คำต่อคำอภิสิทธิ์โต้ ฮุนเซน หูเบาเชื่อคนไทย ชักศึกเข้าบ้าน

คำต่อคำ

"อภิสิทธิ์"โต้ "ฮุนเซน" หูเบาเชื่อคนไทย ชักศึกเข้าบ้าน บอกเสียใจกัมพูชาไม่ยึดหลักสากล


" .... น่าเสียใจที่กัมพูชาไม่ปฏิบัติตามหลักสากลในเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลไทยจำเป็นต้องทบทวนความร่วมมือต่างๆเพิ่มเติม ....  ข้อมูลของสมเด็จฯฮุนเซนคลาดเคลื่อนมาตลอด และมีคนที่ผมไม่อยากคิดว่าเป็นคนไทย ที่ไปยุให้เกิดปัญหาขึ้น...น่าเสียใจที่คนของเราเองไปสร้างปัญหาเอาไว้ .... "


---------------------------------------------


หมายเหตุ : เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ตอบโต้สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำไทย และรัฐบาลไทยในหลายประเด็น รวมทั้งกรณีรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้ทางการไทย


@ กัมพูชาทำหนังสือตอบกลับมาว่าไม่ขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีในไทย
  ขณะนี้เมื่อทางกัมพูชาทำหนังสือส่งกลับมาให้ไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศจะส่งหนังสือดังกล่าวไปให้ทางอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายต่างๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่กัมพูชาไม่ปฏิบัติตามหลักสากลในเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลไทยจำเป็นต้องทบทวนความร่วมมือต่างๆเพิ่มเติม นอกเหนือที่ทำไปแล้วในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ไปรวบรวมโครงการ ความร่วมมือ และมิติความสัมพันธ์ด้านต่างๆ สำหรับรัฐบาล จะยึดแนวทางเดิม คือ การดูแลไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง และไม่ให้กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนบริเวณแนวชายแดน แต่จะมีแนวทางให้กระทรวงการต่างประเทศ ไปรวบรวมเรื่องความร่วมมือด้านต่างๆมา


@ ยังจะไม่มีการปิดพรมแดนใช่หรือไม่
  ยังไม่มี การปิดพรมแดนยืนยันว่า ไม่มีการปิด เพียงแต่เราจะเข้มงวดกวดขัน กับคนที่ข้ามไปเล่นการพนัน เพราะปล่อยปละละเลยกันมานาน 


@ การที่ทางกัมพูชาตอบกลับมาอย่างรวดเร็วอย่างนี้ เท่ากับเป็นการบีบให้ยกระดับการตอบโต้ จนที่สุดต้องไปจบที่วิธีทางการทหารหรือไม่
  ผมไม่คิดว่าขณะนี้จะมีประเด็นในเรื่องของทางการทหาร เพราะท่าทีของฝ่ายกัมพูชาเองพูดถึงว่าจะมีการถอนทหารจากบริเวณชายแดน และผมได้คุยกับทางฝ่ายทหารมาโดยตลอดว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะให้เกิดการปะทะหรือรุนแรง


  แต่วันนี้ ต้องเรียนว่าคุณทักษิณน่าจะต้องรู้ว่าเป็นคนสร้างปัญหาให้กับคนทั้งสองประเทศ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า ความพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง มันไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งผมเรียนว่า หลายเรื่องที่ทำที่ผ่านมา 2-3 วันนี้ กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของคนไทย


@ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะขอเป็นกาวใจให้สองประเทศดีกัน
  เป็นคนสร้างปัญหาไว้ จะทำอะไรต่อไปก็ต้องคิดอยู่แล้ว แต่ที่ทำไปผมบอกได้ว่า คนไทยคนอื่นเขาไม่ทำกัน


@ เท่าที่เห็นคำสัมภาษณ์ล่าสุดของสมเด็จฯฮุน เซนที่แข็งกร้าว เป็นห่วงอะไรหรือไม่
  ไม่หรอก เป็นการแสดงท่าทียืนยันในจุดเดิมของกันและกัน ต้องว่ากันไป ผมยืนยันว่ารัฐบาลไทยต้องการให้ภาพรวมความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างปกติ แต่การแสดงจุดยืนทางการเมืองที่เราเห็นว่าไม่ถูกต้องและเหมาะสมสม และล่าสุดไม่สอดคล้องกับหลักสากล ก็เป็นเรื่องที่เราต้องมีมาตรการดำเนินการ


