เพื่อไทย กับแถลงการณ์ เพื่อศักดิ์ศรีไทย - เปลว สีเงิน 7

ทักษิณ และ ฮุน เซน ผลประโยชน์ชาติไปแลกผลประโยชน์ตัวเอง??

ก็ผมบอกแล้ว  "ทักษิณไม่ฉลาดเลย"  ที่สมคบคนชาติอื่นมาปาหลังคาบ้านตัวเอง  และเท่าที่ผมสังเกตปฏิกิริยาจากนานาชาติ  เขาต่างถนอมมรรยาทที่จะไม่สอดแทรกในปัญหาของชาติอื่น  แต่เขาสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ถนอม  "แววตาสมเพช"  ในการมองผู้นำเขมรอย่างนายกฯ  ฮุน  เซน   เพราะนอกจากเข้าไม่ถึง  "จริยะและวุฒิมรรคบัญญัติ"  เพื่อการเป็นผู้นำอารยสากลแล้ว   แต่เมื่อฮุน  เซน  ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศหนึ่งอย่างนี้  ก็ด้วยเหตุ  ๒  สถานเท่านั้น  คือ

     ๑.นี่แหละ..เดอะ  เบสต์  ของเขมร  และ

     ๒.บุญเก่าทำไว้ดีเหมือนทักษิณ!?

     สำหรับปฏิกิริยาตอบสนองของไทยต่อการแสดงบทบาทการเมืองระหว่างประเทศดิบ-เถื่อนของฮุน  เซน  จากที่ผมสังเกตอีกเหมือนกัน  ในการถนอมมรรยาทของนานาชาตินั้น  แต่ท่าทีต่างบ่งบอกความเข้าใจในความจำเป็น  และจำใจ  ที่ไทยต้องผดุงเกียรติ-ผดุงศักดิ์ของความเป็นอารยชาติสูงส่งชาติหนึ่ง

     ซึ่งถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับชาติเขา  เขาก็อาจไม่มีทางเลือกอื่นใดที่  "ดีที่สุด"  เท่ากับการตอบโต้บนขั้นตอนทางการทูตอันเปี่ยมด้วยการุณธรรมต่อผู้ด้อยกว่า  ทั้งจริยะ  และวุฒิภาวะทุกด้าน   บนมาตรการ  "ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต"  เป็นการให้สติ  อย่างที่นายกฯ  อภิสิทธิ์มอบความนุ่มนวลให้กับกัมพูชาครั้งนี้

     ตรงนี้  ทำความเข้าใจกันไว้ด้วยนะครับ  โดยเฉพาะผู้ประกาศข่าวสาวๆ  ทางโทรทัศน์  TNN   ไทย-กัมพูชา  ไม่ได้ปิดประเทศต่อกัน  ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน  ฉะนั้น  ทำเป็นแตกตื่นตกใจ  ไม่ทำความเข้าใจประเด็นให้ชัด  แล้วเที่ยวต่อสายตั้งคำถามสัมภาษณ์คน

นั้น-คนนี้  ด้วยท่าทีในโทนว่า  ที่ไทยทำลงไปนั้น.....

     เดี๋ยวเขมรจะโกรธนะ, เดี๋ยวสะเทือนการค้าชายแดนนะ, เดี๋ยวการลงทุนในเขมรจะเดือดร้อนนะ!

     อะไรต่างๆ  เหล่านี้  ผมว่าต้องตั้งสติ  และศึกษาขั้นตอนให้ดีก่อนป้อนข่าวสู่สาธารณะ  อย่าเอาแต่  ธุรกิจ..เงิน..ความรู้สึกส่วนตัว  จนไม่สนใจว่าใครเขามาฉี่รดภูเขาทอง  และในข้อเท็จจริง  ยังไม่มีอะไรสะเทือนถึงความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐาน  การค้าการขาย  และการไปมาหาสู่กันของพี่น้อง  ๒  ประเทศเลย

     เพียงเรียกทูตกลับ  เป็นการแสดงท่าทีด้วยมาตรฐานขั้นตั้น  สถานทูตก็ยังเปิด  และมีอุปทูตทำงานอยู่   ไม่มีปิดด่าน-ปิดแดนอะไร  อย่าให้โทนข่าวรัฐบาลตัวเองเป็นจำเลย  แล้วทูนฮุน  เซน  ไว้บนหัวในฐานะโจทก์  ด้วยทัศนะกลัว...เดี๋ยวเขมรเค้าจะโกรธ  ให้มากนัก!

