มาร์คไม่ง้อนานาชาติไกล่เกลี่ยขัดแย้งเขมรยันแก้เองได้ โอบามาร่นโปรแกรมพบผู้นำเวทีเอเปคเร็วขึ้น

"มาร์ค"ไม่ง้อนานาชาติไกล่เกลี่ยขัดแย้ง"เขมร"ยันแก้เองได้ "โอบามา"ร่นโปรแกรมพบผู้นำเวทีเอเปคเร็วขึ้น

"มาร์ค"ไม่ให้นานาชาติไกล่เกลี่ยปมขัดแย้ง 2 ชาติอยากแก้เองมากกว่า อ้างไม่กระทบการทำงานบนเวทีเอเปค ยันแก้ปัญหากันเอง 2 ประเทศ อ้างอีกงานรัดตัว คงไม่ได้หารือกับผู้นำกัมพูชา "โอบามา"ร่นโปรแกรมพบผู้นำชาติต่างๆร่วมหารือในมื้อค่ำ ยาหอมสนใจร่วมเขตการค้าเสรีแปซิฟิก รอบคลุมประชากร 2,600 ล้านคนทั่วโลก

"มาร์ค" เผยปมหารือผู้นำมะกัน


เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานการปฏิบัติภารกิจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า นายกฯหารือทวิภาคีกับนายอลัน การ์เซีย ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเปรู ที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล ในเวลา 17.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น ถึงแนวทางการขยายความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว   และนายกฯทั้งสองประเทศยังร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามในพิธีสาร ระหว่างไทยและเปรู เพื่อเร่งการเปิดการค้าสินค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งนายอลงกรณ์  พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมาร์ติน เปเรส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยวเปรู เป็นผู้ลงนาม ต่อมานายกรัฐมนตรีพบปะกับนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เดินทางมาแข่งฟุตบอลเอเชียนคัพ โดยได้กล่าวแสดงความชื่นชมในความสามารถของนักฟุตบอลไทย พร้อมทั้งให้กำลังใจในการลงแข่งขันกับทีมชาติสิงคโปร์ในวันที่ 14 พฤศจิกายนด้วย


ต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับภารกิจและผลการประชุมเอเปค อาทิ พบปะกับนักธุรกิจสหรัฐอเมริกาโดยชี้แจงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ


นายกฯยังกล่าวถึงการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ว่า เป็นครั้งแรกในมุมของอาเซียนและสหรัฐ ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมถึงนโยบายของสหรัฐ ที่จะเข้ามามีความสัมพันธ์ในภูมิภาคอาเซียนใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งประเด็นหารือจะครอบคลุมทั้งเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง


ปมขัดแย้งเขมรไม่กระทบประชุม


สำนักข่าวไทยยังรายงานกรณีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน แสดงความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติสมาชิกเข้ามาช่วยบรรเทาความร้อนแรงของปัญหานี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบกับการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐ-อาเซียนว่า นายอภิสิทธิ์กล่าวยืนยันว่า ไทยจะไม่นำปัญหาดังกล่าวมากระทบต่อการทำงาน ซึ่งได้พิสูจน์เรื่องนี้มาตั้งแต่การประชุมผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นแล้ว


"ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติ และไทยจะทำหน้าที่ในฐานะประธานอาเซียน ไม่ให้เรื่องหรือปัญหาที่กระทบกระทั่งกัน ไปกระทบกับการเดินหน้าความร่วมมือของอาเซียน และไม่กระทบกับการที่อาเซียนจะดำเนินนโยบายในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศภายนอก ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะพบปะหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ก็จะพูดเพื่อให้เกิดความสบายใจ แต่สิ่งที่คิดว่าเป็นรูปธรรมตรงนี้ คือ การทำหน้าที่ของไทยตามปกติ ซึ่งมั่นใจว่า ในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นไปตามนั้น" นายอภิสิทธิ์กล่าว


อยากแก้เองมากกว่านานาชาติช่วย


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะหารือนอกรอบหรือทวิภาคี กับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดกำหนดการของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่เท่าที่ดูกำหนดการจะรัดตัวค่อนข้างมาก เพราะจริงๆ การประชุมในช่วง 2 วันนี้ คือการประชุมผู้นำเอเปค กัมพูชาไม่ได้เป็นสมาชิก แต่กัมพูชามาตามคำเชิญของไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีเวลาประชุมประมาณ 1-2 ชั่วโมง อีกทั้งประธานาธิบดีสหรัฐก็มีเวลาจำกัด การจัดเวลาจะเน้นไปที่การประชุมดังกล่าว


นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังต้องการแก้ปัญหากันเองระหว่าง 2 ฝ่าย แทนที่จะให้นานาชาติเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย


ปชป.คุยนายกฯมีวุฒิภาวะอยู่แล้ว


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่นายสุรินทร์แสดงความเป็นห่วงปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชานั้น พรรคยังยืนยันว่านายกฯและทางการไทย แสดงท่าทีและปฏิบัติอย่างมีวุฒิภาวะ และได้รับการยอมรับในการแก้ปัญหาในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งอาเซียนเองก็ทราบว่าสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีปัญหาการเมืองภายในกัมพูชาในการยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ดังนั้น เชื่อว่าทุกประเทศจะเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดเริ่มต้นจากฝ่ายกัมพูชา


"โอบามา" ร่นโปรแกรมพบผู้นำเอเปค


ทั้งนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐจะเดินทางมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำของผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันเดียวกันนี้ ซึ่งเร็วกว่าหมายกำหนดการเดิมหลังจากที่เลื่อนกำหนดการเดินทางออกจากญี่ปุ่นให้เร็วขึ้น


