มาร์คแจงยุติMOUเหตุเขมรตั้งแม้วที่ปรึกษา


มอบกระทรวงการต่างประเทศรวมข้อมูล ก่อนยื่นสภาฯขอความเห็นชอบ เปิดทางกัมพูชาพิจาณา 'ขอโทษ'

วันนี้(
10 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชา กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปถึงก็จะดำเนินการทำหนังสือขอตัวมาตามสนธิสัญญา ซึ่งทางหน่วยงานกำลังดำเนินการขอตัวอยู่ เมื่อถามว่าหากทางกัมพูชาไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไทยจะมีมาตรการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสิ่งที่กัมพูชาทำมานั้นกระทบต่อความสัมพันธ์ในเรื่องใด เราก็จะต้องมีการมาทบทวนตามความเหมาะสม ของอย่างนี้เราไม่พูดล่วงหน้า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อที่จะมีการยกเลิกบันทึกความเข้าใจที่ทำไว้กับทางกัมพูชา เนื่องจากสภาพเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น คือ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยไปเป็นที่ปรึกษาของฝ่ายกัมพูชา นอกจากนั้นการเจรจาตามกรอบ MOU ในหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยและไม่ครอบคลุมในประเด็นที่อยู่ในบันทึกความเข้าใจด้วย ทั้งนี้การยกเลิกจะมีผลต่อเมื่อสภาต้องเห็นชอบก่อนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190  ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะต้องพิจารณาให้รอบคอบรัดกุมเพราะอาจจะถูกโต้แย้งได้

ต่อข้อถามจำเป็นต้องแจ้งกัมพูชาอย่างเป็นทางการหรือไม่
 
นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า ความจริงกัมพูชาเขาก็ทราบอยู่แล้ว และขณะนี้ทางฝ่ายกัมพูชาเองก็ดูเหมือนจะให้ข่าวทำให้คนสับสนมากขึ้น เช่นไปพูดถึงบันทึกข้อตกลงต่างๆ รวมไปถึงเรื่องพรมแดนทั้งที่รัฐบาลไทยไม่ได้ดำเนินการอะไร จึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริงว่าในสิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการนั้นทุกอย่างอยู่บนเหตุผลของความเปลี่ยนแปลงจากการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาเป็นหลัก วันนี้กัมพูชาก็ต้องคิดว่าทำให้เกิดสถานการณ์ที่มีผลประโยชน์ขัดกันขึ้นมาอย่างนี้และการจะเจรจาทำอะไรต่อไปก็ต้องมาตั้งต้นใหม่หมดนั้นเพื่ออะไร และการที่มาแสดงท่าทีวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของไทยมันเหมาะสมหรือไม่ เมื่อถามว่าจะต้องให้กัมพูชาขอโทษประเทศไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องให้เขาได้พิจารณา

นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีของนิตยสารไทม์และไทม์ออนไลน์เสนอคำสัมภาษณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว และมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาในเรื่องกฎหมาย
 

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์