สื่อนอกสับอาเซียน สร้างความขัดแย้งมากกว่าผูกสัมพันธ์ เอ็นจีโอวอนหยุดสร้างเขื่อนสาละวิน จี้ปล่อยซูจี


สื่อมวลชนจีนวิจารณ์อาเซียนเละเป็นโจ๊ก บอกสร้างความขัดแย้งมากกว่ากระชับสัมพันธ์ หลังมาร์ควิวาทะฮุนเซน เอ็นจีโอเรียกร้องไทยหยุดสร้างเขื่อนสาละวิน พร้อมจี้พม่าปล่อยตัวซูจี

สื่อนอกจับตารอยร้าวอาเซียน


เหตุวิวาทะที่ปรากฏในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปรากฏว่าสื่อต่างประเทศจับจ้องและรายงานข่าวไปทั่วโลก โดย จู เอ๋อจี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวของจีนเผยแพร่รายงานข่าวบนเว็บไซต์ โปรยหัวเอาไว้ว่า "รอยร้าวที่ทำลายความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอาเซียนบนเวทีประชุม" ซึ่งเนื้อหาของรายงานชิ้นนี้ระบุว่า ปกติเวทีหารือของผู้นำจะมุ่งเน้นถึงความสมานสามัคคีและการร่วมมือกันพัฒนาก่อนที่จะจบลงด้วยการรับรองปฏิญญาร่วมกันโดยที่ไม่ค่อยจะมีเรื่องที่ทำให้แปลกใจเกิดขึ้นมากนัก แต่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 นี้ กลับมีเหตุขัดแย้งเกิดขึ้นในหมู่ชาติอาเซียนจนไปบดบังแก่นสารหรือสาระสำคัญของการประชุมเอาไว้ นั่นคือการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน และยังทำให้เกิดคำถามขึ้นด้วยว่าจริงๆ แล้วอาเซียนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแค่ไหน 


รายงานชิ้นนี้ได้หยิบยกตัวอย่างหลายเหตุการณ์ขึ้นมาสนับสนุนบทสรุปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นวิวาทะที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไทยกับฟิลิปปินส์ที่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องกำแพงภาษีนำเข้าข้าวที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน และการกีดกันภาคประชาสังคมเข้าร่วมพบปะหารือกับผู้นำอาเซียน นอกจากนี้ยังระบุว่า ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนั้นยังปรากฏว่าผู้นำชาติอาเซียนมาร่วมพิธีเปิดไม่ครบด้วย โดยขาดไปถึง 4 ประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


จี้พม่าปล่อย"ซูจี"พร้อมนักโทษ


ที่โรงแรมพุทธรักษา อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อประชาธิปไตยในพม่า หรือ AIPMC จากประเทศไทย ร่วมกับ น.ส.จ๋ามตอง ตัวแทนเครือข่ายปฏิบัติงานผู้หญิงไทยใหญ่ MR.Son Chhay ตัวแทน ส.ส.ประเทศกัมพูชาจากพรรคการเมืองของสมรังสี ร่วมกันแถลงข่าวว่า สมาชิกรัฐสภาในประเทศอาเซียนมีความสนใจในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในพม่า ร่วมกับประเทศอื่นในทวีปยุโรป องค์กรภาคประชาสังคมในพม่า สมาชิกรัฐสภาพม่าที่มาจากการเลือกตั้ง และสมาชิกรัฐสภาพม่าพลัดถิ่น โดยเรียกร้องให้ผู้นำทหารพม่านำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประชาธิปไตยในพม่า


นายไกรศักดิ์กล่าวว่า ขอให้พม่าปลดปล่อยนางออง ซาน ซูจี และนักโทษพม่าที่ถูกจองจำนับพันคน และขณะนี้ AIPMC เรียกร้องให้กลุ่มอาเซียนและสหประชาชาติให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมกับรัฐบาลเผด็จการพม่า ที่ไม่สนใจต่อสิทธิมนุษยชนและล้มเหลวในการปฏิรูปประชาธิปไตยในประเทศ หลังประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2533 และหวังว่าผลจากการประชุมอาเซียนครั้งนี้ ควรจะทำให้ผู้นำพม่าเปลี่ยนแปลงท่าทีทางการเมือง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม


