มาร์คเมินจิ๋ว เทพเทือกปัดคุยพูโล

"บิ๊กจิ๋ว"หวานเจี๊ยบน้อมรับเสียงวิจารณ์ ไอเดียจัดตั้งนครปัตตานี ปฏิเสธเป็นแนวคิดกบฏหรือแบ่งแยกดินแดน

ระบุเป็นการใช้ยาแรง หวังกระตุ้นให้รัฐฯ กระตือรือร้น หันมาใส่ใจแก้ไขปัญหา แต่กลับแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจมากกว่า ด้าน “มาร์ค” เมินแนวคิด ยึดแนวทางคุยกับนายกฯมาเลย์ ที่เห็นด้วยกับแนวทางดับไฟใต้ของรัฐบาล “สุเทพ” ปัด จับเข่าคุยพูโล สางปัญหาไฟใต้ ย้ำไม่อยากหน้าแตกซ้ำอีก
   
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม

ได้มีการพิจารณากระทู้ถามสดของ นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน ถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่องการกระจายอำนาจบริหารถึงการจัดตั้งนครปัตตานี จนทำให้เกิดความสับสนว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนกับการตั้งเขตปกครองพิเศษในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ และหากมีการตั้งเขตปกครองขึ้นมาจริง จะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในเมื่อรัฐบาลมีความพยายามจะปรับปรุงการบริหาร ราชการแผ่นดินในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ หากในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงเหมือนกับในกรุงเทพมหานคร
   
นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ในเรื่องนครปัตตานีนั้น ส่วนตัวไม่ทราบแนวคิดของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย

มีโครงสร้างในการบริหารอย่างไร แต่สำหรับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหา จะต้องเป็นไปภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และตอนนี้ได้มีนโยบายการปรับปรุงระบบการบริหารราชการแผ่นดินในพื้นที่ ด้วยระบบกฎหมายผ่านการเสนอร่าง พ.ร.บ. เพื่อยกฐานะของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถเสนอให้สภา พิจารณาได้ในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ
   
“รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดที่จะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง เพราะจะเอาพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ โดยตรงอย่างกรุงเทพฯ มาเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะในกรุงเทพฯ มีการบริหารในลักษณะนี้มานานแตกต่างจากจังหวัดอื่น และกรุงเทพฯ เองก็มีปัญหาการบริหารที่ไม่ทั่วถึง ระหว่างกรุงเทพฯ ชั้นนอกและชั้นใน จนมีการเสนอเปลี่ยนระบบเป็นระบบเทศบาลย่อยแทน จึงคิดว่า กรณี 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นคน ละกรณีกับกรุงเทพฯ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือในการแก้ไขปัญหากับรัฐบาลมาเลเซียแล้ว

โดยการประชุม เอเปกที่สิงคโปร์ จะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียถึงการเตรียมความพร้อมในระหว่างที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการ และเดินทางลงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เท่าที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อครั้งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ผ่านมาเห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลไทยและถือว่าเป็นกิจการภายในของประเทศไทย ที่จะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่พร้อมจะให้ความร่วมมือระหว่างกัน
   
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพูโลระบุว่า พร้อมเจรจากับทางการไทย โดยขอให้นายกรัฐมนตรี มาเลเซียเป็นคนกลาง เพื่อแสวงหาทางออกในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัด ภาคใต้ ว่า ไม่ได้สนใจ เพราะไม่เห็นหรือว่า การเจรจาล้มเหลวกันมากี่หนแล้ว ตนไม่อยาก หน้าแตก และคงจะไม่พูดอะไรที่ไปท้าทาย เพราะคิดว่า ไม่น่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง
   
ที่รัฐสภานายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.  สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิด พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ กล่าวถึงแนวคิด การจัดตั้งนครปัตตานี ว่า จากการพูดคุยครั้งล่าสุดกับ พล.อ.ชวลิต บอกว่า ไฮไลต์จริง ๆ ต้องมองต่อเนื่องทั้ง 3 ยุทธศาสตร์

คือ 1.ดอกไม้ หลากสี 2.ถอยคนละ 3 ก้าว 3.ตั้งนครปัตตานี เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ โดยทั้งสามส่วนต้องสัมพันธ์กัน และพล.อ.ชวลิต ไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง เพราะจริง ๆ แล้วอยากทำประโยชน์ให้บ้านเมืองในบั้นปลายชีวิต โดยได้ให้โอกาสรัฐบาลแก้ไขปัญหาตามที่ได้แถลงนโยบายเร่งด่วนมานาน แต่เหตุการณ์ยังรุนแรงขึ้น เพราะรัฐบาลไปแก้ไขแต่ปัญหาตัวเอง เลยไม่ได้ทำอย่างอื่น
   
นายชวลิต กล่าวว่า อยากให้มองว่าคนที่ทำงานด้านความมั่นคงมาชั่วชีวิต ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ต่อต้านการปฏิวัติมาไม่รู้กี่ครั้ง


มีหรือจะยอมให้มีการแบ่งแยกดินแดน สำหรับโมเดลนครปัตตานี เป็นรายละเอียดที่ต้องหารือกันหลายฝ่าย คงเอาสิ่งที่ตกผลึกแล้วจากหลายส่วนมารวมกัน จาก สถาบันการศึกษาหลายแห่งที่ได้ทำการศึกษาไว้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่แนวคิดกบฏหรือแบ่งแยกดินแดน เพียงแค่มีอำนาจในการดูแลตัวเองระดับหนึ่ง เพราะมีอัตลักษณ์ท้องถิ่น  สูง แต่ถึงแม้จะมีคนออกมาโจมตีไม่เห็นพล.อ.ชวลิต จะบ่น แต่กลับหัวเราะชอบใจ และบอกว่า เขาแกล้งไม่เข้าใจมาก กว่า เพราะที่เสนอชัดเจนว่า ทุกอย่างอยู่ในกรอบกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย และใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของทั้งสองพระองค์
   
นายชวลิต กล่าวด้วยว่า จริง ๆ แล้ว น่าจะมาร่วมมือกันแก้ปัญหา ไม่น่าคิดเป็นเรื่องหาเสียงหรือประเด็นการเมือง และท่านยังบอกด้วยว่า สิ่งที่ทำคือการใช้ยาแรง

เพราะถ้าไม่ใช้ยาแรง รัฐบาลก็ไม่กระตือรือร้นแก้ปัญหา ส่วนการออกกฎหมายนิรโทษและอภัยโทษตามที่นายสุเทพ ออกมาคัดค้านนั้น แนวคิดของ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้นิรโทษหรืออภัยโทษยกเข่ง แต่เปิดทางให้มีการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเราต้องยอมรับความจริงว่า เราผลักประชาชนในพื้นที่ไปเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบจำนวนมาก ทั้งที่ความจริงแล้วเขามีกองกำลังไม่มาก
   
ที่ศาลาการเปรียญ วัดเมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ในนามผู้แทนมหาเถรสมาคม

นายวิทยา พานิชพงษ์ รอง ผวจ.ยะลา นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีถวายให้กับวัด และที่พักสงฆ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไม่มีผู้รับจองเป็นเจ้าภาพ โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดยะลา และคณะสงฆ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จาก 57 วัด เข้าร่วมในพิธีและรับมอบผ้าป่า.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์