พันธมิตรฯ เปิดเวที บอยคอตเลือกตั้ง แฉเทมาเส็ก เย็นนี้!!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 18:13 น.

พันธมิตรฯ แปรท้องสนามหลวงเป็นมหาวิทยาลัยการเมืองภาคประชาชน จัดเสวนา บอยคอตเลือกตั้ง 2 เม.ย. ตามด้วย แฉเบื้องหลังเทมาเส็ก-ทำไมต้องซุกหุ้น เย็นนี้

ประชาชนทยอยเดินทางเข้าสู่ท้องสนามหลวง เพื่อร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวันนี้เป็นการชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 นับจากวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึง กำหนดการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง วันนี้ (7 มี.ค.) ว่า เริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ด้วยการแสดงดนตรีเพื่อชีวิตสลับกับการปราศรัย กิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การเปิดเวทีเสวนาเรื่อง ทำไมจึงต้องบอยคอตการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน โดยมีวิทยากร ประกอบด้วย นายบรรเจิด สิงคะเนติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการเครือข่ายสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง นายดนัย อนันติโย อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ นายวรินทร์ เทียมจรัส โดยมีนางสาวอัญชลี ไพรีรักษ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ

หลังจากนั้นจะมีการอภิปรายเรื่อง เบื้องหน้าเบื้องหลังเทมาเส็กทำไมต้องซุกหุ้น โดยนายภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามด้วยการขึ้นเวทีของนักวิชาการด้านต่างๆ รวมทั้งแกนนำพันธมิตร อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นต้น

นายสุริยะใส เปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 712 มีนาคม เครือข่ายพันธมิตรจะยังคงใช้สนามหลวงเป็นสถานที่หลักในการทำกิจกรรมเปิดเวทีปราศรัยให้ความรู้ประชาชน นอกจากนั้นจะมีแผนจรยุทธ์ไปกดดันแหล่งผลประโยชน์ของชินคอร์ปอเรชั่น และบริวารตามสถานที่ต่างๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรมสรรพากร พรรคไทยรักไทย ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานสหประชาชาติ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในวันที่ 8 มีนาคม จะมีการชุมนุมของเครือข่ายสตรี ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าและสวนอัมพร ลานพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออก

ส่วนในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 08.00 น. เครือข่ายพันธมิตรได้นัดชุมนุมตั้งขบวนสวนลุมพินี และจะออกเดินเท้าไปยังสถานทูตสิงคโปร์ เวลา 09.00 น.เพื่อเรียกร้องให้กองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ทบทวนการซื้อหุ้นชินคอร์ป ซึ่งถือเป็นการซื้อกิจการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศไทย ทำให้ประชาชนไม่สบายใจต่อการเข้ามาซื้อหุ้นดังกล่าว และอาจจะกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ จะติดต่อไปยังนักวิชาการที่ติดตามศึกษาประเด็นปัญหาต่างๆ ให้มาร่วมเวทีที่ท้องสนามหลวง เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นมหาวิทยาลัยทางการเมืองของภาคประชาชนในประเด็นต่างๆ หลังจากรัฐบาลใช้สื่อกรอกข้อมูลให้ประชาชนด้านเดียวมาโดยตลอด จนมีประชาชนจำนวนมากหลงกล ติดกับดัก ยังให้การสนับสนุนรัฐบาล แต่ถ้าสื่อสามารถให้ข้อมูลที่แตกต่างออกไป พันธมิตรก็จะได้แนวร่วมมากขึ้น

กองทัพธรรมพร้อมยืนหยัด

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1ใน 5 กรรมการที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การจัดเวทีของเครือข่ายพันธมิตรตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 12 มีนาคม จะมีอยู่ 2 ส่วน คือ การเปิดเวทีย่อยออกไปให้ความรู้ประชาชนตามจุดต่างๆ และการตั้งเวทีใหญ่ที่ท้องสนามหลวง เชิญผู้มีความรู้ด้านต่างๆ มาให้ความรู้แก่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เพื่อให้เวทีนี้เป็นเวทีที่จะให้ความรู้แก่ประชาชน เพราะประชาชนที่มามีความรับรู้แตกต่างกัน

สำหรับกองทัพธรรมนั้น จะยังคงปักหลักที่ท้องสนามหลวงต่อไป ถือว่าเป็นการมาปฏิบัติธรรมที่เรียกว่า ปัญญาสมโภช ส่วนจะเคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ เช่น สถานทูตสิงคโปร์ ตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพากร ตามที่เครือข่ายพันธมิตรประกาศว่าจะเคลื่อนขบวนไปนั้น ขึ้นอยู่กับมติของกรรมการเครือข่ายพันธมิตรฯ ว่าจะเอาอย่างไร กองทัพธรรมก็พร้อมจะเคลื่อนขบวนตาม และยังยืนยันว่า ถ้าทักษิณไม่ลาออก กองทัพธรรมก็จะยังไม่กลับสำนัก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 15:45 น.