ต่อมา น.ส.จ๋ามตองอ่านแถลงการณ์ ภายหลังยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลไทยในการประชุมอาเซียนครั้งที่ 15   โดย 51 องค์กรภาคประชาชนจากพม่าเรียกร้องให้ไทยหยุดสร้างเขื่อนสาละวิน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพม่าในการขยายสงครามกลางเมืองภายในของพม่า ซึ่งโครงการนี้ไม่สามารถรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยได้ และโครงการสาละวินหมายถึงสงคราม จะทำให้มีผู้อพยพเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น


เวลา 16.20 น. เกิดเหตุรถยนต์ทะเบียน loc (เกาหลี) วิ่งมาด้วยความเร็วจากชะอำ มุ่งหน้าเข้า อ.หัวหิน ก่อนถึงทางแยกหน้าท่าอากาศยานหัวหิน ซึ่งได้มีการปิดการจราจรทั้งช่องขาเข้าและล่องใต้ มีตำรวจประมาณ 5-6 นาย ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่ง และได้หักหลบรถยนต์ที่อยู่ฝั่งสนามบินที่กำลังออกมาตรงกลางถนน พุ่งออกมาอีกฝั่งชน ด.ต.สมจิต ใจดี ตำรวจ สภ.หัวหิน ซึ่งกำลังให้สัญญาณมือหยุดรถที่วิ่งผ่านเนื่องจากมีขบวนผู้นำจากทุกประเทศและผู้ติดตามใช้เส้นทางตลอดเวลา ทำให้รถยนต์ทะเบียนกาหลีเบรกไม่ทัน พุ่งชน ด.ต.สมจิตตัวลอยและตกลงมากระแทกกระจกหน้ารถยนต์ ก่อนตกลงมาบนพื้นถนน แต่ ด.ต.สมจิตยังคงมีสติ ได้แต่ยิ้มขณะที่เลือดอาบใบหน้า เจ้าหน้าที่รีบนำตัว ด.ต.สมจิตส่งโรงพยาบาลหัวหิน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร


ถกอาเซียนวันที่2ไร้เงา2ผู้นำ


ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 15 ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ในวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่สองว่า หลังผ่านพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้นำอาเซียนยังเดินทางมาร่วมประชุมไม่ครบทั้ง 10 คน เช่นเดิม เนื่องจากประธานาธิบดีสุศีโล บัมบัง ยุทโธโยโน ของอินโดนีเซีย และประธานาธิบดีกลอเรีย อาโรโย ของฟิลิปปินส์ เดิมมีกำหนดจะเดินทางมาถึงไทยในช่วงค่ำ วันที่ 23 ตุลาคม แต่ปรากฏว่าได้เลื่อนกำหนดการเดินทางออกไปอีก โดยประธานาธิบดีอินโดนีเซีย จะเดินทางมาถึงในเวลา 11.25 น. ขณะที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มาถึงในเวลา 12.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ส่งผลให้การหารืออย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียนระหว่างเวลา 08.00-09.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้หารือกันครบทั้งหมด ก่อนที่จะเข้าสู่กรอบการเจรจาระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาคือจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย มีผู้นำอาเซียนเข้าร่วมไม่ครบ แต่ทั้งสองประเทศส่งตัวแทนร่วมประหารือ


นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยังพลาดการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น และอาเซียน-เกาหลีใต้ รวมถึงการถ่ายภาพหมู่ระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้นำจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีขึ้นหลังเสร็จการประชุมด้วย อย่างไรก็ตาม หลังเดินทางมาถึงท่าอากาศยานบ่อฝ้าย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันระหว่างผู้นำอาเซียนกับบวกสาม คือจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ทันที ขณะที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เริ่มเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ซึ่งจัดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารกลางวัน


