หวั่นม็อบต้านอัยการยื่นอุทธรณ์มาบตาพุดแล้ว ส.อ.ท.เผยรัสเซียเตรียมย้ายการลงทุนหนีไทย


อัยการเผยเบื้องหลังเลื่อนอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งระงับ 76 โครงการมาบตาพุด เนื่องจากกลัวม็อบต้าน สภาอุตสาหกรรมฯ เตรียมเข้าพบมาร์คเร่งตั้งองค์กรอิสระตามรธน.แก้ปัญหาด่วนที่สุด เผยรัสเซียเตรียมย้ายการลงทุน

นายประศาสน์ชัย ตัณฑพานิช อธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด รับมอบอำนาจจากรัฐบาลและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-8 ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด  เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม เพื่อขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาและกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวและให้หยุดดำเนินการ 76 โครงการ ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียง จ.ระยอง


นายประศาสน์ชัยกล่าวว่า ที่เดินทางเข้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.ขอให้กลับคำสั่งศาลปกครองกลาง โดยให้ยกคำร้องที่ขอคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวของผู้ฟ้องคดีทั้ง 43 คน 2.ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องระงับโครงการหรือกิจกรรมทั้ง 76 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียง จ.ระยอง


ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังคงสามารถดำเนินการ 76 โครงการได้หรือไม่ นายประศาสน์ชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายให้หน่วยงานของรัฐไปสั่งระงับโครงการ แต่รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้รัฐบาลเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งตนเชื่อว่าหน่วยงานของรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นธรรมที่สุดต่อผู้ลงทุน เพียงแต่บางอย่างอาจไม่สอดคล้องกับความเห็นของประชาชน เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มองค์กรอิสระที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่พยายามยื่นอุทธรณ์ว่า เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม นายประศาสน์ชัยกล่าวว่า เป็นการมองคนละมุมระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยหากมีผลกระทบต่อภาพรวมมาก ก็ควรแก้ไขที่กฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 5 ตุลาคม แต่เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงชาวบ้านที่จะมาชุมนุมประท้วงและต่อต้านการยื่นอุทธรณ์ จึงยื่นอุทธรณ์ก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง 43 คน ยื่นฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (พม.), นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม, นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-8 เรื่อง เป็นหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร


จากการที่ร่วมกันเห็นชอบหรืออนุญาตให้เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ไปดำเนินการก่อสร้างหรือขยายโรงงานในพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉางและใกล้เคียง ที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ขอให้ศาลสั่งระงับโครงการ หรือกิจกรรมใด ทั้ง 76 โครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นมา ซึ่งจะก่อสร้างในเขต อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา


นพ.วรรณรัตน์กล่าวถึงกรณีคำสั่งศาลปกครอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซแห่งที่ 6 ของกลุ่ม ปตท. ว่ารู้สึกกังวลหากการก่อสร้างล่าช้าออกไป จากแผนงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2553 อาจจะทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องใช้เงินในการชดเชยราคาแอลพีจีมากขึ้นตามไปด้วย


สถานการณ์การนำเข้าแอลพีจีในเดือนสิงหาคม 2552 มีการนำเข้าประมาณ 9.07 หมื่นตัน และเดือนกันยายนที่ผ่านมา นำเข้าประมาณ 8.9 หมื่นตัน โดยมีราคานำเข้าประมาณ 577-583 เหรียญต่อตัน ทำให้รัฐต้องชดเชยราคากิโลกรัมละ 10 บาท หรือเฉลี่ยประมาณเดือนละ 890-900 ล้านบาท ถือว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับกองทุนน้ำมันฯทั้งที่มีภาระมากอยู่แล้ว


