ถึงเวลาชำระสะสางแล้ว แม้วทุจริต

ที่คณะรัฐประหารจะได้ยินเสียงตัดพ้อต่อว่า ´ทำไมทำช้าจังเลย´ ชาวบ้านรอนานจนแทบจะบ้าตายแล้ว!

มีความรู้สึกกันอย่างนั้นจริงๆ หลังจากต้องทนอยู่กับสภาวะเลวร้ายทุกรูปแบบ เป็นยุคของทุรชนกังฉิน สุมหัวรวมตัวกันล้างผลาญบ้านเมืองด้วยการโกงกินไม่รู้จักพอ ไร้จิตสำนึกและยางอาย

´บิ๊กบัง´ และ ´บิ๊กสพรั่ง´ 2 แม่ทัพ ซึ่งเป็นตัวหลักในการลุยทรราชครั้งนี้ ได้รับการชื่นชมจากชาวบ้าน ซึ่งเบื่อหน่ายกับการโกงกิน อหังการมานาน

ฝนตกลงมาห่าใหญ่ เหมือนเป็นการชำระชะล้างความอุบาทว์ อัปรีย์ จัญไร ซึ่งสิงสู่ครอบงำบ้านเมืองให้ลงท่อระบายน้ำโสโครกให้หมดสิ้น

ถ้าถึงขั้นสุดท้าย ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ ก็ถือว่าเป็นการคุ้มค่าในการรัฐประหารสำหรับผ่าทางตัน หรือจัดการทรราชการเมือง เพื่อวางโครงสร้างใหม่สำหรับฟื้นฟูประเทศ ดีกว่าปล่อยไว้ให้ความเสื่อมเกาะกุมจนสิ้นสลาย

ปิดฉากชั่วคราวสำหรับกลุ่มนักการเมืองซึ่งจ้องแต่แสวงหาอำนาจ เชิดชู ปกป้องระบอบชั่วร้าย จะต้องเผชิญผลกรรมสำหรับพฤติกรรมแต่หนหลังอย่างไร ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนความ

คณะปฏิรูปการปกครองยังต้องชำระสะสางอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น การโกงกิน การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การย่ำยี สร้างความเจ็บช้ำให้ประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มนักการเมือง ข้าราชการตัวเป้ง ซึ่งทำตัวเป็นสมุนทรราชมาโดยตลอด

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สำคัญ เพราะเป้าหมายนั้นไม่ใช่ผู้นำระดับธรรมดา แต่เป็นนักธุรกิจการเมือง มีเครือข่ายบริวาร อำนาจ เงินทองมหาศาล ไม่เคยมีมาก่อนในบ้านนี้ เมืองนี้

ไม่ว่าจะทำอะไร ดูเหมือนจะไม่มีความผิด แถมยังมีเสียงเตือน "โฮ้ย! อย่าไปขวางทางเขาเลย รับรองเขาอยู่นานแน่ๆ"

หรือจนกว่าจะเบื่อ จึงจะเปิดโอกาสให้พรรคอื่นเข้ามาบริหารบ้านเมือง

ที่ไหนได้ เป็นชาวบ้านและกองทัพต่างหาก ซึ่งสุดที่จะทน ต้องขับรถถัง ยานรบสารพัดออกมาขับไล่ไม่ยอมให้กลับเข้าประเทศ

ตอนออกเดินทางไปฟินแลนด์นั้น มีเสียงแซวแว่วมาว่า "เริ่มต้นการเมืองในฟินแลนด์ ก็น่าจะจบในฟินแลนด์"

คิวบา นิวยอร์ก และลอนดอนอีกครั้ง กลายเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนตัวจริง หลังจากแสร้งรับบทนั้นเพื่อแก้เคล็ดอยู่หลายครั้ง

พิสูจน์ชัดเจนว่าการแก้เคล็ด หรือวิชาหมอผีเดียรัจฉานวิชา อย่างไรก็ไม่พ้นกรรมตามทัน เห็นกันในชาตินี้ สมกับคำทำนายว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่

มีเงินทองทรัพย์สินมหาศาลอย่างไร ก็หาความสุขไม่ได้ หากไร้เกียรติภูมิศักดิ์ศรี จากนี้ไปจะทำใจได้อย่างไร ในเมื่อเป็นการสูญสิ้นอำนาจกะทันหัน

กลัวว่าจะติดร่างแหเพราะการติดตามไล่ล่ายึดทรัพย์คืนให้แผ่นดิน

ใครจะทนทุกข์ ฝืนทำใจไปยิ่งกว่าครอบครัวผู้นำพลัดถิ่น และบริวาร ทั้งๆ ที่มีเสียงเตือนโดยตลอดว่าชะตากรรมจะต้องลงเอยเหมือนมาร์กอส ซูฮาร์โต หรือคนอื่นซึ่งเลวร้ายกว่านี้

นอกจากสูญเสียฉับพลัน ยังต้องถูกทวงถามทรัพย์สิน โดยเฉพาะจากการขายหุ้นชินคอร์ปมูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท ได้เงินครบหรือยังก็ไม่รู้

´นอมินี´ หรือตัวแทนเชิด จะกล้าสู้เพื่อคนพลัดถิ่น ดิ้นรนหาแผ่นดินอยู่หรือไม่ เมื่อเห็นประตูคุกรออยู่รำไร

เหล่าเสนาบดีตกสวรรค์ สมควรได้รับโทษทัณฑ์ตามความผิดและพฤติกรรม จะต้องโดนยึดทรัพย์หรือไม่ต้องเผชิญการสอบสวน

จากนี้ไปเตรียมใจรับรู้พฤติกรรมชั่ว ซึ่งจะถูกเปิดโปงให้ชาวบ้านได้ตระหนักว่ากว่า 5 ปีที่ผ่านมานั้น ทุรชนกังฉินได้ปล้นชาติไปในวิธีต่างๆ มากน้อยเพียงใด และถ้าไม่เอารถถังมาไล่ บ้านเมืองจะเหลืออะไรนิ! อิอิอิ!!!

แหล่งที่มา: เนชั่นสุดสัปดาห์