นพดลปัดแม้วหนุนใช้รธน.ปี40หวังฟอกตัว ไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว นายกฯโยนฝ่ายค้านช้า

"ประชา"อ้าง"แม้ว"ฝากบอกลูกพรรคไม่เอาแก้รธน. บีบปธ.วิปค้านแจงเหตุกล้าหักมติพรรค "นพดล"เชื่ออดีตนายกฯหนุนใช้รธน.ปี40หวังฟอกตัว "เฉลิม"เผยลาออกจากประธานส.ส.เพื่อไทยไม่ได้โกรธเคืองใคร ประชุมพรรค 13 ต.ค.ทุกอย่างจบ "เสธ.หนั่น"แนะเพื่อไทย-นปช.คิดให้รอบคอบก่อนทวงรธน.

"เสธ.หนั่น"แนะเพื่อไทย-นปช.คิดให้รอบคอบก่อนทวงรธน.ปี40


พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ถึงแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นัดชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องทวงคืนรัฐธรรมนูญ 2540 ว่า คิดว่าทางพรรคเพื่อไทยและกลุ่ม นปช. น่าจะปล่อยให้เขาถบเถียงกันและมีการเสนอความเห็นกันก่อนซึ่งทุกอย่างจะลงตัวเองในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ


"ผ่านมาพรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่าไม่แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้ออกมากลับลำพูดว่าจะว่าแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยจะออกมาเรียกร้องเอากฎหมายรัฐธรรมนูญในปี40 มาใช้  ซึ่งทุกอย่างอยากให้มีการพิจารณาให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ  ซึ่งขอให้แก้กันเพียงครั้งเดียวเท่านั้นอย่าแก้กฎหมายซ้ำซาก"
 

พล.ต.สนั่น กล่าวอีกว่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยและ นปช.ชุมนุม เพื่อถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยและ นปช. ที่มีสิทธิ์ทำได้ หากว่าไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใครเรียกร้องจะเสนอหน่วยงานไหนก็แล้วแต่ที่เขาจะพิจารณากันไป
 

"นพดล"ปัด"แม้ว"หนุนใช้รธน.ปี40 หวังฟอกตัว


นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ  สนับสนุนให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ เพราะต้องการฟอกตัวเองว่า อยากให้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์มองโลกในแง่ดีบ้าง เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นฉบับที่ดีที่สุดแต่ถูกฉีกทิ้งโดยทหาร ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรที่จะนำฉบับที่ดีที่สุดมาบังคับใช้ แทนรัฐธรรมนูญฉบับทายาทอสูรที่ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเจตนาใดๆแอบแฝงทั้งสิ้น เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีเพียงคดีเดียวที่ถูกศาลพิพากษาคือที่ดินรัชดา และคดีดังกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้น ซึ่งก็คือคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)อยู่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฟอกตัวตามที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอ้าง


นายกฯโทษแก้รัฐธรรมนูญช้า เพราะฝ่ายค้านไม่เกี่ยวรัฐบาล


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยยืนยันจะไม่ร่วมทำประชามติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า เท่าที่พูดคุยกับ ส.ส.ฝ่ายค้านยังไม่มีความชัดเจนแน่นอนว่า จะไม่ทำประชามติ

"จะไม่มีการมาเริ่มใหม่ที่ให้ถามประชามติว่า จะเอารัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ 2550 เพราะทั้ง 2 ฉบับมีข้อบกพร่อง ซึ่งทุกคนก็ยอมรับอยู่แล้ว เหตุใดจึงไม่เอาสิ่งที่เป็นไปได้และมีข้อยอมรับกลับไปเอาสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่ามีข้อบกพร่อง ฉะนั้นจึงเป็นคำถามที่พรรคเพื่อไทยจะต้องตอบว่า เมื่อมีกระบวนการสมานฉันท์ซึ่งเกิดขึ้นในสภาและเดินหน้าไป มีข้อตกลงกัน เหตุใดจึงไม่ดำเนินการตามนี้ ถ้าฝ่ายค้านไม่เปลี่ยนใจก็เดินได้เร็วกว่านี้ เพราะฉะนั้นที่ล่าช้าเป็นเพราะฝ่ายค้าน ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล และผมยังมองไม่เห็นว่าผมไปซื้อเวลาตรงไหน มีแต่ผมเป็นฝ่ายเร่งรัดให้มีความชัดเจน" นายกรัฐมนตรี กล่าว


"ประชา"อ้าง"ทักษิณ"ค้านแก้รธน.จี้"วิทยา"แจงกล้าหัก"เฉลิม"


นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่า มีสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ หลังจากที่ ส.ส.ของพรรคได้เดินทางไปเยี่ยมที่ดูไบ ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค ก็เห็นด้วย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจถึงสาเหตุของการออกมาแถลงหักมติพรรคของ นายวิทยา บูรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) โดยในที่ประชุมพรรค วันอังคารนี้ นายวิทยา จะต้องชี้แจงถึงสาเหตุให้กระจ่าง โดยจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน รวมถึงจะมีการขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยกลับมาทำหน้าที่ด้วย


อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถตกลงทำความเข้าใจกันได้ พรรค จะมีการออกมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ยืนยันว่าเป็นการบอยคอตหรือไม่ แต่ไม่ใช่การขับออกจากพรรคแน่นอน เพราะพรรคถือว่ายังไม่ขัดแย้งจนถึงขั้นแตกหัก แค่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น


พท.คิดตื๊อ"เฉลิม"นั่งปธ.สส.ต่อ


ก่อนหน้านี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ทบทวนการลาออกจากการเป็นประธาน ส.ส.พท. ภายหลังประกาศลาออกไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวขัดแย้งในแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปัญหาช่วงชิงการนำกับกลุ่มอดีตกรรมการบริหารพรรค


นายคณวัฒน์ วศินสังวรณ์ รองหัวหน้า พท. กล่าวถึงเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ว่าแกนนำและ ส.ส.พท.บางส่วน ได้หารือกันเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ตุลาคม โดยเห็นว่าท่าที ร.ต.อ.เฉลิม และนายวิทยา บุรณศิริ  ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้านในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมติพรรค พท. ที่สนับสนุนให้นำรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับมาประกาศใช้ ตามที่พรรคออกแถลงการณ์ไปก่อนหน้านี้ แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องรายละเอียด โดย ร.ต.อ.เฉลิมเห็นว่าฝ่ายค้านต้องแสดงท่าทีไม่ร่วมกับรัฐบาล ในการแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นตามผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เพราะไม่มีประโยชน์กับประชาชน ขณะที่นายวิทยาเห็นว่าควรแก้ไข 6 ประเด็น เนื่องจาก พท.มีส่วนร่วมการงานในคณะกรรมการสมานฉันท์ฯมาก่อน แต่นายวิทยายืนยันชัดเจนว่า สนับสนุนให้กลับมาใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ดังนั้น เรื่องนี้แกนนำพรรคจึงเห็นตรงกันว่าไม่มีใครผิด


"กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมลาออกจากประธาน ส.ส.นั้น แกนนำพรรคเพื่อไทยจะขอให้ ร.ต.อ.เฉลิมทบทวนการลาออกจากตำแหน่ง เพราะที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิมทำหน้าที่ประธาน ส.ส. ทั้งในและนอกสภาได้เป็นอย่างดี"


เฉลิมบอกไร้ปัญหา-อังคาร"จบ"


ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงปกติสั้นๆ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยววันอังคาร (13 ตุลาคม) จะให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวสอบถามเหตุผลการลาออก ไม่ได้เคืองหรือโกรธใครใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า "ไม่มี ไม่มีอะไรเลย เดี๋ยววันอังคารเรียบร้อย เพราะจะมีการประชุมพรรค แล้วจะให้สัมภาษณ์"


นายวิทยา บุรณศิริ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหากับ ร.ต.อ.เฉลิม ในการประชุมพรรควันที่ 13 ตุลาคมนี้ จะเข้าไปชี้แจงกับ ส.ส.พรรค ให้เข้าใจถึงเหตุผลและจุดยืนในการไปเข้าร่วมกับ วิป 3 ฝ่าย ที่มีมติให้ทำหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายทั้ง 2 สภา เป็นกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯใน 6 ประเด็น 


"ผมยืนยันว่าจะหาทางทำความเข้าใจ รวมทั้งขอร้องไม่ให้ ร.ต.อ.เฉลิมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.อย่างแน่นอน เพราะอย่างไรในฐานะส่วนตัวก็ยังรัก ร.ต.อ.เฉลิม ผมให้ความนับถือท่านเหมือนพี่ชาย มากกว่านายกรัฐมนตรีแน่นอน" นายวิทยากล่าว   


"วิทยา"ปัดรับใบสั่งลุยแก้รธน.


