ป.ป.ช.ประชุมสะสางงาน พุ่งเป้าคดีใกล้หมดอายุความ

วันนี้ (25 ก.ย.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการทำงานว่า จะเร่งงานที่ใกล้จะหมดอายุความ เช่น ทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน รวมถึงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ส่วนคดีซีทีเอ็กซ์ยังไม่ได้ผลสรุปจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

วันนี้ในที่ประชุมจะวางกรอบการทำงานโดยเฉพาะการแบ่งหน้าที่ให้ ป.ป.ช.แต่ละคน และการประสานงานกับ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรี ที่มีนายสวัสดิ์ โชติพานิช อดีตประธานศาลฎีกา และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธาน เพื่อความชัดเจนในแต่ละองค์กร ประธาน ป.ป.ช. กล่าว

ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการนัดประชุมครั้งแรกวันนี้ว่า เข้าใจว่าวันนี้ เป็นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช.จะต้องรายงานถึงสภาพของงานที่จะต้องเข้าไปทำงานมีอยู่กี่หมื่นเรื่อง และเป็นคดีเกี่ยวกับนักการเมืองเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ของรัฐเท่าไหร่ เรื่องอะไรบ้างที่กำลังจะขาดอายุความ คงเป็นการนำข้อมูลมาให้

เมื่อถามว่า จะมีการพุ่งเป้าไปเรื่องใดพิเศษหรือไม่ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า คงต้องดูสภาพของเรื่อง ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของนักการเมือง ต้องดูความจำเป็นก่อนเป็นลำดับแรก เช่นคดีที่กำลังจะขาดอายุความ เป็นต้น

เมื่อคืนนี้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาชุดตรวจสอบทรัพย์สิน ผมยังไม่ได้ดูละเอียดว่า อำนาจหน้าที่จะเกี่ยวข้องอะไร ซ้อนกับของ ป.ป.ช.หรือไม่ เท่าที่ฟังดูจากประกาศฉบับที่ 23 ของ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กรรมการตรวจสอบทรัพย์สินไม่ต้องส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ทำไปเลย หากเป็นเรื่องทุจริตสามารถส่งไปที่อัยการสูงสุดได้ เอาอำนาจ ป.ป.ช.ไปใช้เลย กรรมการชุดตรวจสอบจะมีอำนาจมากนายกล้านรงค์ กล่าว

เมื่อถามถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรีหลังพ้นตำแหน่ง ในลักษณะของการปฏิรูปฯ ต้องรายงานด้วยหรือไม่ นายกล้าณรงค์ กล่าวว่า ตามกฎหมายบอกว่ารายงานบัญชีทรัพย์สินตอนเข้าและพ้นจากตำแหน่ง ในความเห็นส่วนตัว ต้องรายงาน ไม่ว่าจะพ้นจากตำแหน่งด้วยวิธีใดก็ตามต้องรายงาน ส่วนกรรมการ ป.ป.ช.ท่านอื่นจะเห็นอย่างไรก็ต้องฟังกัน

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