บุญรอดไม่กลัวถูกสอบกล้ายางรั่ววิจารณ์ได้


นายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เจ้าของคดีทุจริตกล้ายางพารา เผย ไม่ได้รู้สึกหนักใจ หลัง
ประธานศาลฎีกา สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำพิพากษารั่วไหล รวมไปถึงเรื่องที่
ประธานชมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ร้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.
ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินขององค์คณะผู้พิพากษา ที่เกี่ยวข้องกับคดีกล้ายางพารา โดยยืนยันว่า คำพิพากษา ไม่รั่วไหล
แต่การตัดสินคดี ย่อมเป็นที่ถูกใจของอีกฝ่าย และไม่ถูกใจอีกฝ่าย ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งได้มีการคาดการณ์ไว้แล้วว่า
จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น

ขณะที่ บรรดาองค์คณะผู้พิพากษา ทั้ง 9 คน ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะถือว่าไม่เป็นความจริง ส่วนการออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษานั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล เพราะคำพิพากษา ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบการทำงาน หรือ ทำให้เกิดความกดดันในการตัดสินคดีอื่น ๆ



พิชายื่นหลักฐานปธ.ศาลฎีกาเพิ่มคดีกล้ายางรั่ว

นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย มอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อประธานศาลฎีกา กรณีบุคคลภายนอกทราบผลคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดี เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังประธานศาลฎีกามีคำสั่งแต่งตั้งผู้พิพากษาระดับสูง 3 คน เป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ สำหรับหลักฐานที่ตนไปยื่นนั้น เป็นคำพูดของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทราบผลของคดีล่วงหน้าว่าจะมีการยกฟ้องทั้งหมด โดยเฉพาะ นายเนวิน ชิดชอบ ด้วย มติ 8 ต่อ 1 ซึ่งตรงกับการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ นายพิชา ยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขององค์คณะผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ศาลที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตกล้ายาง


ด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง และ นายสัก กอแสงเรือง อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น โดยบอกเพียงว่า หน้าที่ของ คตส. นั้นจบแล้ว



ศาลผู้พิพากษา ยัน ไม่ได้ทำคำติดสินคดีกล้ายางรั่ว

นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เชื่อมั่นในคำพิพากษาคดีทุจริตกล้ายางพารา พร้อมยืนยันว่า
คำพิพากษาไม่ได้รั่วไหลออกมาจากกองคณะผู้พิพากษา ทั้ง 9 คน แต่สาเหตุที่ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา สั่งตั้ง
กรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้นั้น ก็เพื่อให้เกิดความโปร่งใสให้สังคม คลายความคลางแคลงใจ และให้เกิดความเชื่อมั่น
ในกระบวนการของศาล เพราะที่ผ่านมาได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเชื่อว่าเป็นการคาดเดากันไปเอง ไม่ใช่เพราะ
มีผู้มาร้อง จึงต้องตั้งกรรมการสอบดังกล่าว ส่วนคำพิพากษาจะมีการรั่วไหลจริงหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผล
การสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งประธานศาลฎีกา ได้สั่งให้คณะกรรมการเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ได้ขีดเส้นไว้กี่วัน
พร้อมปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อคณะกรรมการ ทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นผู้พิพากษาระดับสูง


นอกจากนี้ รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ปฏิเสธที่แสดงความคิดเห็น กรณี นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรม
กฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ

บัญชีทรัพย์สินขององค์คณะผู้พิพากษา ที่เกี่ยวข้องกับคดีกล้ายาง เพราะเป็นคนละส่วนกัน

ป.ป.ช. วิชา เชื่อ คดีทุจริตกล้ายาง ไม่รั่วไหล


ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายาง โดยมีกระแสข่าวว่ามีการรู้ผลการพิพาษาล่วงหน้าว่าอาจจะเป็นการคาดเดา ซึ่งเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้มาจากองค์กรคณะผู้พิพากษา ขณะที่เมื่อสังคมเกิดความสงสัยก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีการตรวจสอบเพื่อหาคำตอบให้กับสังคม ขณะเดียวกันตนไม่รู้สึกหนักใจการที่จะต้องพิจารณาคดีที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบที่รับมาจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ซึ่งยืนยันต่อ ป.ป.ช. ไม่เปลี่ยนแปลงสำนวนของ คตส.อย่างแน่นอน

นอกจากนั้น นายวิชา ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าการเลือกใช้วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ต้องคำนึงถึงบรรยากาศทางการเมืองและเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะตัดสิน ขณะที่ส่วนตัวเชื่อว่าหากจะดำเนินการแก้ไขให้สมบูรณ์ต้องมีการตั้งคณะกรรมการยกร่างพร้อมจัดทำประชามติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มีการร่างขึ้นอย่างรอบคอบโดยนำข้อผิดพลาดจากรัฐธรรมนูญ 2550 มาปรับปรุงแก้ไข

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์