@ สมเด็จฯฮุนเซนอ้างว่าไม่สารมารถส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาให้ได้ เพราะไม่สามารถทำตามกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยได้
  สิ่งที่อ้างมาในเหตุผลนี้ เป็นความคลาดเคลื่อนที่ชัดเจน ผมคิดว่าคนอ่านรู้ว่าข้อมูลหรือถ้อยคำลักษณะนี้มาจากไหน ฉะนั้นต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ โดยในส่วนของสนธิสัญญา ขั้นตอนของมันน่าจะจบหรือใกล้จบแล้ว ฉะนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องทบทวนในเรื่องโครงการความร่วมมือและความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ


@ การให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฯฮุนเซนยังได้พาดพิงการทำงานของข่าวกรอง ทหาร และตัวของนายกฯค่อนข้างรุนแรง  

ผมได้เรียนแล้วว่า ข้อมูลของสมเด็จฯฮุน เซนคลาดเคลื่อนมาตลอด และมีคนที่ผมไม่อยากคิดว่าเป็นคนไทย ที่ไปยุให้เกิดปัญหาขึ้น เช่น เรามีรายงานมาโดยตลอดว่า ทางการกัมพูชาพูดว่าทางฝ่ายเรามีความคิดที่จะไปทำในหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เราพูด คิดหรือสิ่งที่ทำเลย


@ รู้สึกอย่างไรที่สมเด็จฯฮุน เซน ระบุว่านายกฯเป็นเด็ก และขโมยเก้าอี้คนอื่นมาจนได้เป็นนายกฯ 
  ไม่จริง(ยิ้มพร้อมหัวเราะ) ผมไม่ไปตอบโต้ แต่ขอเรียนว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาของผม ชัดเจนอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ท่านก็ไม่ได้พูดอย่างนี้ ผมไม่อยากไปพูดอะไรเพิ่มเติม แต่ผมเป็นคนที่พูดกับใคร ก็รักษาคำพูด


@ ทำไมมองว่ากัมพูชาได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน ในขณะที่บางฝ่ายบอกว่ากัมพูชามีเจตนาที่จะรับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักมากกว่า
  ผมไม่ได้พูดถึงเจตนา แต่เขาใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และคำถามคือว่า ทำไมจะต้องมีคนไปให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเพื่อสร้างปัญหากับความสัมพันธ์ของสองประเทศ 


@ ขณะนี้กลายเป็นว่าช่องทางทางการทูตแคบลงใช่หรือไม่
  เราดำเนินการด้วยความระมัดระวังทุกอย่าง ทุกอย่างที่เราจะทำจะยึดหลักตามมาตรฐานสากล และดำเนินการทุกอย่างด้วยความนุ่มนวลต่มีความเข้มแข็งในขุดยืน


@ ขณะที่ไทยยึดหลักมาตรฐานสากลแต่กัมพูชากลับไม่สนใจ จะดำเนินการอย่างไร
  ผมถึงได้บอกว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่กัมพูชาไม่ยึดตามหลักสากล และเราต้องเดินหน้าในการแสดงจุดยืนของเราต่อไป


@ สภาพความสัมพันธ์จะเลวร้ายถึงขั้นต้องตัดความสัมพันธ์หรือไม่
  อย่าเพิ่งไปพูดอะไรล่วงหน้ามาก เพราะเหตุการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก แต่เราต้องมีความหนักแน่นในจุดยืนของเรา และผมจะดูแลให้ทุกอย่างมีความระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนต่อประชาชนของเรา


@ จะยกระดับปัญหานี้ขึ้นไปในระดับอาเซียนหรือไม่
  เราจะไม่ให้เรื่องนี้กระทบกับงานของอาเซียน และขณะนี้ยังเป็นปัญหาระหว่าวสองประเทศที่ต้องพูดคุยกันให้ได้ผมยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาสองประเทศ ที่ไม่จำเป็นต้องมีประเทศอื่นต้องมาช่วยเจรจา


