สุเทพเข็นประชุมก.ตร.จนคลอดโผโยกย้ายตำรวจระดับนายพลสำเร็จ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงหลังการประชุมก.ตร.ใช้เวลานานในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายรองผบ.ตร.-ผบช.ต้องทำอย่างรอบคอบ ผู้ช่วยผบ.ตร.ยึดหลักอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 15/2552

เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน วาระรับรองให้นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ก.ตร.โดยตำแหน่ง เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรองตามที่นายสุเทพแต่งตั้ง และวาระพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)-ผู้บัญชาการ (ผบช.)  เมื่อเวลา 19.45 น.ได้ตัดสินใจพักการประชุม เนื่องจากมีปัญหาในการพิจารณาตำแหน่งผบช.ส. จนกระทั่งเวลา  20.40 น.จึงเริ่มการประชุมอีกครั้ง  โดยที่ประชุมได้มีมติให้มีการประชุมบอร์ดกลั่นกรองอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่ามีบางรายชื่อที่อยู่ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ไม่ได้ผ่านบอร์ดกลั่นกรอง กระทั่งเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ห้องประชุม 2 อาคาร 1 มีการประชุมบอร์ดกลั่นกรองอีกครั้ง โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนนำรายชื่อเข้าที่ประชุมก.ตร.อีกครั้ง กระทั่งในเวลา 22.45 น.การประชุมได้เสร็จสิ้นลง


สำหรับรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ผ่านคณะกรรมการข้าราชการตำรวจครั้งที่ 15 วันที่ 16 พ.ย. ในระดับรองผบ.ตร. ที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง

ได้โยก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ.10)ด้านความมั่นคง1และพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษาสบ 10 ด้านความมั่นคง 2 เข้าดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.ในตำแหน่งหลัก และการเลื่อน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส (นรต.27) ผช.ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว (นรต.29) อาวุโสอันดับ 2 และพล.ต.ท. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา (นรต.28) ผช.ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 3 ขึ้นเป็นที่ปรึกษา(สบ 10) เทียบเท่ารองผบ.ตร.


ระดับ ผช.ผบ.ตร.เลื่อน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.(นรต.30) พล.ต.ท.ประชิน วารี จตร.(สบ8) ขึ้นเป็น รองจตร.(สบ9) เทียบ เท่า ผช.ผบ.ตร. แทน พล.ต.ท.พรชัย พันธุ์วัฒนา รองจตร.(สบ9) ที่เออร์ลี่รีไทร์ พล.ต.ท. จิโรจน์ ไชยชิต ผบช.ศ.(นรต.28) ขึ้นเป็น ผช. ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.บรรจง ตันศยานนท์ จตร.(สบ8) ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท. สถาพร ดวงแก้ว รองจตร.(สบ.9) โยกเป็นผช.ผบ.ตร.ตำแหน่งหลัก และให้ พล.ต.ท.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เป็น จตร.(สบ9) พล.ต.ท.ชลธาร จิราณรงค์ ผบช.นรป. ขึ้นเป็น รอง.นรป.(สบ9)


ส่วนตำแหน่งระดับ ผบช.  สำหรับ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8(นรต.28) คนสนิทนายสุเทพ ย้ายมานั่งเป็น ผบช.น. พล.ต.ต. เดชาวัต รามสมภพ รองผบช.ภ.3 คนสนิทนายเนวิน ชิดชอบ  ขึ้นเป็นผบช.ภ.3 พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3.ย้ายเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รองผบช.ภ.9 ขยับขึ้นเป็นผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พงษ์สันต์  เจียมอ่อน รองผบช.น. คนสนิทนายชวน หลีกภัย อดีต นายกฯ เป็นผบช.ภ.7 พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.7 เป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ รองผบช.สตม. เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท. วีรยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. คนสนิท พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นผบช.ภ.9 พล.ต.ท.ธีระยุทธ กิติวัฒน์ ผบช.สงป.เป็น ผบช.สกบ. พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช. สตม. โยกเป็น ผบช.ศ.


