โฆษกเพื่อไทยท้า อภิสิทธิ์ ยุบสภาพิสูจน์ หลังโอ่หากเลือกตังใหม่ ปชป.ชนะ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามนายสุทธิชัย หยุ่น พิธีกรรับเชิญรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม

ถึงการเข้ามาทำงานการเมืองว่า เป็นคนเลือกเข้ามาทำงานการเมืองและรู้สึกสนุกกับงานการเมืองจริงๆ แตกต่างจากแนวคิดของนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ที่บอกว่า I donžt enjoy being prime minister, it is my duty เพราะเป็นหน้าที่และเชื่อมาตลอดว่าหากจะทำอะไรให้ดีก็ต้องสนุกกับมัน และการที่อยู่กับการเมืองมานานทำให้พอรู้ว่าการเมืองคือการแก้ปัญหา ขณะเดียวกันพอรู้ว่ามันเป็นอย่างนี้จึงจะไม่ให้ปัญหาวันต่อวันมาบดบังในสิ่งที่อยากทำสำหรับระยะยาว 

"ผมสนุกกับการแก้ปัญหา ที่เราพยายามจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การจะคิดว่ามีใครคนหนึ่งจะมาทุบโต๊ะชี้นิ้วคงไม่มี ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ แม้ผู้นำชาติมหาอำนาจก็จะรู้มากขึ้นด้วย ว่าตัวเองก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้หลายเรื่องโดยลำพัง ที่สุดแล้วก็ต้องชักชวนให้คนทั้งประเทศมาทำร่วมกันถึงจะสำเร็จ" นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า การโดนด่า โดนวิจารณ์ตลอดเวลา รู้สึกหรือไม่ว่าการเล่นการเมืองมันไม่คุ้ม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าหงุดหงิดเวลาที่การวิพากษ์วิจารณ์

ซึ่งไม่อยู่กับข้อเท็จจริง หรือว่าไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไหร่ หรือว่าถ้าเลวร้ายที่สุดก็อาจจะมีวาระแอบแฝง แต้ถ้ามีข้อวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะทำให้เห็นปัญหา ต้องขอบคุณ "บางครั้งก็บอกกันว่าเป็นเด็ก อ่อน ไม่เข้มแข็ง แต่บางครั้งก็พูดว่าเด็กดื้อ แต่เด็กเขาไม่นับว่าผมเป็นเด็กอยู่แล้ว ผมก็อายุพอสมควรแล้ว ผมก็กล้าให้เปรียบเทียบได้ว่าถ้าบอกว่าเด็กคือ ไม่มีวุฒิภาวะ ตอบผมมาว่าไม่มีวุฒิภาวะเรื่องอะไร เรื่องความสามารถ เรื่องจริยธรรม เรื่องอารมณ์ ตรงไหนบกพร่องบอกมา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า หากนายกฯมี 100 ความฝัน วันนี้ถือว่าได้สักกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตั้งใจว่าเมื่อครบ 1 ปี จะตรวจการบ้าน

และเท่าที่จำได้ก็มีหลายเรื่องได้ทำไปแล้ว ยืนยันได้ว่าทุกอย่างยังเดินตามความฝันทั้ง 100 ฝันยังอยู่ แม้วันนี้ยังทำได้ไม่หมด ก็จะขอทำต่อไปให้ครบ แต่บอกไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าใด "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ถ้าเขาบอกว่าสงสัยทำอย่างนี้ชาติหน้าก็ไม่เสร็จ  เขาคงไม่ให้ผมเป็นนายกฯ" นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้พร้อมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากเลือกตั้งพรุ่งนี้ก็พร้อม ไม่มีปัญหา แต่จะแพ้หรือชนะอยู่ที่ประชาชน แต่ประเมินไว้ว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้หรือชนะก็ห่างกันไม่มาก

เมื่อถามว่า สูสีกับพรรคเพื่อไทย (พท.) นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สูสี เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะแพ้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คะแนนพรรคน่าจะชนะ แต่ ส.ส.เขตยังเป็นปัญหาอยู่ เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าคะแนนพรรคจะชนะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากหลายการสำรวจความคิดเห็นอะไรต่างๆ คราวที่แล้ว ปชป.แพ้ไปไม่กี่แสนคะแนนจาก 30 ล้านเสียง หลังจากนั้นมาได้ทำอะไรหลายอย่าง และจากการสัมผัสกับพี่น้องประชาชนก็มีความพึงพอใจและหลายคนยอมรับ 

เมื่อถามว่า พร้อมทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะอยู่ต่อเลือกตั้งหรือยุบสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "พร้อมหมดล่ะครับ" เมื่อถามว่า พร้อมรับการปฏิวัติไหม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่พร้อม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่พร้อม แต่ประเทศไม่พร้อม

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. แถลงกรณีกลุ่มที่ ส.ส.หญิง ปชป.ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่จะมี ส.ส.ปชป. 5 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน

ย้ายมาร่วมงานกับ พท.ว่า รู้สึกเห็นใจกับกลุ่ม ส.ส.หญิง ซึ่งทราบมาว่าขณะนี้ถูกผู้ใหญ่ในพรรคกดดันอย่างหนักให้มาแถลงข่าวแสดงจุดยืนในภาวะที่พรรคกำลังเลือดไหลอย่างหนัก แต่ตนจะไม่ตอบโต้เรื่องนี้ เพราะต้องการให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และหากต้องการจะรู้ว่าใครจะเป็นคนย้ายเข้ามาอยู่ พท.ก็ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาสยุบสภา จะได้รู้ว่า ส.ส.ปชป.คนไหน และพรรคร่วมรัฐบาลคนไหน ที่จะตัดสินใจทำงานการเมืองกับ พท.

"กรณีนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ว่ามั่นใจในคะแนนของ ปชป.จะชนะ เพื่อไทยหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในอนาคตนั้น ก็ขอให้นายอภิสิทธิ์รีบยุบสภา เพื่อจะได้มีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์จะได้รู้ว่าสิ่งที่คิดนั้นถูกต้องหรือไม่ สำหรับ พท.พร้อมสำหรับการเลือกตั้งอยู่แล้วและมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งด้วย" นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายธีระชัย แสนแก้ว คณะทำงานกลั่นกรองผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้งของพรรคว่า ภท.ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นพรรคอันดับ 3

โดยมีเป้าหมายว่าผู้สมัครของพรรคน่าจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.60-70 คน"พวกเราพร้อมทุกวัน พร้อมทุกนาที และพร้อมทุกวินาที สำหรับการเลือกตั้ง ตอนนี้เรามี ส.ส.ของพรรคเอง จากพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนที่อุดมการณ์ตรงกัน และจะย้ายมาอยู่ร่วมกันก่อนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น มานั่งประชุมกันอยู่ประมาณ 40 คน พร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมกับว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีคุณภาพอีกจำนวนหนึ่งที่เราสร้างเอาไว้ก็น่าจะทำให้พรรคได้รับเลือกตั้งมาวันนี้ประมาณ 60 คน ตามยุทธศาสตร์พรรคเราที่จะเป็นพรรคที่ 3 เพื่อร่วมรัฐบาล ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลก็ต้องตกเป็นฝ่ายค้าน" นายธีระชัยกล่าว