     ทักษิณ-นอกจากถึงพร้อมด้วยโง่  ๔  ประการ  ดังที่ผมเคยบอกไปแล้ว  แต่สำหรับฮุน  เซน  ที่ฉวยโอกาสใช้ทักษิณเป็น  "ลิ่ม"  ตอกเข้าไปในรอยแยกคนไทยอันเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดขณะนี้นั้น  ผมก็ไม่อยากเจียระไนกรวดอีก  เอาเฉพาะเท่าที่เห็นคาตาก็คือ  "โง่"  เพียงประการเดียวของฮุน  เซน  ก็อันตรายต่อทั้งประเทศและทั้งประชาชนชาวกัมพูชาสาหัสแล้ว!?

     นั่นคือ  การเอาทักษิณไปตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวฮุน  เซน  นั่นก็ยกไว้  พอจะกล้ำกลืนฝืนใจว่ามีผลระหว่างบุคคล-ต่อบุคคลเฉพาะตัวเท่านั้น

     แต่การให้พระมหากษัตริย์ของกัมพูชาลงพระนามรับรองพระราชกฤษฎีกาแต่งตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชานั้น  นั่นเท่ากับทำในนามประเทศ  ในนามประชาชนชาวกัมพูชาทั้งมวล  ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมไทย  ด้วยกล่าวหาว่าไม่เป็นธรรม

     การเอาประเทศทั้งประเทศ  รวมทั้งระบบ-สถาบันทั้งหมดของกัมพูชามารองรับคนคนหนึ่งให้เป็นปัญหาของประเทศตัวเอง  เช่นนี้คงไม่มีใครบอกว่าเป็นการทำที่ฉลาด

     ขนาดฮุน  เซน  ยังรู้สึกโดดเดี่ยว  ดังเห็นจากการไปประชุมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงที่ญี่ปุ่น  เขาจะถ่ายรูปหมู่ผู้นำ  ๖  ประเทศ  ตัวเองขัดเขินตัวเอง  ไม่กล้าเข้าพวก-เข้าหมู่  จนท่านบัวสอน  บุบผาวัน  ผู้นำลาว  ต้องกวักมือให้มายืนเข้าแถว-ถ่ายรูป

     แต่ประเด็นสำคัญที่ผมเกรงว่า  ต่อๆ  ไปประชาชนชาวกัมพูชา  ตลอดถึงคนในรัฐบาลกัมพูชาเองจะยอมรับไม่ได้ในผู้นำไร้วุฒิภาวะของเขา  เพราะคนกัมพูชาก็มีร่วม  ๒๐  ล้านคน

     แต่จะหาคนเก่ง  คนดีมีวิชาความรู้สัก  ๑  คนอย่างทักษิณมาทำยา  ทั้งแผ่นดินเขมร  ไม่มีเลยเชียวหรือ?

     - นี่..ฮุน  เซน  ตบหน้าประเทศตัวเอง  ตบหน้าประชาชนชาวกัมพูชาทั้งมวล  ฉาดที่หนึ่ง!

     และคนกัมพูชา  หมายถึงคณะรัฐบาล-ทหาร-ประชาชน  เขาก็รู้ว่า  ทักษิณนั้นนอกเหนือจากความเป็นเพื่อนทางธุรกิจและผลประโยชน์เฉพาะตัวที่ฮุน  เซน  จะได้รับแล้ว  ในความเป็นชาติ-เป็นประเทศ  เขาไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตัวทักษิณเลย  นอกจากโทษที่จะมาสมคบกันกอบโกยเอาไปจากชาติ-จากประชาชน  และโทษจากที่ต้องบาดหมางระคางใจกับมิตรประเทศอย่างไทย

     - ฮุน  เซน  ตบหน้าประเทศตัวเอง  และตบหน้าประชาชนชาวกัมพูชาทั้งมวล  เป็นฉาดที่สอง!

