สุเทพเมินข้อเสนอสุรเกียรติ์เจรจาเขมรก่อน หลังอดีตรมว.ต่างประเทศชี้2ชาติเกลียดกันเพราะคนๆ เดียว

สุเทพ"เมินข้อเสนอ"สุรเกียรติ์"เจรจาเขมรก่อน หลังอดีตรมว.ต่างประเทศชี้2ชาติเกลียดกันเพราะคนๆ เดียว

"สุรเกียรติ์"ชำแแหละปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา" เริ่มจากพระวิหาร เส้นแดนทางทะเล ติงรบ.ไทยไร้ยุทธศาสตร์สานสัมพันธ์เพื่อนบ้านชัดเจน ติงฝ่ายการเมือง-ขรก.พูดผ่านสื่อไว ขาดเอกภาพ แนะลดกระแสค่านิยม ไม่จำเป็นต้องยกเลิกเอ็มโอยู ถามจะปล่อยให้2ชาติเกลียดกันเพราะคนๆ เดียวหรือ


"สุเทพ"เมินข้อเสนอ"สุรเกียรติ์"เจรจาเขมรก่อน


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เสนอให้รัฐบาลเปิดเจรจากับทางกัมพูชาก่อนเพื่อแก้ปัญหา พร้อมให้เหตุผลว่าไม่ใช่การเสียหน้า และแนะนำให้ดึงปัญหาเป็นปัญหาของอาเซียนว่า อาจคิดไม่เหมือนกัน รัฐบาลคิดว่าเป็นเรื่องของ 2 ประเทศ ซึ่งไม่จำเป็นต้องยกระดับให้เป็นปัญหาของอาเซียนหรือสูงกว่านั้น ทางกัมพูชาและไทยต้องหาเวลาที่เหมาะสม เพื่อปรับความเข้าใจกัน ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้คิดเรื่องการเสียหน้า แต่ตราบใดที่เงื่อนไขไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถือว่าลำบากที่จะเจรจา แต่คิดว่าอีกสักพักทางกัมพูชาจะเข้าใจในข้อเท็จจริง 


นายสุเทพ กล่าวถึงข่าวรัฐบาลยื่นเงื่อนไขไปถึงรัฐบาลกัมพูชา โดยขอให้ปลด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากการเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจว่า ตนไม่ทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างไร แต่ขณะที่เกิดเรื่อง รัฐบาลกัมพูชาได้แต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา โดยปฏิเสธส่งตัวกลับมาให้ไทยดำเนินการตามกฎหมาย อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและระบบยุติธรรมของไทย ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง


"สุเทพ"ลั่นไมปิดชายแดนไทย-เขมร


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงการประชุมคณะกรรมการเขตแดนทั่วไป (จีบีซี) เกี่ยวกับท่าทีและการพิจารณาบันทึกข้อตกลงร่วมว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ หรือการทูต แต่ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงเกี่ยวยังคงไว้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังให้ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายติดต่อพูดคุยกันตลอดเวลา ระมัดระวังไม่ให้เกิดความตึงเครียด เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านผิดใจกันได้ แต่ไม่ต้องสู้รบกัน
 

เมื่อถามว่า การประชุมจีบีซีจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังเดินหน้าพูดคุยและปรึกษาหารือกันอยู่ และจะไม่มีการปิดชายแดนอย่างแน่นอน เราต้องระวังไม่ให้กระทบกับวิถีชีวิตของประชาชน ส่วนปัญหาความขัดแย้งนั้น อีกสักพักคงจะแก้ไขสถานการณ์ได้ ต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและความพร้อมของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา 



"สุรเกียรติ์" ชำแหละปมขัดแย้ง


ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่  26 พฤศจิกายน  มีการเสวนาทางวิชาการเรื่อง "ยกเครื่องเรื่องกัมพูชา" โดย นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา มีหลายปัจจัยผสมผสานกันตั้งแต่ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ในอดีต ความไม่ชัดเจนด้านเส้นเขตแดนทางทะเลซึ่งเป็นมรดกบาปจากฝรั่งเศสยุคล่าอาณานิคม การใช้กระแสชาตินิยมเป็นเครื่องมืองทางการเมืองของกัมพูชา รัฐบาลไทยไม่มียุทธศาสตร์และกลยุทธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่ชัดเจนและมีการใช้อารมณ์ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศในบางครั้ง ความไม่ต่อเนื่องของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย


"ยังมีปัญหาปราสาทพระวิหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเ คยปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำกัมพูชาในเวทีพันธมิตร ปัญหาการเมืองภายในของไทย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจของไทย ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำพูดผ่านสื่อไว และมากเกินไป ทั้งยังขาดเอกภาพในการให้สัมภาษณ์" นายสุรเกียรติ์กล่าว


แนะทางออกรบ.ลดกระแสค่านิยม


นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ทางออกที่รัฐบาลไทยควรดำเนินการคือ ลดกระแสค่านิยมของทั้งสองประเทศ หันกลับมาทบทวนจุดอ่อน-แข็ง และอำนาจต่อรองของไทย เพื่อวิเคราะห์ว่ากัมพูชาจะเดินเกมอย่างไร เช่น การนำข้อพิพาทไทย-กัมพูชาขึ้นมาพูดในเวทีอาเซียนหรือสหประชาชาติ และต้องดักทางอย่างไร และต้องใช้เวทีทวิภาคีชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศอื่นๆ ให้มากที่สุด รวมถึงขอเปิดการเจรจากับกัมพูชาก่อน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การเสียหน้าหรือเสียศักดิ์ศรี แต่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่และกดดันให้กัมพูชาชี้แจงประเด็นต่างๆ กับไทย ที่สำคัญคือคนที่จะไปคุยต้องเป็นคนที่กัมพูชาอยากคุย ไม่ใช่ส่งคนที่ไม่ชอบหน้ากันไปคุย


"นอกจากนี้ยังชะลอการบรรจุวาระการพิจารณายกเลิกเอ็มโอยูว่าด้วยเขตแดนทางทะเลเข้าสภา หากไม่ต้องการเจรจาเรื่องนี้สามารถแจ้งไปยังกัมพูชาว่าจะไม่เจรจาหรือจะทบทวนการเจรจาในอนาคตได้ ไม่จำเป็นต้องยกเลิก" นายสุรเกียรติ์ระบุ


บอกอย่าเกลียดกันแค่คนๆเดียว


นายสุรเกียรต์กล่าวว่า ต้องฟื้นการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อการพัฒนาปราสาทพระวิหารที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 เพราะก่อนหน้านี้กัมพูชาอ้างว่า ขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารก่อนแล้วค่อยมาประชุมคณะกรรมการชุดนี้ แต่พอขึ้นทะเบียนแล้วกัมพูชาไม่ยอมเชิญเราไปคุยเรื่องคณะกรรมการชุดนี้อีกเลย และสุดท้ายคือตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชำระประวัติศาสตร์ร่วมกัน


"ประเทศไทยและคนไทยต้องไม่ทำให้ปัญหากีฬาสี ซึ่งเป็นปัญหาการเมืองภายในของไทยมากระทบความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ และต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า ไทยกับกัมพูชาจะมาเกลียดกันแค่เพราะคนๆ เดียวที่บินเข้าไปอยู่ในกัมพูชาแค่ 4 วันแล้วก็ไป โดยมีประชาชนของทั้งสองประเทศมานั่งมองเศษซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังหรือ" นายสุรเกียรติ์กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์