สุชนเคาะสรรหากกต.ศุกร์นี้ ทักษิณรีบทูลเกล้าฯ-ส่อเลือกตั้งใหม่19พ.ย.

นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 กันยายนว่า


ได้ส่งหนังสือถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ประชุมวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากผู้ได้รับการเสนอชื่อ 10 คนให้เหลือ 5 คนแล้วในวันเดียวกันนี้ คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 5 กันยายน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ประสานเป็นการภายในและกำหนดเวลาไว้ 3 วันคือ วันที่ 8-10 กันยายนนี้ ถ้ามีพ.ร.ฎ.ลงมาวุฒิสภาพร้อมเปิดประชุมได้ทันที ซึ่งการขอพ.ร.ฎ.ครั้งนี้ระบุวันเปิดและปิดประชุมไว้ชัดเจน เพราะไม่อยากให้ถูกกล่าวหาว่า ซุกวันปิดอีก จึงทำให้ชัดเจนไปเลย

นายสุชนกล่าวต่อว่า


ขณะนี้ได้มอบให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดส่งรายงานผลสรุปการตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วให้ส.ว.ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน เพื่อ ส.ว. จะได้มีข้อมูลก่อนมีมติเลือก ส่วนขั้นตอนหลังได้ 5 กกต.แล้ว ข้อกฎหมายกำหนดให้ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องลาออกจากตำแหน่งภายใน 15 วัน ตนจะขอร้องให้ทั้ง 5 คนลาออกก่อน 15 วัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วนก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะขณะนี้มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ

ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ(กมธ.)


ตรวจสอบประวัติและความประพฤติ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คาดกกต.ชุดใหม่จะเริ่มทำงานได้วันที่ 15 กันยายน หลังวุฒิสภาลงมติคัดเลือกเสร็จใน 10 กันยายนนี้ ซึ่งมีเวลาเตรียมการเลือกตั้งเพียงแค่ 1 เดือน คงไม่ทันจัดการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม จึงต้องทำเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 1 เดือน ซึ่งลงล็อคที่รัฐบาลต้องการ ประมาณวันที่ 19 พฤศจิกายน

ด้าน นายรองพล เจริญพันธุ์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี


เผยว่า ได้นำหนังสือของ นายสุชน เสนอต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลงนามในการนำร่างพระราชกฤษฎีกา ทั้ง 2 ฉบับ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ผ่านทางสำนักราชเลขาธิการแล้ว โดยในวันที่ 5 กันยายน จะนำเรื่องแจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป

ขณะที่ นายประวิง คชาชีวะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง


ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า เนื่องจากการเลือกตั้งกกต.ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้แผนเดิมที่กำหนดไว้ว่า ต้องเปิดรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 5-7 กันยายน และส.ส.เขต วันที่ 8-12 กันยายนนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนเรื่องวันเลือกตั้งที่กำหนดไว้ 15 ตุลาคมนั้น สำนักงาน กกต.ไม่มีอำนาจเลื่อนวันเลือกตั้งเองได้ ต้องรอให้กกต.ชุดใหม่เข้ามาพิจารณา เช่นเดียวกับการที่พ.ร.ฎ.แก้ไขเพิ่มเติมวันเลือกตั้งที่ออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้นั้น คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมีผลกระทบเรื่องการใช้สิทธิ์หาเสียง สามารถไปร้องฝ่ายปกครองได้ แต่สำนักงาน กกต.จะไม่ฟ้องให้ เพราะเกรงจะถูกตำหนิว่าชี้นำ และถูกนำไปอ้างเป็นเรื่องการเมืองว่ารับลูกใครมาหรือไม่ นอกจากนี้ สำนักงานฯยังได้เตรียมปฎิทินดำเนินการเลือกตั้งไว้เสนอต่อกกต.ใหม่แล้ว ถ้ากกต.ถามว่า ควรจะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ เรามีคำตอบแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

วันเดียวกัน มีรายงานจากพรรคไทยรักไทยกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์


รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะไม่ลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
โดยแหล่งข่าวจากคนใกล้ชิดนายสมคิด เปิดเผยว่า นายสมคิดต้องการยุติปัญหาความหวาดระแวงภายในพรรคที่มองว่านายสมคิดต้องการวัดรอยเท้าขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในเรื่องนี้นายสมคิดได้เปิดอกพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทยแล้ว โดยยืนยันไม่ได้ต้องการขึ้นเป็นนายกฯ ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณโล่งใจ และล่าสุดนายสมคิดก็ขอไม่ให้ใส่ชื่อในระบบบัญชีรายชื่อ ทำให้ ส.ส.บางกลุ่มโล่งใจและหยุดโจมตี