     และทุกคนในกัมพูชาก็รับรู้ว่า   ทักษิณไม่ใช่คนดี  เป็นคนมีพฤติกรรมโกงชาติ  โกงแผ่นดิน  มีเงินเป็นแสนล้านอันไม่สามารถแสดงที่มาได้  และซุกซ่อนไว้ทั่วโลก  ซ้ำไม่ยอมเสียกระทั่งภาษีเข้ารัฐ  ซึ่งเหล่านี้ไม่ใช่  "คดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง"  อย่างที่ฮุน  เซน  ระบุในแถลงการณ์แต่อย่างใด

     ทักษิณเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาแผ่นดินหลายคดี  และเป็นจำเลยที่ถูกศาลตัดสินจำคุก  แต่หลบหนีโทษไปอยู่นอกประเทศ  ระหว่างอยู่นอกประเทศ  ก็มีพฤติกรรมกัดกร่อน-บ่อนทำลายชาติตัวเอง  ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนกระด้างกระเดื่องต่อระบบปกครองของประเทศตัวเอง  ยุแหย่ให้ประชาชนแยกแตกกัน  และปั่นหัวหวังล้มชาติ  ล้มสถาบันของประเทศตัวเอง

     เปรียบไปแล้ว  ทักษิณต่ำค่ากว่ากรวดทรายใช้ทำพื้นส้วมตามปั๊มน้ำมันด้วยซ้ำ  ประเทศไทย-ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่  เกลียด  ขยะแขยง  ไม่ต้องการ  แต่ปรากฏว่านายกฯ  ฮุน  เซน  ของกัมพูชา  กลับนิยมชมชื่น  กอบกรวดทรายใช้ทำพื้นส้วมที่ไทยไม่ต้องการไปปั้นเป็น  "เพชรยอดมงกุฎ"  ของประเทศกัมพูชา  ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาล

     - นี่...เท่ากับฮุน  เซน  ตบหน้าประเทศตัวเอง  และตบหน้าประชาชนชาวกัมพูชาทั้งมวล  เป็นฉาดที่ส่าม!

     และทั้งฮุน  เซน  และทั้งประชาชนชาวกัมพูชานึกหรือว่า  คนที่ทรยศต่อชาติตัวเองได้  มาอยู่กัมพูชา  ซึ่งไม่ใช่แผ่นดินพ่อ-แผ่นดินแม่ตัวเอง  เมื่อได้ไออุ่น

     สักวัน...มีหรือ  ที่มันจะไม่ขี้รดหลังคา!?

     เอาละ...ทุกอย่างไม่ได้มีมุมเดียว  เรื่องนี้เหมือนกัน  เราอย่ามองแต่มุมเสีย  มุมได้ก็มี  คืออย่างน้อยกรณีนี้เป็นการ  "ตรวจ  DNA  คนไทย"  ในความรักชาติ  รักแผ่นดิน  หรือมีทัศนคติอย่างไหน  ต่อการที่ฮุน  เซน  กระทำหยาบหยาม-ย่ำศักดิ์ศรีไทยเกินกรอบขอบเขตที่จะทนนิ่งเฉยได้

     เท่าที่ดู  น่าชื่นใจครับ  คนไทยนั้น  วัดอุณหภูมิได้เมื่อ  "ภัยร่วมชาติ"  มาถึง  ซึ่งปรากฏว่า  เสียงสนับสนุนรัฐบาลต่อการแสดงท่าทีตอบโต้กัมพูชาครั้งนี้...พุ่งปรี๊ด!

     แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งคือ  "พรรคเพื่อไทย"  ซึ่งชื่อบอกว่า  "เพื่อไทย"  แต่เมื่อฮุน  เซน  หยาบหยามต่อประเทศไทย  ในขณะที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่พอใจ  สนับสนุนรัฐบาลตอบโต้เพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรี  แต่เพื่อไทย  โดยนายปลอดประสพ  สุรัสวดี  เขาออกแถลงการณ์  "เพื่อไทย"  ดังนี้

