ชวรัตน์กั๊กจุดยืนโหวตผบ.ตร.คนใหม่ เผยผลสอบจัดซื้อจยย.สมัยนายกฯสมัคร ชี้ชัดฮั้ว ล็อคสเปค

"ชวรัตน์"กั๊กจุดยืนโหวต"ผบ.ตร."คนใหม่ เผยผลสอบจัดซื้อจยย.สมัยนายกฯสมัคร ชี้ชัดฮั้ว ล็อคสเปค

มท.1ปฏิเสธตอบจุดยืนเดิมเลือกผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ ลั่นขึ้นอยู่กับ"มาร์ค"เสนอใคร อยากได้ตัวเร็วๆ แต่ก็ข้องใจเสนอ "ปทีป"ได้อีกหรือไม่ เผยผลสอบจัดซื้อจยย.สมัยนายกฯ "สมัคร" ระบุมีการฮั้วชัดแจ้งและล็อคสเปคล่วงหน้า

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน กรณีที่ประชุม ก.ต.ช.มีมติแต่งตั้ง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลัง เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านงบประมาณ แทนนายปิยะพันธ์ นิมมานเหมินทร์ ว่า "ผมทำงานกับใครไม่มีปัญหา ส่วนตัวไม่เคยรู้จักหรือทำงานร่วมกับ น.ส.สุภามาก่อน"


เมื่อถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะได้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปีหน้า จะช้าเกินไปหรือไม่ นายชวรัตน์หัวเราะ และกล่าวว่า "ไม่ตอบดีกว่า"เมื่อถามว่า ยังยืนยันจุดเดิมในการโหวตเลือก ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับว่านายกฯจะเสนอใคร จะเสนอคนเดิมได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ เพราะท่าน (พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.) เป็นรักษาการไปแล้ว ต้องไปเปิดกฎหมายดูว่าจะเสนอได้หรือไม่ ก็อยากจะให้ได้ ผบ.ตร.เร็วๆ"


ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ล่มกลางคลองมาตลอดจนจะสิ้นปีแล้วยังไม่มี ผบ.ตร.ตัวเป็นๆ ให้ไปฉลองปีใหม่กับลูกหลาน หากเป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว อาจโดนด่าชุดใหญ่ว่าไร้วุฒิภาวะไล่ให้ลาออกรายวันไปแล้ว


ด้านคดีการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ 19,147 คันนั้น พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ประกอบด้วย พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.2 บก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.4 บก.ป. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม


พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน มี บช.ก.และ บก.ป.ร่วมเป็นคณะทำงาน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องสอบสวนให้เกิดความเป็นธรรม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จากนั้นคงจะทราบว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่จากการตรวจสอบการรวบรวมพยานหลักฐานของ บก.ป.ในเบื้องต้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ


"ไม่หนักใจครับ เพราะท่านปทีป กำชับอยู่แล้ว ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด ใครเกี่ยวข้อง ใครผิด ก็ต้องว่าไปตามนั้น นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากสอบสวนกลางลงมาควบคุมดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วง ไม่หนักใจนะครับŽพล.ต.ท.ภาณุพงศ์กล่าว และว่า ส่วนคดีจะส่งผลทางการเมืองหรือไม่นั้น คงต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐาน ซึ่งจะมีการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดหมายไว้แล้ว ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคมนี้"


ข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ พล.ต.อ.ปทีปตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมารับผิดชอบคดี เนื่องจาก 1 ในผู้ที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ตร. เพื่อให้มีการพิจารณาเปลี่ยนตัวคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. แต่ ตร.พิจารณาแล้วเห็นควรให้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมจากชุดเดิมที่มีอยู่แล้ว


ข่าวแจ้งว่า นอกจากพนักงานสอบสวน บก.ป.จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงหลายนายมาสอบปากคำแล้ว ยังเตรียมที่จะทำหนังสือเชิญ พล.ต.อ.คนหนึ่ง ที่ปัจจุบันเป็น ก.ต.ช.เข้าให้ปากคำด้วย โดย ก.ต.ช.คนนี้สนับสนุนให้ พล.ต.อ.ปทีปเป็น ผบ.ตร.คนใหม่


รายงานข่าวแจ้งว่า การกล่าวหาเรื่องการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงปี 2551 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รับการร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี กระทั่ง ตร.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ จเรตำรวจ (สบ 8) สมัยนั้นเป็นประธานคณะกรรมการ โดยทางคณะกรรมการได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ ตร.ทราบว่ามีมูล และแจ้งความต่อ บก.ป.เพื่อดำเนินคดี ซึ่งในระยะแรก มีการดำเนินคดีกับบริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด ในข้อหาฉ้อโกง แต่ในที่สุดพนักงานสอบสวนมีการสั่งไม่ฟ้อง จนกระทั่ง ตร.มีการตรวจสอบเพิ่มเติมและแจ้งข้อหาใหม่ จน บก.ป.ดำเนินการตรวจค้นและออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเป็นพยานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ตร.จะสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการแล้ว ในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 71/2551 ตั้งนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องการทุจริต รวมทั้งเรื่องการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี ด้วย โดยคณะกรรมการสืบสวนฯมีความเห็นว่า มีการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้เสนอราคาบางรายให้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับ ตร.และกีดกันผู้เสนอราคารายอื่นๆ มิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม


คณะกรรมการสืบสวนเห็นว่า 1.มีการรวบอำนาจการจัดซื้อไว้ที่ส่วนกลาง และของบประมาณผูกพัน 3 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร 2.มีการกำหนดการส่งมอบงาน ไม่สอดคล้องกับความเร่งด่วน 3.ประกาศเชิญชวนเพื่อคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้นในการซื้อและการจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบ 4.มีรายงานว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ที่เคยจัดซื้อมีคุณภาพไม่ดี โดยตัวแทนของหน่วยงานระดับกองบัญชาการเคยทักท้วงและรายงานข้อมูลให้ทราบแล้ว แต่ไม่นำไปประกอบการพิจารณาจัดซื้อ 5.การอุทธรณ์ของบริษัทแพล็ททินัม มอเตอร์ เซลส์ จำกัด ฟังขึ้น แต่มีการยกอุทธรณ์ จึงเห็นได้ว่ามีการจงใจกีดกัน บริษัท แพล็ททินัมฯ ซึ่งมีคุณสมบัติถูกต้องตามประกาศประกวดราคาให้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เสนอราคา 6.ผู้เสนอราคามีคุณสมบัติไม่ครบ 3 ราย และได้ตรวจสอบพบว่า มีการวางแผนล็อคสเปคล่วงหน้า และ 7.คณะกรรมการประกวดราคา ไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาให้ถูกต้อง และตรงตามขอบเขตงานที่กำหนด (ทีโออาร์)


"จึงเห็นได้ว่าในการจัดซื้อครั้งนี้ น่าจะมีการกระทำที่มุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดมีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือรู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏชัดแจ้งว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนี้ มีการกระทำผิดแต่ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนี้ หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (กฎหมายฮั้ว) คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจึงรายงานมายังนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้ ตร.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์