@ ปัญหานี้จะมีผลกระทบลามไปถึงการประชุมเอเปคระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศสิงคโปร์หรือไม่
  การประชุมเอเปคครั้งนี้กัมพูชาไม่ได้เป็นสมาชิก แต่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ผมคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาและได้ให้กระทรวงการต่างประเทศยืนยันไปแล้วว่า เราจะดูแลให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


@ เห็นภาพการต้อนรับของกัมพูชาที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างยิ่งใหญ่แล้ว รู้สึกอย่างไร
  ไม่รู้สึกอะไร ถ้าจะมีคำถาม ก็ต้องคำถามว่าคุณทักษิณไปทำอะไร 


@ สถานการณ์ที่อ่อนไหวขณะนี้ เกรงว่าจะมีกระแสการคลั่งชาติ หรือความเป็นชาตินิยมจนอยู่นอกเหนือการควบคุมหรือไม่ 
  ผมถึงได้ใช้แนวทางและสื่อสารอยู่ตลอดเวลาว่า ประชาชนต้องเข้าใจว่าปัญหานี้ไม่ควรจะเป็นปัญหาระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาตามแนวทางที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างเต็มที่และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่คนของเราเสียเองที่ไปสร้างปัญหาเอาไว้


@ มีความเห็นอย่างไร ที่มีหลายฝ่ายทั้งฝ่ายค้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และสมเด็จฯฮุนเซน เรียกร้องให้นายกฯไทยยุบสภา 
  ทุกฝ่ายหรือ (หัวเราะ) ผมว่าอาจจะเป็นฝ่ายเดียว และก็เป็นฝ่ายเดิม 


@ พล.อ.ชวลิต ระบุว่าหากไม่ยุบสภาจะทำเกิดเหตุการณ์ใหญ่ รู้สึกกังวลหรือไม่
  ท่านจะทำอะไร ผมนึกว่าท่านเข้ามาเพื่อทำให้ทุกอย่างเกิดความปรองดองสมานฉันท์ เสร็จแล้วก็เดินทางไปต่างประเทศเพียงครั้งเดียว ก็นำมาซึ่งปัญหาระหว่างสองประเทศ และทำให้มีบรรยากาศของความขัดแย้งเกิดขึ้น  น่าจะทบทวน จะทำการเมืองก็น่าจะยึดความสงบเรียบร้อย ผลประโยชน์ของประเทศ ศักดิ์ศรีของประเทศ


@ คิดว่าขณะนี้จะมีสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นหรือไม่
  รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลและพยายามบริหารสถานการณ์ไม่ให้เกิดปัญหาที่รุนแรง และผมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ความระมัดระวังในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การแสดงออกหรือการกระทำใดๆ เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของคนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้น


@ ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศชุมนุมใหญ่แสดงจุดยืนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
  ขอให้ชุมนุมอย่างสงบและอย่าไปทำอะไรที่ก่อให้เกิดความลุกลามบานปลาย ในแง่ของความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความรุนแรง กลุ่มพันธมิตรฯต้องรับผิดชอบต่อการเคลื่อนไหวต่างๆ ขอยืนยันว่าไม่ต้องการเห็นความเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความรุนแรง อยากให้คนไทยสามัคคี ยึดประโยชน์ ศักดิ์ศรีของประเทศ รัฐบาลจะเดินหน้าทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด และเราต้องหนักแน่นสามัคคีกัน


@ นายกฯจะสุขุมพอในการต่อสู่กับชั้นเชิงทางการทูตของสมเด็จฯฮุน เซนจากนี้ต่อไปอย่างไร
  (ยิ้ม) สิ่งที่เราทำ คิดว่าเราปกป้องผลประโยชน์ของเราอย่างดีที่สุด ขณะนี้หลายสิ่งหลายอย่างที่ดำเนินการไปนั้น ผมมั่นใจว่า ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ 10 เดือนที่ผ่านมา ก็เพียงพอที่จะดูว่าการดำเนินงานต่างๆด้วยความรอบคอบ รัฐบาลทำอยู่ตลอดเวลา ผมมีแต่ต้องมาแก้ไขปัญหารัฐบาลในอดีตที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เอาไว้ในด้านการต่างประเทศ ผมยังต้องแก้อยู่ครับ


------------------------------------------------------------


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์