ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาเริ่มกระทบศก. ทั้งยกเลิกทัวร์ คืนตั๋วสายการบิน "อลงกรณ์" สั่งจับตาการค้าชายแดน ภายหลังเกิดปัญหาความสัมพันธ์ของระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา โดยต่างฝ่ายต่างเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศเพื่อเป็นการตอบโต้ซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจแล้ว "อลงกรณ์" เตรียมลงพท.ตรวจค้าชายแดน วันเดียวกัน ที่กระทรวงพาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดประชุมพาณิชย์จังหวัดผ่านระบบสื่อสารทางไกล (วีดีโอคอนเฟอเร้นท์) เพื่อให้นโยบาย 6-7 จังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศกัมพูชาให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ตนพร้อมคณะข้าราชการกระทรวงพาณิชย์จะเดินทางไปตรวจสถานการณ์การค้าชายแดนที่ด้านคลองลึก จ.สระแก้ว ในวันที่ 7 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังอยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้จะกำชับทูตพาณิชย์ในกรุงพนมเปญรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วหากสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม "แม้จะมีการเรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับไทย แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ถึงขั้นต้องเรียกทูตพาณิชย์ประจำพนมเปญกลับไทยด้วย" ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชาในปี 2551 มีมูลค่า 70,033 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 50,307 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน 80% โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า โดยส่งออกได้ 47,372 ล้านบาท แต่นำเข้า 2,936 ล้านบาท สำหรับ 9 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกไปกัมพูชา 1,183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 29.78% แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดกระแสข่าวว่าไทยเรียกนางจีรนันท์ วงษ์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ กลับประเทศไทย เมื่อตรวจสอบพบว่านางจีรนันท์ได้ลาพักร้อนออกจากกรุงพนมเปญตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์ในกัมพูชา เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และขนย้ายคน หากเกิดสถานการณ์เลวร้ายไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ภาวการณ์ยังไม่มีอะไรน่ากังวล ยังดำเนินการค้าเป็นปกติ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวว่า บริษัทเอกชนไทยที่ลงทุนในกัมพูชาผ่านเอ็กซิมแบงก์ มีวงเงินกู้ที่ใช้ลงทุนประมาณ 1-2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการสร้างโรงแรม สนามบิน ห้างสรรพสินค้า นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ไม่มีผลกระทบต่อลูกค้าขนาดใหญ่ของธนาคารที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนมีจำนวนน้อยมากหากเทียบกับขนาดธุรกิจบริษัทเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดจะเป็นในส่วนของธุรกิจแนวตะเข็บชายแดนมากกว่า เช่น คาสิโน ที่เป็นการกู้เงินจากนอกระบบในการดำเนินธุรกิจ นายนะเพ็งพาแสง กฤษณามระ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สาขาธนาคารในกัมพูชายังเปิดทำการปกติ ผู้จัดการสาขาได้รายงานเป็นระยะๆว่าสถานการณ์ยังปกติดี แต่ยอมรับว่าห่วงความปลอดภัยของพนักงาน จึงได้สั่งให้จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
บริษัททัวร์ยกเลิกไปเขมรห่วงความปลอดภัย ด้านสายการบินยังเปิดบริการเหมือนเดิมแต่ลูกค้าเริ่มคืนตั๋ว "อลงกรณ์" เรียกประชุมสั่ง จว.ติดชายแดนเขมรจับตาใกล้ชิด ส่วนปลัดพาณิชย์พร้อมย้ายเจ้าหน้าที่ประจำกัมพูชากลับประเทศ
ผู้ประกอบการเลิกทัวร์เขมรหวั่นไม่ปลอดภัย
วันที่ 6 พฤศจิกายน นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) ซึ่งมีสมาชิกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว 8 สมาคม เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการนำเที่ยวไทยไปกัมพูชาได้ยกเลิกการนำนักท่องเที่ยวชาวไทยไปกัมพูชาทั้งหมดแล้ว เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย
"ผมเห็นว่าการที่กัมพูชามีปัญหากับไทยจะส่งผลเสียหายกับกัมพูชาในด้านการท่องเที่ยวมากกว่า เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหา ตั้งแต่เรื่องปราสาทเขาพระวิหาร นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยวในกัมพูชา และเมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกก็ยิ่งส่งผลให้คนไทยไม่เดินทางไปเลย โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวกัมพูชาเฉลี่ย 600,000-700,000 คนต่อปี เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคาดว่าคนไทยจะเดินทางไปเที่ยวกัมพูชาไม่ถึงครึ่ง"
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังกัมพูชา โดยเฉพาะชาวตะวันตกก็จะไม่กล้าเดินทางไปกัมพูชาด้วย เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลใช้ความอดทนให้มาก เพราะหากมีเสียงปืนดังขึ้นก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา
ทยอยคืนตั๋วบินไปกลับสุวรรณภูมิ-พนมเปญ
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อตั้งรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที ส่วนเที่ยวบินไป-กลับ สุวรรณภูมิ-พนมเปญยังให้บริการเป็นปกติ แต่ช่วงเช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน มีผู้โดยสารขอยกเลิกตั๋วโดยสารทั้งขาเข้าจากพนมเปญ-สุวรรณภูมิ และขาออกจากสุวรรณภูมิ-พนมเปญแล้ว รวม 14 ราย แต่โดยรวมสถานการณ์ยอดจองตั๋วโดยสารยังถือว่าอยู่ในภาวะปกติ เพราะมีการยกเลิกตั๋วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นายสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติการบินไทยมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว โดยแผนจะมีหลายระดับ ทั้งนี้จะยึดความปลอดภัยเป็นหลัก หากพื้นที่ใดไม่ปลอดภัยก็จะเรียกเจ้าหน้าที่การบินไทยที่อยู่ในประเทศนั้นกลับทันที แต่เหตุการณ์ครั้งนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง
ม.ล.นันทกา วรวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า เส้นทางบินไปกัมพูชายังเปิดบินเป็นปกติ แต่จะจับตาดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
พร้อมย้ายจนท.พาณิชย์กลับไทยหากเลวร้าย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
