เพื่อไทยเชื่อกัมพูชามีหลักฐานเจ๋งโจรกรรมข้อมูล เป็นเหตุเข้ายึดกิจการแคทส์

"เพื่อไทย"เชื่อ"กัมพูชา"มีหลักฐานเจ๋ง"โจรกรรมข้อมูล" เป็นเหตุเข้ายึดกิจการ"แคทส์"

ส.ส.เพื่อไทยมั่นใจกัมพูชามีหลักฐานชัดเจนการโจรกรรมข้อมูลสายการบิน เป็นเหตุเข้ายึดกิจการ"แคทส์" กระทรวงต่างประเทศไม่แน่ใจสัญญาคุ้มครอง พบเป็นบริษัทลูกสามารถฮ่องกง

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 วันที่ 21 พฤศจิกายน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีทางการกัมพูชาเข้ายึดบริษัท กัมพูชา แอร์ทราฟฟิค เซอวิส จำกัด หรือแคทส์ (CATS) เป็นการชั่วคราว ว่า กัมพูชาดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความลับ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานงานอยู่ เมื่อมีทนายความแล้วคงได้ประสานงานต่อไป แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายภายในของกัมพูชาคงไม่ให้ความเห็นอะไร เพียงหวังว่าการลงทุนของคนไทยที่ได้รับการส่งเสริมในกัมพูชาจะได้รับการคุ้มครอง แต่ผู้บริหารบริษัทมีประวัติการทำงานอย่างดีมายาวนาน ดังนั้น ทางไทยจะดูแลช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเต็มที่


เมื่อถามว่า ข่าวระบุว่าบุตรสาวของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเสียเอง นายปณิธานกล่าวว่า "ใช่ครับ และบริษัทนี้เข้าใจว่าจดทะเบียนในต่างประเทศ ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการคุ้มครองในลักษณะที่จดทะเบียนในกัมพูชาหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของบริษัทที่จะขอคำร้องเพื่อให้ทางการกัมพูชาพิจารณา"


เมื่อถามว่า กฎหมายของกัมพูชาระบุให้ยึดบริษัทชั่วคราวได้นานแค่ไหน นายปณิธานกล่าวว่า ยังไม่ได้บอกชัดเจน


ทางด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวดังกล่าวว่า แสดงว่ากัมพูชาคงมีหลักฐานชัดเจนโดยเฉพาะการขโมยข้อมูลตารางการบิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องความมั่นคง หากกัมพูชาจะยึดกิจการก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะบริษัท สามารถฯ เองก็เข้าไปทำกิจการในประเทศกัมพูชา กัมพูชาจึงมีสิทธิที่จะป้องกันความมั่นคงของเขา เพราะเห็นชัดว่าการนำข้อมูลออกมาไม่ใช่สายการบินพาณิชย์ แต่เป็นข้อมูลของเที่ยวบินวีไอพี 
 

ขณะที่นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือแคทส์ตามความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนไทย-กัมพูชาว่า จะสามารถทำได้หรือไม่ต้องดูสัญชาติของบริษัทเป็นสำคัญ เพราะความตกลงดังกล่าวคุ้มครองเฉพาะบริษัทไทยเท่านั้น แต่จากข้อมูลในเบื้องต้น คือ แคทส์เป็นบริษัทลูกของบริษัทสามารถที่ฮ่องกง จึงต้องตรวจสอบความชัดเจนกับทางบริษัทอีกครั้ง ส่วนการดำเนินการด้านอื่นๆ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างไร


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์