สมศักดิ์ โกศัยสุข ตัวแทนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชัน ( คปต.) จะเข้ายื่นหนังสือขอให้ยุติการซื้อขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ป ถึงนายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านทางสถานทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผ่านทางสถานฑูตสิงคโปร์ในไทย ขอให้ยุติการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป เพราะถือเป็นการเข้ามาแทรกแซงกิจการขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศไทย ขู่หากไม่ถอนตัวเจอมาตรการรณรงค์บอยคอตสินค้า-บริการของสิงคโปร์และกลุ่มชินฯ ความสมานฉันท์ของสองชาติแตกเป็นเสี่ยงแน่

วันนี้ (7 มี.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ตัวแทนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นางสาวรสนา โตสิตระกูล นางสาวสารี อ่องสมหวัง จะเข้ายื่นหนังสือขอให้ยุติการซื้อขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ป ถึงนายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านทางสถานทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย โดยเนื้อความของจดหมายของพันธมิตรฯ มีดังนี้

ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างดีมาเป็นเวลาช้านาน บัดนี้ กองทุนเทมาเส็คซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์กำลังดำเนินการซื้อกิจการ บมจ.ชินคอร์ป จากครอบครัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งครอบคลุมกิจการสัญญาสัมปทานจากรัฐที่มีลักษณะผูกขาดและมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งด้านโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์ และสายการบินนั้น

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียนต่อท่านว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตรวจสอบนายกรัฐมนตรี เพื่อพิสูจน์พฤติกรรมทำกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กิจการส่วนตัวของครอบครัวนายกรัฐมนตรีทั้งด้านโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์ และสายการบิน เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีการปกปิดซุกซ่อนสินทรัพย์อันเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ มีการหลีกเลี่ยงภาษีในการโอนหลักทรัพย์ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดหลายครั้ง และล่าสุดได้ขายกิจการของกลุ่มตนซึ่งเป็นกิจการยุทธศาสตร์ของชาติให้แก่เทมาเส็คซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ อันเป็นลักษณะการขายชาติ

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมการแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ อันทำให้การตรวจสอบในด้านต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปโดยชอบธรรม ตลอดจนมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอยู่เสมอ ดังจะเห็นได้จากการยุบสภาก่อนจะถึงวันเปิดสภาเพื่อทำให้ไม่สามารถติดตามตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในประเด็นดังกล่าว

โดยเหตุนี้ ประชาชนและนักวิชาการจำนวนมากทั่วประเทศ จึงเห็นว่า นายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศ ไม่สมควรที่จะควบคุมอำนาจรัฐด้านต่างๆ เพราะกลัวการตรวจสอบตลอดจนควบคุมอำนาจรัฐในกระบวนการการเลือกตั้งอีกต่อไป กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนและนักวิชาการจึงเห็นควรที่จะให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งโดยทันที

ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศสิงคโปร์กับประเทศไทย กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้ประเทศสิงคโปร์ยุติการซื้อขายกิจการของชินคอร์ปในวันที่ 9 มีนาคม 2549 ดังเงื่อนไขที่เปิดเผยไว้กับนักลงทุน มิเช่นนั้นจะถือเป็นการเข้ามาแทรกแซงกิจการพื้นฐานที่สำคัญและมีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาธิปไตยจะได้รณรงค์ต่อต้านให้ถึงที่สุด อาทิ การรณรงค์ไม่ใช้สินค้าและบริการของกลุ่มชินคอร์ปที่กองทุนเทมาเส็คครอบงำอีกต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมาติดตามคำตอบที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์อีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม 2549 ขอให้ประเทศสิงคโปร์และประเทศไทยมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรประเทศอย่างดีตลอดไป

ตัวแทนหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ในการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงของพันธมิตรฯ ในเย็นวันนี้ จะมีการประกาศมาตรการที่เป็นการคว่ำบาตรสินค้าและบริการของกลุ่มทุนจากประเทศสิงคโปร์และสินค้าและบริการของกลุ่มชินคอร์ป โดยจะมีการรณรงค์ต่อต้านกันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2549 13:09 น.

ตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นหนังสือที่สถานทูตสิงคโปร์ บ่าย 2 วันนี้ แสดงความไม่สบายใจ เทมาเส็กซื้อหุ้นชินฯ ก่อนนัดชุมนุมใหญ่หน้าสถานทูต วันที่ 9 มีนาฯนี้

รายงานข่าวจากเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แจ้งว่า ในเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (7 มี.ค.) ตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรฯ ประกอบด้วย นางรสนา โตสิตระกูล นางสารี อ๋องสมหวัง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความไม่สบายใจที่กองทุนเทมาเส็กจากสิงคโปร์ เข้าซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถึงร้อยละ 49

นอกจากนั้นจะแจ้งให้ทางสถานทูตสิงคโปร์ทราบว่า เครือข่ายพันธมิตรจะนำประชาชนมาชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตสิงคโปร์ ในวันที่ 9 มีนาคม นี้ ซึ่งเป็นวันที่กองทุนเทมาเส็ก ปิดการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ หรือการเสนอซื้อหุ้นชินคอร์ป จากประชาชนทั่วไปเพื่อทำการครอบงำกิจการ

ทั้งนี้ การประท้วงสิงคโปร์ดังกล่าวเป็นกิจกรรมย่อยอันหนึ่งของเครือข่ายพันธมิตรที่มีขึ้นก่อนการเคลื่อนขบวนใหญ่ไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ในตอนเช้าวันที่ 14 มีนาคม และก่อนหน้านี้ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานศูนย์ธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้เสนอยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของขบวนการภาคประชาชน ให้รวมตัวกันประท้วงที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์ เพื่อไปแสดงให้เห็นว่าคนไทยรู้สึกอย่างไรต่อกรณีการเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มชินคอร์ป ของรัฐบาลสิงคโปร์ผ่านกองทุนเทมาเส็ก หากรัฐบาลสิงคโปร์ไม่แสดงการรับถึงความรู้สึกของประชาชนคนไทย ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เมื่อปี 2515 ที่นิสิตนักศึกษาออกมารณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นขนานใหญ่ แต่ตอนนี้สิ่งที่สิงคโปร์จะเจอไม่ใช่แค่นิสิตนักศึกษา แต่เป็นประชาชนคนชั้นกลางของประเทศไทย