ข่าวแจ้งว่า โอบามาซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนเอเชียหนแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งได้เปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการทำให้เขาจะได้พบกับผู้นำเอเปคชาติอื่นๆ อีก 20 คน ในเย็นวันที่ 14 พฤศจิกายน ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤศจิกายน


โรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า "เราได้เปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการเล็กน้อยและท่านประธานาธิบดีได้ตัดสินใจตั้งแต่เช้าว่า น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าในการเดินทางไปร่วมประชุมเอเปคให้เร็วขึ้นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการหารือในคืนนี้"


การเปลี่ยนแผนของโอบามาดูเหมือนยังจะช่วยให้พิธีการศักดิ์สิทธิ์ของการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคนั่นคือการถ่ายรูปหมู่ของผู้นำ 21 ชาติในชุดแต่งกายท้องถิ่น สามารถมีขึ้นได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ทีมงานผู้จัดการประชุมระบุว่าจะยกเลิกการถ่ายรูปหมู่ในชุดแต่งกายท้องถิ่นไป เนื่องจากโอบามาเดินทางมาถึงไม่ทัน แต่จะไปถ่ายรูปหมู่ในวันที่ 15 พฤศจิกายนซึ่งผู้นำจะอยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการแทน


สนใจร่วมเขตการค้าเสรีแปซิฟิก


เอพีและเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามาประกาศในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนหน้าการเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปคที่สิงคโปร์ว่า สหรัฐตั้งใจที่จะเข้าร่วมในเขตการค้าเสรีแปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งเดิมเป็นความร่วมมือระหว่าง 4 ชาติ ได้แก่ บรูไน ชิลี นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ โดยผู้นำหลายประเทศมองว่าการประกาศของโอบามาครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีในการช่วยส่งเสริมและผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรีแปซิฟิกที่ใหญ่ขึ้นและอาจครอบคลุมประชากรถึง 2,600 ล้านคนทั่วโลก


ก่อนหน้านี้นอกจากสหรัฐแล้วยังมีออสเตรเลีย เปรู และเวียดนามที่แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในกรอบทีพีพี แต่มีเพียงคำประกาศของโอบามาเท่านั้นที่แสดงออกอย่างชัดเจน


รอน เคิร์ก ผู้แทนการค้าสหรัฐยังได้กล่าวถึงความตั้งใจของสหรัฐในการเข้าร่วมทีพีพีในการกล่าวต่อที่ประชุมของผู้นำธุรกิจในการประชุมเอเปค โดยเรียกร้องให้สมาชิกเอเปคร่วมมือกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีดุลยภาพ


ผู้นำออสซี่จี้เร่งเขตค้าเสรีโลก


ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า บรรยากาศในการประชุมเอเปควันเดียวกันนี้ผู้นำประเทศหลายราย เช่น ประธานาธิบดีเฟลิเป คาลเดรอน ของเม็กซิโก และประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย พูดถึงหลายๆ ชาติที่มีแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปในแนวทางตรงกันข้ามกับการเปิดเสรีทางการค้า


คาลเดรอนกล่าวว่า การกีดกันทางการค้าเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และยังบอกว่าหลายๆ ประเทศกำลังดำเนินการกีดกันทางการค้าแม้ว่าปากจะพูดว่าพวกเขาสนับสนุนหลักการในการค้าเสรี


คาลเดรอนได้ยกตัวอย่างสหรัฐที่มีความคิดแบบเก่าที่ผิดๆ ของการกีดกันทางการค้าที่ปรากฏขึ้นในสภาคองเกรสและในหมู่บรรดาผู้กำหนดนโยบายโดยเห็นได้จากอนุมาตรา ซื้อของอเมริกันหรือ "บายอเมริกัน" ในร่างกฎหมายหลายๆ ฉบับ


ด้านนายกรัฐมนตรีควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย เรียกร้องให้ผู้นำเอเปคหันกลับมาผลักดันการเจรจาเขตการค้าเสรีโลกขององค์การการค้าโลกหรือการเจรจารอบโดฮา ที่หยุดชะงักไปให้ลุล่วง โดยระบุว่าหากทำสำเร็จจะเป็นการช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น


เอเอฟพีรายงานว่า รัดด์ยังได้ผลักดันให้มีการจัดตั้งประชาคมเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะมีการร่วมมือกันทางด้านการเมืองและความมั่นคงด้วยภายในปี 2563 โดยเขาเปิดเผยว่าขณะนี้ไม่มีหน่วยงานไหนที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาด้านต่างๆ ที่ภูมิภาคนี้ต้องเผชิญ


ผู้นำเปรูกลับเคลียร์ปมจารกรรม


เอพีรายงานว่า นายโฮเซ การ์เซีย เบลาอุนเด รัฐมนตรีต่างประเทศเปรู เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีอลัน การ์เซีย ต้องเดินทางกลับตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 พฤศจิกายนซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 24 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้การ์เซียต้องพลาดการเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเปค 21 ชาติที่จะมีขึ้นในช่วงบ่าย


เบลาอุนเดเปิดเผยว่า ตัวเขาเองและประธานาธิบดีการ์เซียต้องกลับไปจัดการปัญหาที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศชาวเปรูรายหนึ่งถูกจับกุมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาในข้อหาเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลให้กับชิลีและได้ยอมรับผิด โดยเขากล่าวว่ากรณีดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาทางการเมืองและปัญหาทางการทูตขึ้น โดยจะมีเพียงรัฐมนตรีการค้าของเปรูเท่านั้นที่อยู่ร่วมประชุมเอเปคต่อ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์