆคงจะทำอะไรได้ยาก

คงต้องรอดูรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คปค.จะร่างออกมา ที่จะสะท้อนถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมีการยกร่างขึ้นมาด้วย สถานการณ์ขณะนี้เวลาที่ใช้ในการร่างรัฐธรรมนูญควรจะสั้นที่สุด การจะสร้างอำนาจในรัฐธรรมนูญต้องดูบทเรียนในอดีตพอสมควร สิ่งใดที่เป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับประเทศไทยต้องคิดให้ดี ตนเห็นว่าวิธีที่ดีคือ ไม่ควรใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมด

"แนะให้ทำรัฐธรรมนูญใจความกระชับ"


แต่ควรเขียนรายละเอียดขึ้นมาใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยากให้ลดสัดส่วนของ ส.ส. รวมถึงการพิจารณาที่มาของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้งควรสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ให้รัฐธรรมนูญเป็นฉบับสั้นๆ ไม่ควรจะเขียนรายละเอียดมากจนเกินไป เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บางเรื่องที่เขียนเอาไว้ก็ไม่ได้นำมาใช้ หลายเรื่องเป็นนามธรรม ไม่มีสภาพบังคับ

ไม่ควรที่จะใส่ลงไป เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา จะเห็นได้ว่าไม่มีบทบาท เป็นเสมือนเพียงคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนอะไรได้ ในหลายๆองค์กรมีลักษณะแบบนี้ ส่วนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หากสามารถทำเป็นระบบได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี อาจจะตั้งขึ้นมาเป็นองค์กรที่สังกัดอยู่ในระบบศาลก็ได้

"มั่นใจรากฐาน ทรท.แน่นหนา"


"ควรคิดทำอะไรเองให้เหมาะสมกับประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องลอกจากต่างประเทศอย่างเดียว รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เขียนเอาไว้กว่า 300 มาตรา ความจริงเขียนหลักๆให้ชัดเจนเพียง 50 มาตราก็พอแล้ว" นายเอกพร กล่าว

นายเอกพร กล่าวต่อว่า วิกฤตทางการเมืองขณะนี้ จะพิสูจน์ถึงความเป็นพรรคไทยรักไทยว่า จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้หรือไม่ ส่วนตัวยังเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยมีฐานรากที่แน่นหนากว่าพรรคการเมืองในอดีต ที่เมื่อมีการปฏิวัติเกิดขึ้น พรรคการเมืองก็จะแตกกระจัดกระจายกันไปหมด แต่พรรคไทยรักไทยขณะนี้ ทั้งนโยบายและเสียงตอบรับจากประชาชน คิดว่าจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้

"ทรท.ยังไม่มีการเคลื่อนไหว"


แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่า สถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้จิตใจและความมุ่งมั่นของคนจะยังมีอยู่หรือเปล่า ขณะนี้พรรคไทยรักไทยไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นองค์รวม เนื่องจากไม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ความเห็นที่ออกมาจึงเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ทำให้บางครั้งดูเหมือนว่าพรรคไทยรักไทยมีปัญหา

อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าวกรณี คปค.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทย ว่า เป็นการกระทำตามกระแสและความรู้สึกว่ามีการโกงและทุจริตเกิดขึ้น

"ขอให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง"


จึงพร้อมให้คปค.เข้ามาจัดการ อย่างไรก็ตาม สมัยสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)

ก็มีการตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดศาลยุติธรรมก็ตัดสินว่าเป็นโมฆะ ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของอดีตรัฐมนตรี และอดีตส.ส.อย่างเข้มงวด จึงขอให้การตรวจสอบอย่าเป็นเพียงแค่กระแสผลที่ออกมาสังคมจะพิพากษาได้ และปัญหาจะเกิดกับผู้ปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์