คุยญี่ปุ่นชมจัดประชุมเยี่ยม


นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือทวิภาคีระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับนายยูกิโอะ ฮาโตยามา นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ผู้นำญี่ปุ่นแสดงความยินดีและสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ในการเป็นประธานจัดประชุมสุดยอดอาเซียนได้อย่างเรียบร้อย โดย 2 ประเทศยืนยันถึงความร่วมมือและสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และพูดคุยถึงการขยายกรอบความร่วมมือทางการค้ากับญี่ปุ่นตามกรอบข้อตกลงเสรีทางการหรือ JTEPA และยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังได้ฝากให้รัฐบาลไทยส่งเสริมบริษัทของญี่ปุ่นในไทย ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้รับปากที่จะดูแลให้ นายกรัฐมนตรีขอให้ญี่ปุ่นนำเข้าอาหารและแรงงานจากไทยมากขึ้น พร้อมกับเสนอว่าไทยต้องการความสนับสนุนจากญี่ปุ่นในโครงการการตั้งระบบสำรองข้าว เนื่องจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติในอาเซียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นว่า เป็นแนวความคิดที่ดีและพร้อมให้ความร่วมมือ


ระทึก!กระจกห้องแถลงข่าวแตก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์สื่อมวลชน โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา เกิดเหตุระทึกขวัญเมื่อมีเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นระหว่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกำลังแถลงข่าวอยู่ด้านในทำให้ผู้สื่อข่าวนับร้อยตื่นตกใจ ปรากฏว่ากระจกด้านบนของประตูทางออกจากศูนย์ข่าวเกิดแตกร้าวทั้งบาน เจ้าหน้าที่ของโรงแรมจึงรีบถอดบานประตูกระจกด้านล่างออกพร้อมกับเก็บกวาดกระจกด้านบนไปทิ้ง เบื้องต้นทางโรงแรมสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอากาศด้านในศูนย์ข่าวเย็นจัดขณะที่อากาศด้านนอกร้อนจัด เจ้าหน้าที่โรงแรมระบุว่าเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม จะมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบก่อนจะสรุปผลอีกครั้ง


ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เกิดอุบัติเหตุบนอาเซียนเลนอีกครั้ง หลังรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียน ชย 9788 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นรถส่วนบุคคลที่ใช้อาเซียนเลน โดยไม่ได้รับอนุญาต วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถจักรยานพ่วงข้างบรรทุกไข่ไก่ที่กำลังจะกลับบริเวณสามแยกใกล้วังไกลกังวล เป็นเหตุให้นายนิคม ประเสริฐแก้ว คนขี่รถจักรยานได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวหิน


"กรีนพีซ"วอนปกป้องสิ่งแวดล้อม


เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มกรีนพีซได้เคลื่อนไหวรณรงค์โดยกลิ้งลูกโลกยักษ์ 2 ลูก พร้อมกับชูป้ายข้อความ "Asean : U turn the Earth หรือ อาเซียนสามารถยูเทิร์นโลกได้" จากบริเวณหน้าโรงแรมเชอราตัน หัวหิน ซึ่งเป็นศูนย์ข่าวไปยังโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15  โดยนายธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องให้ผู้นำอาเซียนรวมตัวกันเพื่อปกป้องและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขอให้ผู้นำอาเซียนผนึกกำลังกดดันให้ผู้นำของประเทศอุตสาหกรรมทั่วโลก ยอมรับข้อตกลงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล สนับสนุนให้เกิดข้อตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการประชุมสุดยอด ที่กรุงโคเปนเฮเกน ในเดือนธันวาคมนี้ และยกให้แผนการรับมือสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นวาระเร่งด่วนของอาเซียน



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์