ประมวล แนะ คปค.เร่งยึดทรัพย์อดีต รมต.หวั่นใช้ปลุกระดม

ประมวล เสนอกรอบแก้ รธน.เปิดกว้างเสรีภาพของประชาชนในการตรวจสอบ


ลบภาพอำมาตยาธิปไตย พร้อมแนะ คปค.เร่งอายัดทรัพย์อดีต รมต.พรรคไทยรักไทย ก่อนคดีถึงมือศาลฎีกาแผนกดคีอาญา หวั่น เคลื่อนย้ายทรัพย์ และนำเงินไปปลุกระดม

วันนี้ (25 ก.ย.) นายประมวล รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช


กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ว่า วันนี้ไม่ควรมองที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งระบบ เช่น ระเบียบการบริหารราชการ พรรคการเมือง นักการเมือง และสื่อด้วย ซึ่งสิ่งที่ควรแก้ไขในขณะนี้ คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากที่สุด รวมถึงการนำเสนอนโยบาย และการมีส่วนร่วมในระบบตรวจสอบ


ส่วนพรรคการเมืองจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงพรรค

โดยไม่ปล่อยให้นายทุนเข้ามาครอบงำ ต้องกำหนดว่าใครจะได้ลงสมัครหรือใครจะได้เป็นรัฐมนตรี โดยประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมทั้งทุนและการตัดสินใจ ดังนั้นประชาชนจะต้องเสียค่าบำรุง และสามารถเลือกผู้สมัครของพรรคที่ตนเองสนับสนุน และร่วมกำหนดนโยบายของพรรค เพื่อลดการซื้อเสียงของนักการเมือง ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเฉลี่ยคนละ 15-20 ล้านบาท

นายประมวล กล่าวต่อว่า


นอกจากนี้ ควรมีการปฏิรูประบบบริหารราชการ เพราะขณะนี้เป็นลักษณะอำมาตยาธิปไตย ที่ข้าราชการเป็นเจ้าของอำนาจรัฐ ขณะที่ประชาชนเป็นเพียงผู้อาศัย รวมถึงการลดงานในคณะรัฐมนตรี เพื่อเน้นน้ำหนักไปที่การตรวจสอบ และกำหนดนโยบายในภาพรวม การจัดตั้งองค์กรธรรมาภิบาล เพื่อให้การดูแลข้าราชการโดยป้องกันการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมของฝ่ายการเมือง


ขณะเดียวกัน ยังป้องกันการไม่ยอมรับของข้าราชการที่มีต่อฝ่ายการเมือง และการกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นให้มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับส่วนภูมิภาค

และการให้เสรีภาพกับสื่อมวลชน โดยปลอดจากการแทรกแซงของกลุ่มทุน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นหลักสำคัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดรับกัน

นายประมวล กล่าวถึงกรณีที่


คปค.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สิน และโครงการทุจริตของอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลไทยรักไทย ว่า ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจาก คปค.อ้างว่า มีการทุจริตขึ้นในคณะรัฐมนตรีชุดเก่า ดังนั้น จึงต้องมีการพิสูจน์ตามที่พูดไว้ แต่ขอให้การพิสูจน์เกิดความเป็นธรรม โดยใช้วิธีการทางกฎหมาย ไม่ใช่การใช้อำนาจพิเศษตามประกาศของคปค.และทางที่ดีควรอายัดทรัพย์สินก่อน ตามด้วยการพิสูจน์ทีละประเด็นโดยให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ตรวจสอบ


หากพบว่าไม่มีความผิดก็คืนทรัพย์สินเหล่านั้น

เพราะการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบก่อน แล้วอายัดทรัพย์สินภายหลัง เชื่อว่าพอถึงวันนั้นจะอายัดทรัพย์ได้เพียงไม่กี่ล้านบาท ดังนั้น เพื่อความสะดวกจึงควรอายัดทรัพย์สินก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้นำเงินไปปลุกระดม หรือเคลื่อนย้ายเงินในขณะนี้

ขอบคุณข้อมูลและภาพ: ผู้จัดการออนไลน์ ( manager.co.th )

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์