มาร์คลั่นฟันทุจริตซื้อจยย. ติงสื่อสน ใจปัญหาขัดแย้งมากไป ปทีปไม่เชื่อฟื้นคดีหวังสกัดนั่งผบ.ตร.

"มาร์ค"ลั่นฟันทุจริตซื้อจยย. ติงสื่อสน ใจปัญหาขัดแย้งมากไป "ปทีป"ไม่เชื่อฟื้นคดีหวังสกัดนั่งผบ.ตร.

นายกฯเผยใครเกี่ยวข้องทุจริตจัดซื้อจักรยานยนต์สายตรวจต้องว่ากันตรงไปตรงมา ติงสื่อสนใจปัญหาขัดแย้งมากไป "ปทีป" ไม่เชื่อรื้อคดีเป็นการดิสเครดิต เพื่อสกัดนั่งผบ.ตร.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีมติเห็นชอบให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า น.ส.สุภาเป็นคนทำงานตรงไปตรงมามาก จากที่ได้มีโอกาสสัมผัสในการทำงานและเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องงบประมาณ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะพยายามเรียกประชุม ก.ต.ช.เพื่อเลือก ผบ.ตร.ใหม่ให้เร็วที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างดูเวลาที่เหมาะสม


ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาความไม่เป็นเอกภาพเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ใน ก.ต.ช.หมดไปแล้วหรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่หมด ความคิดเห็นและข้อมูลยังมีความหลากหลาย ตนจะพยายามไม่ให้นานจนเกินไป เมื่อถามว่า หลังโปรดเกล้าฯ น.ส.สุภาเป็น ก.ต.ช. จะเรียกประชุมได้ทันทีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดูอีกที เมื่อถามว่า ปีหน้าจะได้ตัว ผบ.ตร.ตัวจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ได้ครับ"


เมื่อถามถึงกรณีที่มีการฟื้นคดีทุจริตการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจจำนวน 19,147 คัน มาดำเนินการในช่วงนี้ บางฝ่ายระบุว่าเป็นการสกัดไม่ให้บางคนได้รับเลือกเป็น ก.ต.ช. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใครก็ตามที่มีปัญหาต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง อย่าไปมองทุกอย่างเป็นเรื่องของความขัดแย้งเสมอไป และถ้าไม่จริงก็คือไม่จริง แต่ถ้าเป็นจริงแล้วมีความผิดก็ต้องดำเนินการ สื่อเองบางครั้งก็ไปให้ความสนใจกับปัญหาความขัดแย้งมากไป ซึ่งก็น่าเสียดาย


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่าคนใกล้ชิด พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาการแทน ผบ.ตร.เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะเกี่ยวข้องกับใครต้องว่ากันอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถามว่า หากเกี่ยวข้องจริง จะย้าย พล.ต.อ.ปทีปไปช่วยราชการต่างจังหวัดเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาก็ต้องดู ถ้ามีปัญหาอุปสรรคกับการบังคับใช้กฎหมายก็ขอให้บอกมา ไม่ได้ดูว่าเป็นใคร แต่จะดูว่าเรื่องเป็นอย่างไร


ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงกรณีตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นตามที่ต่างๆ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกับการซื้อจักรยานยนต์สายตรวจยี่ห้อไทเกอร์ที่ถูกระบุว่าไม่โปร่งใส และเตรียมออกหมายเรียกตำรวจระดับสูง 10 นาย มาให้ปากคำที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลรถจักรยานยนต์สายตรวจว่า กองปราบปรามยังไม่ได้แจ้งอะไรมา และตนไม่ได้เรียกกองปราบปรามมาคุย หากพบว่าเกี่ยวพันไปถึงตำรวจระดับ "พ.ต.ท.-พล.ต.ท." สามารถออกหมายเรียกหรือเชิญมาสอบปากคำได้ ถึงเป็นระดับผู้บังคับบัญชาก็ไม่มีปัญหา ให้ทางกองปราบปราม ดำเนินคดีไปขั้นตอน ส่วน พล.ต.ท.จะเป็นใครนั้น ไม่อยากให้ไปคาดเดา รอให้เป็นไปตามผลการสอบสวนดีกว่า


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าการดำเนินการกับคดีมีเป้าเพื่อดิสเครดิตท่านและส่งผลถึงตำแหน่ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ไม่ได้เป็นห่วงเรื่องเก้าอี้ ผบ.ตร. เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง ส่วนการดิสเครดิตคงเป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปในลักษณะไหน ดูแล้วไม่เห็นมีปัญหาเป็นการดำเนินคดีตามปกติ


เมื่อถามว่า การจัดซื้อจัดจ้างรถจักรยานยนต์สายตรวจมีการทุจริตหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะจบไปตั้งแต่ปี 2550 สมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร. ส่วนตนมารักษาราชการแทนเดือนธันวาคม 2551 และทำไมต้องตรวจค้นหาหลักฐานต่างๆ ในช่วงนี้อยากให้ไปถามทางกองปราบปราม ตนก็ยังไม่รู้ เพราะยังไม่ได้เรียกทางพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามมาพูดคุยและยังตอบไม่ได้ว่าจะเรียกมาพบหรือไม่


ส่วนความคืบหน้าในการข้อมูลและพยานหลักฐานในคดี พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) รักษาราชการแทน ผบก.ป. สั่งการให้พนักงานสอบสวนเชิญพยานบุคคล และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง 4 แห่ง ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร่วมกันเปิดกล่องเก็บเอกสารต่างๆ ที่ยึดมาประกอบสำนวนสอบสวน ทั้งนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และป้องกันข้อครหาในการรวบรวมหลักฐาน โดยจะทยอยเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นได้ประสานเชิญ นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการบริษัท ไทเกอร์ มอเตอร์ จำกัด ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นพยานรับรองการเปิดกล่องเอกสารที่ตรวจยึดมาจาก บริษัท มิลเลเนี่ยม มอเตอร์ จำกัด โรงงานผลิตจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ ในวันที่ 1 ธันวาคม


ต่อมา เวลา 12.30 น. พ.ต.อ.สุพิศาล สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ (ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า) จำกัด เลขที่ 769 ซอยสุขุมวิท 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อประสานขอตรวจสอบข้อมูลการครอบครองรถยนต์ที่จำหน่ายให้กับ บริษัท อีซูซุ สยามซิตี้ จำกัด ตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน เนื่องจากการสืบสวนเชื่อว่ามีการซื้อรถยนต์ให้กับตำรวจ และอดีตข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายคน โดยให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปส่งหนังสือดังกล่าวถึงบริษัทโตโยต้า เค.มอเตอร์ มีนางเพ็ญรัตน์ ศรีสุข เลขานุการกรรมการผู้จัดการบริษัทเป็นผู้รับหนังสือ นอกจากนี้พนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง เพื่อขอตรวจสอบกระแสเงินหมุนเวียนในบัญชีของผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจไทเกอร์อีก 4 คน ซึ่งเป็นกรรมการบริหารบริษัทเอกชน 3 คน และอดีตนายตำรวจยศ พ.ต.อ.1 คน


พ.ต.อ.สุพิศาลกล่าวถึงกรณีเรียกนายตำรวจระดับสูงกว่า 10 นาย มาสอบปากคำว่า เร่งรัดให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลนายตำรวจระดับต่างๆ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องว่าขณะนี้ยศ ตำแหน่งใด สังกัดอยู่ที่ใด เพื่อสะดวกกับการเรียกตัวเข้าพบเพื่อให้ปากคำในคดี


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์