แหล่งข่าวคนเดิมเปิดเผยอีกว่า


นายสมคิดให้เหตุผลของการไม่ลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ต้องการพักผ่อนและวางมือทางการเมือง ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยในสหรัฐติดต่อให้ไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือ รวมทั้งอยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกชายทั้ง 3 คนที่อยู่ระหว่างศึกษาและต้องการให้พ่อไปอยู่ด้วย
"ที่ผ่านมานายสมคิดทำงานหนักดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พ.ต.ท.ทักษิณมาตลอด แต่ไม่ได้รับกำลังใจจากคนในพรรครวมทั้งนายกฯ กลับถูกแทงข้างหลัง แต่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน จนล่าสุดที่มีข่าวว่านายพินิจ จารุสมบัติและนายสมคิดจะลาออก นายกฯระบุว่ารมต.เหล่านี้เป็นแค่มือไม้ ทำให้นายสมคิดน้อยใจ" แหล่งข่าวคนเดิมระบุ

ส่วนสาเหตุที่นายสมคิดไม่ตัดสินใจลาออกตอนนี้


แต่รอให้เลือกตั้งเสร็จแล้วนั้น แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าวว่า ถ้าลาออกตอนนี้รัฐบาลพังแน่ ที่สำคัญนายสมคิดไม่ต้องการให้มีการอาฆาตแค้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลอีกไม่น้อยกว่า 3-4 คนลาออกพร้อมกัน อาทิ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายพินิจ จารุสมบัติ รวมถึงนายสุรเกียรติ เสถียรไทย
ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า แม้นายสมคิดจะทุ่มเททำงานให้และประชาชนยอมรับ แต่พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ไว้ใจนายสมคิดมาเป็นนายกฯ โดยพ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานวางคนที่จะมาเป็นนายกฯไว้ในใจแล้ว อาทิ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกฯ นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา

ภายหลังมีกระแสข่าวดังกล่าว


นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้แสดงความเห็นว่า ไม่ทราบรายละเอียด ควรฟังจากปากของนายสมคิดเอง แต่เชื่อว่าอาจเป็นการปล่อยข่าว และสื่อฯควรรอฟังจากนายสมคิดก่อน ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้หลายครั้งและไม่เป็นความจริงดังข่าว แต่สื่อฯก็ชิงนำเสนอข่าวออกไปก่อนทุกครั้ง ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้พูด ขณะเดียวกัน ยังมีข้อโต้แย้งเรื่องนโยบายหาเสียงรถไฟฟ้า ที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทยนำมาใช้หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของต้นคิดนโยบายดังกล่าว

โดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้พรรคไทยรักไทยพร้อมยืนยัน ว่า นโยบายวาระประชาชนด้านขนส่งมวลชนสร้างรถไฟฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ศึกษาวิจัยมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ดังนั้น ที่หาว่าพรรคประชาธิปัตย์ ลอกเลียนแบบมาไม่เป็นความจริง แต่พรรคไทยรักไทยเลวร้ายกว่า ที่เอาข้อมูลมาบอกว่าเป็นของพรรคตัวเอง แบบนี้เรียกว่า ปล้นและพัฒนาเป็นของตนเอง หรือ Rob and Development R&D

เช่นเดียวกับ นายเทพไท เสนพงศ์


โฆษกสำนักเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ แถลงย้ำว่า อยากให้ไทยรักไทยได้ไปเปิดมติครม.สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีนโยบายอะไรบ้าง อย่ามาพูดเพื่อสร้างคะแนนให้ตัวเองเท่านั้น ส่วนค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย เป็นแค่นโยบายชวนเชื่อหวังคะแนนเสียง ในความเป็นจริงทำไม่ได้ อยากบอกพรรคไทยรักไทยว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างด้วยน้ำลายฉันใด น้ำลายก็ไม่สามารถที่จะสร้างรถไฟฟ้าได้สำเร็จฉันนั้น

ส่วนพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน

เห็นว่า การสร้างรถไฟฟ้าเป็นเรื่องของท้องถิ่น กทม.ควรดูแลและเป็นผู้แถลง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ไม่ต้องมาแย่งกันหาเสียง ส่วนตัวเห็นว่า ขณะนี้ควรระงับโปรเจคต่างๆไว้ก่อน ไปดูเงินในคลังว่ามีแค่ไหน และควรกระจายงบพัฒนาให้ทั่วประเทศ
"นโยบายที่เสนอมาผมว่าไม่มีประโยชน์ คว้าน้ำเหลวเปล่าๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าราคาถูก เอางบประมาณไปทำให้คนมีความสุขจะดีกว่า" หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าว

แหล่งที่มา แนวหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์