พล.ต.ต.อติเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปส. ขยับขึ้นเป็นผบช.ปส.พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส.ย้ายเป็น ผบช.สตม. พล.ต.ต.ตรีทศ  รณฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส. ขยับขึ้นเป็นผบช.ส.พล.ต.ท. อุดม รักศีลธรรม จตร.(สบ.8) เป็น ผบช.สตส. พล.ต.ต.ยงยุทธ เตียวตระกูล รองผบช.ภ.7 เป็น จตร.(สบ.8) พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผบช.น. ขึ้นเป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบช.ปส. เป็น ผบช.สกพ. พล.ต.ต.ธนากร ศิริอัฐ รองผบช.สตม. ขึ้นเป็น ผบช.งป. พล.ต.ต.จงเจตน์ อาวน์เจนพงศ์ รองนายแพทย์ใหญ่(สบ7) เป็นนายแพทย์ใหญ่(สบ 8) พล.ต.ต.ไตรรัตน์ อมาตยกุล นรป.(สบ7) ขึ้นเป็น ผบช.นรป. (สบ8) พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง.ผบช.น. เป็น ผบช.ประจำ.สง.ผบ.ตร.พล.ต.ต.คัคคพงศ์  ศรีพาณิชย์ รองผบช.ส. เป็นผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ภัทรชัย หิรัญญะเวช รองผบช.กมส. เป็นผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง.ผบช.น.คนสนิท นายเนวิน ชิดชอบ ได้รักษาการ ผบช.ประจำ.สง.ตร.(ทนท.ประสานนายกรัฐมนตรี)  เนื่องจากไม่ครบหลักเกณฑ์ เนื่องจากครองตำแหน่งรองผบช.เพียง 1 ปี เท่านั้น


เมื่อเวลา 22.45 น.พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  แถลงภายหลังการประชุม ว่า คณะกรรมการก.ตร.ได้ใช้เวลานานในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้

เนื่องจากการแต่งตั้งระดับรองผบ.ตร.-ผบช.ต้องทำอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญ และคณะกรรมการคัดเลือก ได้ใช้เวลายาวนานในการพิจารณา  ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้มีทั้งหมด 36 ตำแหน่ง เป็นรองผบ.ตร.หมุนเวียน 2 ตำแหน่ง  ระดับผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นรองผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร.หมุนเวียน 1 ตำแหน่ง  ผบช.ขึ้นผู้ช่วยผบ.ตร.  7 ตำแหน่ง ผบช.หมุนเวียน 8 ตำแหน่ง  รองผบช.ขึ้นผบช.15 ตำแหน่ง 

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ในระดับรองผบ.ตร.และผู้ช่วยผบ.ตร.ยึดหลักอาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์  ระดับรองผบช.ขึ้นผบช.ยึดหลักอาวุโส 25 เปอร์เซ็นต์

ส่วนที่เหลือเป็นไปตามบัญชีความเหมาะสม ซึ่งตำแหน่งที่ผ่านมติการประชุมก.ตร.ในครั้งนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. จะมีคำสั่งรักษาราชการแทนโดยทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผบช.ใหม่ไปทำบัญชีรองผบช.-ผบก.ที่จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งในวันที่ 23 พ.ย. เวลา 14.00 น. ซึ่งระดับนายพลทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 23 พ.ย. และจะพิจารณาสิทธิต่างๆ รวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ทั้งนี้ ในที่ประชุม ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ และพล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ไม่เข้าร่วมประชุม เนื่องจากทั้งสองท่านยึดหลักการเดิม ส่วนก.ตร.อีก 4 ท่าน ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมทาง รรท.ผบ.ตร.ได้สั่งการให้สำนักงานก.ตร.ส่งหนังสือเชิญก.ตร.ทั้ง 4 ท่าน ให้เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน  ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับ เพียงแต่อยากให้ก.ตร.ทุกท่านมาช่วยกันพิจาณาร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงต้องมีการประชุมบอร์ดกลั่นกรองถึง 2 รอบ  พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า

เมื่อในที่ประชุมก.ตร.ที่ไม่เห็นด้วยตามรายชื่อที่บอร์ดกลั่นกรองเสนอมา ก็สามารถให้บอร์ดกลั่นกรองนำกลับไปพิจารณาใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งมีหลายตำแหน่งที่บอร์ดกลั่นกรองก็ยึดตามเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีอีกบางตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตามที่ก.ตร.ติติง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกมฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์