     1.พรรคเห็นว่ารัฐบาลได้ทำเกินกว่าเหตุ  กำลังนำผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศไปสู่ภาวะสุ่มเสี่ยง  ถือเป็นการตอบโต้ไร้วุฒิภาวะทางการทูต  จะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในทางการทูตทั้งสองประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

     2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบในความเสื่อมทรามของความสัมพันธ์  ความเสียหายทางเศรษฐกิจ  ตลอดจนความตึงเครียดตามแนวชายแดน  ถ้าแก้ไม่ได้  อาจนำไปสู่ข้อพิพาทระหว่างประเทศต่อไป

     3.พรรคได้ศึกษาข้อกฎหมายถึงการแต่งตั้ง  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  เป็นที่ปรึกษาฯ  โดยพระมหากษัตริย์ของกัมพูชา  เป็นการออกกฎหมายภายในกัมพูชา  ถือเป็นกิจการภายในของกัมพูชา  การที่รัฐบาลจะอ้างเหตุผลนี้มาตอบโต้  ก็คงฟังไม่ขึ้น  และเชื่อว่าประชาชนจะไม่เห็นกับที่รัฐบาลกล่าวอ้าง

     4.พรรคเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยเสื่อมทรามลงมาตลอด   ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีตั้งนายกษิต  ภิรมย์  เป็น  รมว.ต่างประเทศ  เอาคนที่เคยยึดสนามบิน  เป็นคนที่เคยไปด่าผู้นำกัมพูชาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย  ทำให้เกิดความกินแหนงแคลงใจมาตลอด

     5.พรรคเห็นว่าตลอด  10  เดือนรัฐบาลไม่มีมาตรการในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม  ตรงกันข้ามนายกรัฐมนตรีได้ไปพูดตำหนิ  เหยียดหยามผู้นำกัมพูชาในช่วงการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา

     6.การดำเนินการของรัฐบาลไม่ได้กระทำตามขั้นตอนจากมาตรการขั้นเบาไปหาหนัก  ถือว่าผิดธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูต

     7.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่มีความชอบธรรม  แอบอ้างว่าได้ดำเนินการประท้วงกัมพูชาในนามคนไทยทั้งประเทศ  เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้  ที่มีที่มาไม่ชอบธรรมและไม่เห็นด้วยกับการทำลายความสัมพันธ์กับกัมพูชา

     8.รัฐบาลชุดนี้ไร้ความรับผิดชอบในการนำประเด็นการเมืองภายในไปกดดันประเทศเพื่อนบ้าน  และขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการพยายามปลุกกระแสรักชาติ  เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลวในการทำงานและปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น

     9.พรรคถือว่าเพื่อนบ้านคือเพื่อนที่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุขและรุ่งเรือง  เราต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน   พรรคจะเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเร่งด่วน  ตามแนวนโยบาย  ไทยร่มเย็น  เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน

     10.รัฐบาลดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด  เป็นการทำลายจิตวิญญาณและปณิธานของสมาคมอาเซียนที่ต้องการอยู่อย่างสันติ  วันนี้นายกฯ  กำลังทำให้อาเซียนล่ม

     11.พรรคมีข้อเท็จจริงว่ามีหลายประเทศได้ตั้ง   พ.ต.ท.ทักษิณ  เป็นที่ปรึกษาฯ  อย่างเช่น  ประเทศฮอนดูรัส  นิการากัว  จึงถามว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่ดำเนินการเช่นเดียวกับรัฐบาลกัมพูชา  ไม่ใช่เลือกปฏิบัติเฉพาะกับนายกฯ  กัมพูชา

     12.การที่นายกฯ  อ้างว่า  จำเป็นต้องตอบโต้นายกฯ  ฮุน  เซน  เพราะได้วิจารณ์ระบบกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น   พรรคเห็นว่าเป็นการพูดแบบแก้เกี้ยว  พยายามหาเหตุผลเท่านั้น  หากเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญก็ควรดำเนินการเมื่อ  1  เดือนมาแล้ว  ไม่ใช่มาตอบโต้เมื่อมีการตั้ง  พ.ต.ท.ทักษิณ  เป็นที่ปรึกษาฯ

     อืมมมม...บริสุทธิ์สุดที่จะเอ่ยจริงๆ.



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์