"อยากจะชี้แจงว่า การก่อสร้างโรงแยกก๊าซแอลพีจี โครงการปรับลดการระบายมลพิษ และการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 4 ของกลุ่ม ปตท. ยืนยันว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานสากล หรืออาจสูงกว่าด้วยซ้ำ ผมเป็นกังวลว่าในระยะยาวหากมีผู้ออกมาคัดค้านโครงการต่างๆ แต่ไม่ฟังเหตุผลของผู้ถูกคัดค้านว่ามีการใช้มาตรฐานที่เป็นไปตามหลักสากลแล้ว จะส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุน และกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว" นพ.วรรณรัตน์กล่าว


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อพิพาทในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อกรณีดังกล่าว สะท้อนจากการลงทุนในตลาดหุ้น ที่หากไม่เชื่อมั่นจะถอนเงินออกไปง่ายกว่า ซึ่งเงินลงทุนในหุ้นช่วงที่ผ่านมาก็อยู่กับเราพอควร ไม่มีเหตุผลที่เขาจะถอนการลงทุนออกไป ขณะที่การลงทุนถาวรในโครงการขนาดใหญ่ที่สะท้อนความเชื่อมั่นในระยะเวลาเกิน 1 ปี


ด้านนางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.เตรียมส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการที่อยู่ในการดูแล 60 ราย ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อชี้แจงสาระสำคัญของคำสั่งศาลปกครองและผลกระทบจากคำสั่งศาลที่เกิดขึ้นให้ผู้ประกอบการรับทราบและเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ กนอ.ในปีงบประมาณ 2553 แน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนระบบสาธารณูปโภคและการจ้างงาน


นายสันติ วิลาศสักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวหลังประชุมร่วมกับ 6 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงว่า การหารือได้ข้อสรุปว่าจะมีผู้ประกอบการบางรายที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการแล้ว จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางด้วยตัวเอง และวันที่ 8 ตุลาคม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน จะเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้ผลักดันการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เช่น เร่งกฎหมายจัดตั้งองค์กรอิสระตามมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญ 2550


นอกจากนี้ จะเสนอนายอภิสิทธิ์ให้ช่วยเหลือปัญหาทางด้านการเงิน อาทิ ปัญหาการชำระหนี้และการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ปัญหาสภาพคล่องจากการที่ไม่สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ ปัญหาสัญญาก่อสร้างเพราะเมื่อโครงการถูกระงับ เจ้าของโครงการอาจถูกฟ้องร้องจากผู้รับเหมา และปัญหาการว่างงาน เพราะในพื้นที่มีการจ้างงานประมาณ 1 แสนคน ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแรงงานเหล่านี้มีความกังวลในการถูกเลิกจ้างอย่างมาก รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงŽ นายสันติกล่าว และว่า ตัวแทนของ ส.อ.ท.เดินทางไปประเทศรัสเซีย ได้รับแจ้งจากนักลงทุนที่มาลงทุนในมาบตาพุดว่า หากทางการไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็จำเป็นต้องย้ายการลงทุนจากไทยออกไป


นายอาจิต เวนคาทารามัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะนักลงทุนต่างประเทศ ยังมีความเชื่อมั่นต่อคำพิพากษาของศาล และคาดว่าท้ายที่สุดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถหาข้อสรุปที่ลงตัวและส่งผลดีต่อทุกฝ่าย สำหรับแผนการลงทุนโรงงานของ ทาทา มอเตอร์ ยังเดินหน้าต่อไปแน่นอน โดยพื้นที่ที่จะใช้ในการก่อสร้างโรงงานเพื่อผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม หรืออีโคคาร์ อยู่ระหว่างศึกษาหาพื้นที่ที่เหมาะสมอยู่ 


เมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประสานงานพันธมิตร ริมถนนสุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง  นายสุทธิ  อัชฌาศัย  ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก แถลงข่าวว่า หากมีการยื่นอุทธรณ์ จะยื่นคัดค้านการอุทธรณ์ ยืนยันว่าหน่วยงานใดยื่นอุทธรณ์ ต้องประณามให้สังคมรู้ว่าไร้จิตสำนึก ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไม่มีความเข้าใจประชาชนคนระยองที่ได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งคงต้องเคลื่อนไหวเข้ากรุงอีกครั้ง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์