นายวิทยากล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ทำตามหน้าที่ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เห็นชอบตามข้อเสนอของวิป 3 ฝ่ายที่เห็นควรให้ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายทั้ง 2 สภา เป็นกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯเท่านั้น การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่มีใครกำกับอยู่เบื้องหลังเหมือนที่มีกระแสข่าวว่ามีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สั่งให้แถลงเปลี่ยนท่าทีมาสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน ส่วนการที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาแสดงท่าทีคัดค้านนั้น เห็นว่ายังเป็นการเร็วเกินไป เพราะกระบวนการยังไม่ได้ไปถึงการหยั่งเสียงว่าควรจะทำหรือไม่ทำประชามติ หากไปถึงจุดนั้น แล้วฝ่ายรัฐบาลยืนยันจะให้ทำประชามติ ก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว หรือหากจะให้มีการทำประชามติที่ต้องใช้งบประมาณถึง 2,000 ล้านบาท จุดยืนของตนก็ยังเห็นว่าควรที่จะให้ทำประชามติว่าควรจะนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาใช้แทนฉบับปี 2550 หรือไม่มากกว่า


"ตู่"ให้รู้ทัน-อย่าโง่ซ้ำซากตามปชป.


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า พท.ต้องตั้งหลักใหม่ ต้องรู้ทันพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทั้ง 6 ประเด็นไม่เกี่ยวกับประชาชนเลย มีแต่รัฐบาลได้ประโยชน์ และท่าทีประชาธิปัตย์ก็ไม่จริงใจ เพราะหลังจากกรรมการสมานฉันท์เสนอผลการศึกษา พรรคประชาธิปัตย์ก็กดดัน ส.ส.และ ส.ว.กลุ่มหนึ่งที่ร่วมกันเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญ จนต้องถอนเรื่อง วันนี้ที่ออกมาเคลื่อนแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้งก็เพราะพรรคร่วมรัฐบาลกดดัน และทวงสัญญาที่เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่วายเล่นเกมซื้อเวลา เอาการทำประชามติมาอ้าง


"การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงจะได้แก้กันหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งพรรคจะชูนโยบายนำฉบับปี 2540 กลับมา จากนั้นก็ดูข้อดีข้อเสียและแก้ไข จึงต้องขอเสียงประชาชนเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อดำเนินการ ตอนนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยเล่นตามเกมประชาธิปัตย์ ก็จะโง่ซ้ำซาก และพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้อะไรเลย จริงๆ แล้ว ร.ต.อ.เฉลิมที่เพิ่งลาออกจากประธาน ส.ส.ของพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลุ่มคนเสื้อแดง และสมาชิกส่วนใหญ่ในพรรค ก็พูดตรงกันว่า ไม่ควรสังฆกรรมกับประชาธิปัตย์ในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น เพราะถ้ารัฐบาล จริงใจและจะทำจริงก็ทำเองได้อยู่แล้ว แต่เมื่อเกมมาแบบนี้ วิปฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีสติปัญญาพอคิดแก้เกมการเมือง แม้ว่าจะเห็นอยู่ว่าเป็นเกมที่ประชาธิปัตย์เอามาแก้ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง"นายจตุพรกล่าว        

  
จะกล่อม"เฉลิม-วิทยา"ทำงานต่อ


นายจตุพรกล่าวว่า จะพูดทำความเข้าใจเรื่องนี้กับสมาชิกในการประชุมวันที่ 13 ตุลาคม และจะไปขอให้ ร.ต.อ.เฉลิมกลับมารับตำแหน่งประธาน ส.ส.ของพรรค ส่วนนายวิทยาก็ให้อยู่ตำแหน่งต่อไป ต้องอยู่ร่วมกัน เพียงแต่ทุกฝ่ายต้องรู้เท่าทันพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น


เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านชักเข้าชักออกอีกครั้งในการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย จะยิ่งทำให้สังคมมองว่าไม่ร่วมมือสมานฉันท์ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ใช่ชักเข้าชักออก วิปฝ่ายค้านจะอย่างไรแล้วก็ต้องฟังมติพรรค วิปเป็นเพียงไปประสานข้อมูลแจ้งมติฝ่ายค้านให้ที่ประชุมร่วมวิป 3 ฝ่ายทราบ จะไปเจรจานอกเหนือจากมติพรรคไม่ได้ และปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องหน้าตาของ ร.ต.อ.เฉลิม หรือนายวิทยา แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบของพรรคที่จะมีต่อประชาชน และเชื่อว่าประชาชนสนับสนุนฉบับปี 2540 ไม่ใช่นำฉบับปัจจุบันมาแก้ไข ถ้าไม่เอาตามก็จะถูกประชาชนทิ้ง ฉะนั้นวันนี้ทุกคนของ พท.ต้องกลับมาร่วมกัน แล้วคิดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์